เรื่องนักร้องดังเมื่อวานผมดูสดอยู่อ่านคอมเม้นละเหวอเลย มีเม้นว่า"สงสารดซจัง" ผมนี่ตาลอย ละมีอย่างเยอะ เเค่หน้าตาดีโลกก็ใจดีกับคุณคำนี้ไม่เกินจริง 555

ผมรู้แค่ว่า หลายคนมักมองข้ามปัญหาของกลุ่มตัวเอง แล้วชอบไปจับผิดสอนสั่งกลุ่มอื่นกันอ่ะครับ

อย่างการเปรียบเทียบโพสของบุ๋มเป็นตัวอย่างนั่นล่ะ

อย่าตกใจกับความเห็นในโซเชียล และเอามากังวลจนกระทบชีวิตจริงเลยนะครับ มันเป็นความเห็นที่เราจะไม่ค่อยได้เจอจากคนจริงๆต่อหน้าอย่างแน่นอน

เหตุผลที่ทำให้เราอ่านความเห็นในโซเขียลแล้วรู้สึกว่าเพี้ยน โดยที่ตัดความเห็นที่ไม่เป้นธรรมชาติ(io)ทิ้งไป ถ้าให้ตอบสั้นๆคือ คนในโซเชียลจะตอบสนองโดยในใช้ function ในสมองไม่ครบ เมื่อเทียบกับการตอบสนองต่อหน้าครับ

ในฐานะสัตว์ตัวนึงคนเรามันขับเคลื่อนด้วยความคิดอกุศลอยู่แล้วครับ(โลภ โกรธ หลง) แต่ในชั้นสมองมนุษย์(มีตั้งแต่เกิด แต่จะมาเริ่มพัฒนาหลังเกิดจนถึง6ขวบ) เราจะเพิ่มส่วนเหตุผลเข้ามา ช่วยทำให้เราจินตนาการผลกระทบจากการกระทำได้ โดยที่ไม่ต้องรอให้มีประสบการณ์จริง เมื่อเราจินตนาการได้มันจะทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของคนตรงหน้า และไปกระตุ้นความเห็นอกเห็นใจ ทำให้เราเชื่องขึ้น และ ดุร้ายน้อยลง ทำให้เราไม่กัดกันเหมือนหมา

แต่พอเราตอบสนองผ่านโซเชียล วัตถุดิบที่เรามีสำหรับการตอบสนอง ส่วนมากมันจึงเหลือแค่ของสัตว์เพราะไม่มีคน/สัตว์ตรงหน้ามาแสดงอาการกระตุ้นให้เราจินตนาการ ความเห็นอกเห็นใจ/ยับยั้งชั่งใจจึงน้อยกว่า

เรื่อง mz นี่ผมเข้าใจนะ

คนใช้ชีวิตบนถนน มันเจอสิ่งมีขีวิตทำตัวน่ารำคาญ ขาดจิตสำนึกต่อสังคมเยอะไปหมด เขื่อว่ามันมีหงุดหงิด บ่น ด่าบ้าง

ทีนี้ mz มันเลือกทำตามอารมณ์ ในทางนึงมันคือการรู้สึกปลดปล่อย มีคนทำแทนกูแล้ว โดนๆสักที (โมเดลคล้ายๆ อะไรก็ๆไปโยงกันเอา)
ไม่ได้แปลว่าผมเห็นด้วย มันไม่ได้ถูกเพราะทำเกินกว่าเหตแน่ๆ แค่ยกตัวอย่างในเคสที่คุณยกมา

อีกเคสผมไม่ได้ตาม ไม่สามารถออกความเห็นได้

คนเราไม่มีขาวดำแต่แรกละ อย่างกรณีมาสด้าแดง ผมยอมรับเลยว่าผมเป็นคนนึงที่สะใจ แต่ถามว่าผมจะไปตามไล่ชนแบบเขาไหม ก็ไม่ตราบใดที่ไม่มีการ บังคับใช้กฏหมายให้เด็ดขาด ก็นี่แหละ เดวสี่ล้อขับชน เดวสองล้อปาหิน เป็นเรื่องเทาๆในสังคมไปแล้ว แก้อะไรไม่ได้

มันไม่ใช่ขาวใช่ดำอะไรหรอก ก็แค่ต่างคนต่างความคิด แต่สิ่งที่จะทำให้ทุกคนอยู่ในครรลองคือกฎหมายและผู้บังคับใช้

ก็มันเป็นสังคมที่กฎหมายไม่เหลือความน่าเชื่อถืออ่ะครับ


คนมันก็ใช้ตรรกะส่วนตัวกันหมด มันก็เป็นแบบนี้แหละ มันคือการปล่อยให้คนหมู่มากอยู่ร่วมกันและตัดสินกันเอง มันเป็นการย้อนเวลากลับไปสู่ยุคป่าเถื่อนอ่ะครับ


สิ่งที่ตีกรอบความคิด เรื่องความถูกต้อง คือบรรทัดฐานของกฎหมาย เมื่อคุณเอากฎหมายหรือข้อห้ามออกจากสมการ คนมันก็คิดไปเรื่อยอ่ะครับ

ถึงแม้ผมจะเคารพความคิดเห็นส่วนตัวของแต่ล่ะคน แต่คำว่าสังคมดัดจริตแม่งไม่เกินจริงเลย

มันไม่ใช่กลับขาวดำเทาอะไรหรอก มันคือเรื่องปกติ
คนเรามันประสบการณ์ต่างกัน คุณจะเอาชีวิตตัวเองไปวัดทุกคนไม่ได้

เรื่องแรก ยกตัวอย่างใน SS กระทู้วันก่อนๆผมก็ดูอยู่ หลายคนก็บอกว่าสะใจ
และเข้าใจว่าทำไมน้องแว่นหัวร้อนนะ
แต่ทุกคนในนั้นคือไม่ได้เห็นด้วย และบอกว่าน้องควรพบแพทย์
มีใครไปไล่ชนมอเตอร์ไซค์มั้ย? ก็ไม่น่ามีนะ

ส่วนเรื่องที่สอง มันคือเรื่องของเค้า ชีวิตเค้า 3-4 คนตรงนั้น
เราก็ไม่รู้ว่าเค้าไปเจออะไร พูดคุยกันอย่างไร ณ นาทีนั้น
วงการบันเทิงดูให้บันเทิงก็พอ อย่าไปตัดสินถูกผิดให้ชีวิตคนอื่น

ตอนนี้ผมอายุ 40+ แล้ว คิดเหมือนท่านแหละครับ ถูกพล่ำสอนเรื่องศีลธรรมมาจนเป็นบรรทัดฐานของชีวิต พอเงยหน้ามาอีกทีกลับกลายเป็นเราต้องมาถามตัวเองว่านี่เราคิดถูกหรือคิดผิดมาตลอดกันแน่ ทั้งๆ ที่ชีวิตจริงมีเกลือ่นกลาด และใครก็ก็ทำ (รวมถึงคนที่สอนคุณด้วย)

ตอนนี้ไม่อยากสนสี่สนแปดแล้วครับ คนจะเป็นจะตายช่างมันสบายใจกว่า

ไม่ชอบคนจีนไม่ได้เหยียด