[RE: กรณี พอล แชมเบอร์ส สอบถามนักกฏหมาย]
PopPuLar พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิง จากข่าว กมธ ทหาร ทำไมศาลไม่วิเคราะห์ถึงพยานหลักฐานเลยครับ เพราะหลักฐานแทบไม่มีมูลเลย
ทุกองค์กร คนอาจมีข้อผิดพลาด อย่างเคสบอสกระทิงแดงในฐานะอัยการ แล้วถ้าศาลตัดสินใจไปแล้ว มีข้อถกเถียงค่อนข้างเยอะ ควรจะต้องมีการถ่วงดุลบ้าง
การออกหมายจับมันยังไม่ใช้การพิพากษา ตัดสินคดี ว่าผู้ต้องหา(ยังไม่ใช่จำเลย)
มีความผิดจริงหรือไม่ เป็นแค่ขั้นตอนแรกๆของกระบวนการยุติธรรมเองครับ
โดยศาลจะพิจารณาจากหลักฐานที่ตำรวจอ้างมาว่า "น่าจะ" เชื่อได้ว่าผู้ต้องหา
มีการกระทำผิดจริง
กระบวนการจะเป็นดังนี้
1. มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
2. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น ถ้าตำรวจรู้ตัวผู้กระทำผิดและ
คิดว่าหลักฐานเพียงพอแล้ว ก็สามารถไปขอศาลให้ออกหมายจับ(จับมาเพื่อสอบสวน)
แต่ถ้าคิดว่าหลักฐานยังไม่พอเพียงก็อาจจะออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหา เข้ามาให้สอบสวน
(แต่ไม่ได้บังคับว่าต้องออกหมายเรียกก่อนขึ้นกับดุลพินิจของตำรวจ)
3. ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมจน เพียงพอที่จะส่งฟ้อง จะส่งสำนวนให้อัยการ
4. อัยการตรวจสำนวน ถ้าเห็นสมควรจึงทำการฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล
5. ศาลรับฟ้องและเริ่มกระบวนการพิจารณา สืบพยานโจทก์ สืบพยานจำเลย
จนสิ้นสงสัยว่า จำเลยได้กระทำผิดจริง จึงพิพากษา ให้ลงโทษจำเลย
ถ้าพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ความผิดของจำเลยก็ต้องยกประโยชน์
แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยและยกฟ้องปล่อยตัวจำเลยไป
จะเห็นว่าการออกหมายจับมันเป็นขั้นตอนที่ 2 เท่านั้น ขั้นตอนในการ
พิสูจน์พยานหลักฐานจริงๆมันอยู่ในขั้นที่ 5
เดิมที่อำนาจในการออกหมายจับเป็นของ "ตำรวจ" ทำให้ตำรวจมีอำนาจ
มากเกินไป(คือยัดข้อหาแล้วออกหมายจับได้เลย) จึงมีการแก้กฎหมาย
เพื่อถ่วงดุลด้วยการ ให้ศาล เป็นผู้ออกหมายจับแทน
ตำรวจทำได้แค่ส่งหลักฐาน(คร่าว)มาให้ศาลพิจารณา
ศาลมีหน้าที่แค่พิจารณาและออกคำสั่ง(ออกหมายจับได้แค่คนที่
ตำรวจขอมาจะไปใช้อำนาจออกหมายจับคนนู้นคนนี้เองไม่ได้)
ปัญหาเกิดเพราะ กฎหมาย ม.112 มันเป็นบั๊กของระบบคือ
1. เป็นกฎหมายในหมวดความมั่นคง ใครๆก็ร้องทุกข์ได้โดยไม่ต้อง
เป็นผู้เสียหาย
โดยปกติตำรวจจะดำเนินคดีบางอย่างเช่น ดูหมิ่น หมิ่นประมาท ได้
ต้องมีการร้องทุกข์จากผู้เสียหายก่อน ซึ่งตรงนี้เป็นการจำกัดอำนาจ
ของตำรวจ แต่กฎหมายบั๊ก มันไม่ต้อง ใครๆก็ร้องทุกข์ได้
และไม่จำเป็นต้องดูเขตอำนาจศาลด้วย ร้องทุกข์ที่ไหนก็ได้ โดยใครก็ได้
(จึงกลายเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งกันทางการเมืองมากมาย)
2. โทษแรงมาก จำคุก 5-15 ปี ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เอาไม้ไปตีหัวคู่อริ
จนสมองพิการ หรือ หมั่นไส้คนมาจีบสาวแข่งกับเรา เลยไปตัดอวัยะเพศ
เค้าทิ้ง ความผิดพวกนี้โดนโทษจำคุก 6เดือน-10ปี หรือ ถือปืนไปปล้น
ร้านทอง มีโทษจำคุก 1-7ปี น้อยกว่า ม.112 มาก
พอโทษหนัก กฎหมายก็ถือว่าเป็นคดีร้ายแรง(ทั้งๆที่อาจจะแค่โพส fb ขำๆ
แต่มีคนไม่ขำไปแจ้งความ) มันก็ต้องดำเนินกระบวนการอย่างดีร้ายแรง