รถผม Civic RS Fe

รถออกมาได้ 1 ปีละครับ ประกันหมดพอดี

ก่อนหน้ากับรถคันอื่น ๆ ก็เคยต่อ ป.1 มาตลอด

แต่รู้สึกไม่คุ้มเลยครับ รอบนี้ตั้งใจว่าจะเอา ป.2+ พอ เนื่องด้วยเหตุผลดังนี้


- ผมเป็นพวกขับรถเว้นระยะห่างชาวบ้านพอสมควร ไม่ขับจี้

ขับรถมา 10 กว่าปี ไม่เคยมีชนคนอื่น และ ไม่เคยมีคู่กรณีสักราย สถิติปัจจุบันยอดชน = 0

เข้าใจว่าเรื่องอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้เสมอ พอเกิดแล้วเราก็อยากได้ประกันที่ดีที่สุด

แต่ปัจจุบันติดเรื่องงบด้วยครับ ไม่อยากให้มันตึงเกินไป

ถ้ามีงบ ก็คงอัดขึ้นไป ป.1 เหมือนเดิมแหละ แต่พอดีช่วงนี้

พึ่งย้ายงานใหม่ แล้วมันถึงช่วงต้องต่อ พรบ. ภาษี ถ่ายน้ำมันเครื่อง ประกัน

มาพร้อมกันหมดเลยครับ อ้วกจะแตก


ป.1 ที่ดูไว้ 13000-14000 ทุนประกัน 784000

ป.2+ ที่ดูไว้ 6500-8000 ทุนประกัน 500000

ของประกันที่เป็นรูปจิงโจ้ครับ

อยากรบกวนแนะนำหน่อย ป.2+ มันพอไหวไหมครับ ต้องระวังเรื่องอะไรเป็นพิเศษไหม

หรือถ้าใครมีแนะนำของที่ไหน หรือมีอะไรแนะนำแจ้งได้เลยครับ ยินดีรับฟังครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

มารอฟังเหมือนกัน เล็งไว้ ป.2 เหมือนกัน ของผมก็ใกล้หมดละ ขับมา 12 ปี ยังไม่เคยชน คู่กรณีมีแค่เมียที่นั่งข้าง ๆ

ผมทำ 2+ มาหลายปีละ เวลาชนก็โอเคนะ ประกันบริการเราไม่ต่างจากตอนทำชั้น 1 ถ้าซ่อมห้างก็ชิวๆเลย

ป.1 เถอะ งบน้อยใช้ซ่อมอู่ก็ยังดี หรือถ้าแบรนด์รองซ่อมห้างไหวก็ยังดี

ซื้อผ่านโบรคธนาคาร เช่น ไทยพาณิชย์ จะผ่อน 0% 10 เดือนได้ (ถ้าไม่ใช่โบรคธนาคารต้องให้รูดผ่านบัตร ผ่อนผ่านบัตรเท่านั้น อย่าผ่อนกับโบรค เพราะเคยมีเหตุว่า คุ้มครองตามสัดส่วนที่จ่ายไป เช่น พึ่งจ่ายไป 1 เดือน จะคุ้มครองแค่ 10% ของทุนประกัน)

แต่ถ้าไม่ใช่ลูกค้าไฟแนนซ์ธนาคาร จะได้ส่วนลดเยอะมั๊ย อันนี้ไม่แน่ใจ
ลองเทียบราคาดูก่อน

รถใหม่ ป1ครับ

คิดไว้เหมือนกันเลย ไม่ป.1ซ่อมอู่ก็ป.2+

สิ่งที่ต่างกันคือ

ชั้น1 ซ่อมได้หมดทุกกรณี (อาจจะมีค่าแอคเซปบ้าง ถ้าไม่มีคู่กรณี)

ชั้น2+ ซ่อมเฉพาะชนกับยานพาหนะทางบก + รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม

ชั้น3+ ซ่อมเฉพาะชนกับยานพาหนะทางบก

เลือกตามความเหมาะสมละกันครับ ถ้ามั่นใจว่าไม่เจอเสา กิ่งไม้ หรือมอไซที่บังเอิญชนแล้วหนี ก็ 2+ หรือ 3+ ก็ประหยัดเงินไปพอสมควรครับ

ทำประกันเช็คเลขกรมธรรม์
กับเลขตัวรถให้ดีๆนะ

ปีนี้ผมไปต่อให้ที่บ้าน
เลขตัวถังไม่ตรง
ดีนะไม่เคยชน

อุบัติเหตุอะไรก็เกิดขึ้นได้ ต่อชั้น 1 ได้ก็ต่อไปก่อนครับ หาเอาเจ้าถูกๆหน่อยก็ได้ หรือจะฟิกชื่อคนขับด้วยก็ได้ครับ เบี้ยก็ลดลงอีก

ถ้าอยู่ดีๆ พลาดไรสักอย่างลงข้างทางหรือชนเสา ชนนู้นนี่ ไม่มีคู่กรณี 2+ ไม่ซ่อมรถให้เรานะครับ ยกเว้นชนรถด้วยกันแล้วมีคู่กรณีถึงจะซ่อมให้

รถยังใหม่อยู่เลยครับ
ผมคิดประมาณ จขกท เลย ขับไม่ชนใคร จึงทำชั้นสามเพราะรถเก่าด้วยแหละ
คันก่อนคิดงี้รอด
คันปัจจุบันสด ๆ ร้อน ๆ โดนมอเตอร์ไซค์ครับ หลักฐานมี ตำรวจบอกประมาทร่วม ผมก็ขี้เกียจเถียงไรมาก คู่กรณีดูไม่น่ามีตังค์ครับ
เหมือนตำรวจแค่อยากเคลียร์ให้จบแยกย้ายครับ

ทำ ป1 สัก 4-5 ปีไหมครับ ยกเว้นอยากเซฟจริง ๆ ก็ ป2+

ถ้าขับรถมาไม่เคยมีคู่กรณีซักรายไม่ควรทำ2+ฮะ
เพราะจะเคลมได้ ต้องมีคู่กรณีเท่านั้น


ชนเสา เฉี่ยวฟุตบาทเคลมไม่ได้เลยนะ

ชั้น1เท่านั้น

2+ มันต่างจาก 1 ซ่อมห้างกับซ่อมโดยไม่มีคู่กรณีได้ ถ้าเลือก 2 ก้ดูประกันที่มีอู๋ดีๆก้ไม่ต่างกันหรอก

รถปีเดียว ปีที่สอง
ผมว่า กด 1 ไปเถอะครับ หารเฉลี่ยดูแล้วก็ไม่ได้เพิ่มอีกมาก (ต่อเดือน) อาจจะประมาณ 400 บาท

อย่างรถผม.. ลังเลตอนต่อประกันทุกปี
จนตอนนี้ สรุปใช้มา 6 ปี ประกันชั้น 1 มาตลอด

ซื้อความสบายใจครับ .. ประวัติการเคลม 0 เหมือนกัน
แต่คิดว่า ถ้าดวงแตกมาเมื่อไร แล้วไม่ใช่ชั้น 1 มันก็ไม่คุ้มแล้วครับ

ยกตัวอย่างนะครับ ซื้อชั้น 2 เซฟไปได้ 3000 บาท x 5 ปีเลย เท่ากับเก็บเงินได้ 15,000

ปรากฎปีที่ 6 ดวงแตก ไปซวบอะไรซักอย่างเช่น ต้นไม้ เสาไฟ หรือมีอะไรขึ้นมา ผมว่า 15,000 ก็ไม่พอ cover

หรือบางกรณีโดนชนในลานจอดรถ โดนเข็นไปชน คู่กรณีหนี ... หาตัวไม่ได้

เลยจิ้ม ประกัน 1 ไปครับ อย่างน้อยเวลาใช้รถก็โล่งใจไปเลยเรื่องนึง ไหนจะเผื่อต้องชดใช้คู่กรณี ฯลฯ อีก

ถ้า ป.1 ตึงมือจริงๆ ลองดูเงื่อนไขประกอบเอาครับ เช่น เลือกแบบ ขับคนเดียว / ติดกล้อง / มีค่าส่วนแรก มันก็จะเบาลงไปอีกครับ


สำหรับผม ป.2 เหมาะกับรถคันรองในบ้าน หรือรถที่มุ่งใช้ในเมือง หรือพื้นที่ใกล้ๆ ที่เราคุ้นชินจริงๆเป็นหลัก จะเหมาะมาก เซฟไปเยอะ

แต่ถ้ารถคันหลัก + ออกต่างจังหวัด ใช้งานตลอด ผมเชียร์ไป 1 นะครับ

ประกันภัย มันไม่ใช่ “คุ้ม“ ครับ มันคือการโอนความเสี่ยงออกไป