ต้องเก่งด้วยมากๆไหมครับผมว่า น่าจะพวกบริษัทbig4ไรที่เค้าพูดถึงกันไหม แล้วบัญชีจุฬาก็คะแนนสูงลิ่วมากๆนะ
แต่หมอคะแนนรองๆลงมาพวก มช มข มอ แล้วรองๆไปอีกพวก มน ม.พะเยาหรือป่าลืมชื่อ จบออกมาเงินเดือนก็พอๆกันมั๊ง

แต่สายบัญชีนี่ต้องเก่งจริงๆ แบบทุกคณะบัญชีรวมกันในประเทศอาจจะเข้าได้10-20คน

แต่หมอจบมาจากไหนก็หมอ ไม่ต้องไปแข่งขันมากเท่าไหร่ทุกคนที่จบหมอ=รายได้มันมาตรฐานมั๊ง

ทุกอย่างมีอะไรต้องแลกแหละครับ
หมอรายได้สูง แลกกับเรียนเยอะ งานหนัก งานยาว นอนน้อย

สุขภาพก็จะถดถอยไป อายุแพทย์เฉลี่ยบ้านเรา60กว่าๆเองนะตายง่ายกว่าเดิมอีก
อดนอนนี่ตายกันง่ายเลยนะ

ถ้าเก่งสุดๆจัดๆเลย

ผมว่าเป็นโปรแกรมเมอร์ เขียนโปรแกรม เขียนโค้ด เขียนแอพโหดๆ ได้เยอะกว่าหมอเยอะ

ได้ทุนไป ตปท. โดนบริษัทเทคโนโลยีจองตัวตั้งแต่ก่อนจบ

รับเขียนงานนอกด้วย ไปไกลกว่าหมอเยอะ

บิีกโฟร์รับปีเป็นร้อยเลยครับ แต่ก็ออกเยอะ บ่นว่างานหนัก
เท่าที่ดูผมว่าก็ไม่หนักเท่าไหร่ เทียบกับ law firm ผมว่าอันนั้นหนักกว่าเยอะเลย
สกิลก็ต้องสูงกว่าโดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่ต้องเป๊ะมาก
ออดิตบิ๊กโฟร์นี่ถือว่าใช้สกิลภาษาอังกฤษน้อยมากๆเลยกับเงินเดือนแสนอัพ

แฟนผมก็หัวดีแต่ไม่รู้จะเรียนอะไร ก็เรียนไปเรื่อยๆทำงานไปเรื่อยๆ
ถ้าจบจุฬา มธ เกษตร ผมว่าเข้าได้หมดอ่ะ
สมัยแฟนผมอยู่ มีรับราชภัฎด้วย เพราะขาดคน แต่น่าจะต้องท้อปๆของม.เค้าหน่อย

มาทางนี้ลงทุนน้อยสุดแล้ว เรียนหมอล่อไป7ปี ต้องใช้ทุน ต้องเฉพาะทางอีก
บัญชีนี่ บัญชีบัณฑิตพอ โทไม่ต้องใช้เลย ถ้าหัวดีตามโจทย์ในกระทู้ไปสอบผู้สอบบัญชีก็ไม่น่ามีปัญหา
เทียบจำนวนชั่วโมงทำงานกับหมอ ถือว่าได้เยอะกว่านะ หมอที่เยอะนี่ส่วนใหญ่ทำงานกันเป็น 7-11 เลย

ของหมอกับที่อื่นไม่รู้ขึ้นยังไงนะครับ

แต่ถ้าเป็นของ ผพษ. บรรจุตอนนี้ เงินเดือน 42500 ทำงานประมาณ 3 ปี รวมค่าทุกอย่างประมาณ 80000-90000 ทำไปอีก 4 ปี ขึ้นหัวหน้าคณะ รวมทุกอย่าง 130,000 - 150,000 แล้วมันจะไปตันอยู่ประมาณ 200,000 ++ แถมเกษียณอายุ 70 อีก บ้านก็ไม่ต้องซื้อ เพราะต้องอยู่บ้านหลวงจนเกษียณ

จริงเอาเซฟสุดก็หมอ อาชีพอื่นมันมีการแข่งขันพอสมควรนอกเหนือจากความเก่งด้วย ซึ่งประเทศไทยรู้ๆกัน หมอเป็นอาชีพที่ใช้เส้นสายน้อยสุดแล้ว

ถึงระดับเรียนหมอได้ พวกใบ กพ. ผมว่าจิ๊บๆนะ หมอไปสอบ 100 คนก็ผ่านทั้ง 100 คนแหละ

สอบเข้าตอน ม.6 ไปเรียนหมอยังยากกว่าสอบ ก.พ. เลย

ผพษ. สอบยากมั้ยครับ

อารมณ์แบบ ไม่ใช่ทุกคนที่เรียน นิติมา จะได้เป็น ผพษ. ถูกต้องมั้ยครับ


ผมว่าจุดยากของ ผู้พิพากษา อยุ่ตรงนี้แหละ

ผมเห็น มันมี ภาค ก ภาค ข ไรไม่รู้เยอะแยะ คนชอบเอามาดราม่าว่าข้อสอบยากใน เฟสบุค

เลยรู้สึกว่า กรม กอง อื่นๆ ข้าราชการ มันน่าจะเข้ายาก 555555 (หรือว่าติดเด็กเส้นก็ไม่รุ้)

อันนี้ไม่ได้ดูถูกนะ เอาตามความจริงล้วนๆ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม

1. ระดับหัวกะทิของประเทศ

2. กลุ่มระดับปานกลาง

3. กลุ่มระดับล่าง


ซึ่งกลุ่มหัวกะทิก็ไม่สนใจงานข้าราชการอยู่แล้ว เพราะมีลู่ทางที่เงินดีกว่า สวัสดิการดีกว่าอยู่แล้ว

แถมไม่ต้องมาทนระบบอาวุโส ในงานราชการอีก ดังนั้นกลุ่มที่จะทำงานราชการคือกลุ่มที่ 2

ส่วนใหญ่และกลุ่ม 3 ส่วนน้อย ก็ไม่แปลกที่จะบ่นว่ายาก และส่วนมากกลุ่มที่บ่นจะเป็นกลุ่ม 3

ยากมากครับ (กรณีสนามใหญ่ครับ) ที่บอกว่ายากเพราะ มันใช้เวลาสอบนานกว่าการสอบข้าราชการปกติ สอบข้อเขียน 3 วัน วันละ 4 ชม. คนสอบประมาณ 6000-7000 คน แล้วที่ยากอีกคือ จบนิติอย่างเดียวไม่ได้ ต้องจบเนติด้วย แล้วก็มีประสบการณ์ทำงานด้านกฎหมาย(ภาครัฐ) อย่างน้อย 2 ปี หรือว่าเป็นทนายความ 2 ปี เก็บคดี 20 คดี ต้องมีอายุ 25 ปีบริบูรณ์ถึงจะสอบได้

ปล.ข้อดีคือ ไม่มีกรอบอัตรากำลังในการรับขั้นต่ำ ถ้าใครทำคะแนนผ่านครึ่ง 140 คะแนน(เต็ม 280) ผ่านหมดทุกคนครับ ถ้าตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่านหนังสือ ลูกตาสีตาสา ไม่มี Connection ก็สอบผ่านได้ครับผมการันตี

นั่นแหละครับ บันได ที่ ผู้พิพากษา จะต้องทำและก็แลกมา ผมว่าก็ยากพอตัวเลยครับ ระดับทอปเหมือนกัน

แต่ของหมอ สอบติด-> เรียนจบ 6 ปี -> ได้บรรจุปีแรก เงินรวมๆ ก็ 40-50k ละครับ
(แต่อาจจะตกเบิกนะไม่ได้ตัง บางเดือน 5555)

ของหมอ ถ้าจบมา ทำงานรพ.รัฐ ช่วงต้นๆเงินเดือน 2-3หมื่น รวมๆก็แถวๆ 4-7 หมื่นครับ
ซึ่งเรทนี้ จะเป็นพวกหมอเพิ่งจบใหม่ๆ อายุตีไปซะ 25-27

ซึ่ง ผพษ. อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจนะ แต่เดาเอาว่า เฉลี่ยๆในรุ่นเด็กๆที่เข้าไปได้ ก็ต้องมี 30 ไรงี้อย่างต่ำๆ
ซึ่งต้องเป็นขั้นเทพด้วย คงมีบ้างแต่คงไม่เยอะ เพราะต้องสอบผ่านทุกรอบฉลุยเลย

เพราะงั้น อายุระดับ 30ขึ้นไป ก็น่าจะต้องเอาไปเทียบกับหมอเฉพาะทาง ที่เรียนอยู่ ไม่ก็จบแล้ว ขึ้นไป
หรือไปก็อีกกรณีคือ เป็นหมอโรงบาลเอกชน ซึ่งอันหลังรายได้รวมมันก็หลักแสนแน่ๆ

Resident ซึ่งคือหมอที่กำลังเรียนเฉพาะทาง พวกนี้ รายได้ต่ำๆก็ 6หมื่น ถึงเหยียบๆแสนอาจจะได้
จบเฉพาะทางแล้ว ถ้าทำรพ.รัฐ รายได้รวมก็ไม่มีต่ำแสน เอกชนก็ฉีกไปอีก

ยังไม่รวมที่สามารถรับงานควบได้อีก รับจ็อบรพ.เอกชน ได้หลายหมื่นยันแสน
หรือจะรับซ้อน 3จ็อบ ทั้งรพ.เอกชน รับคลินิก รวมงานหลักคือรพ.รัฐ ก็ยังได้อีกครับ
รวมๆระดับ 2-3 แสนก็เป็นไปได้ แต่เหนื่อยตัวบิดแน่ๆ แต่ก็มีคนทำเยอะนะ

ยังไม่รวมระดับท้อป ซึ่งคืออาจารย์หมอที่อายุ30ต้นๆ พวกนี้ยิ่งสูงไปอีก เผลอๆ35+-เป็น ผศ แล้วก็มี
พวกนี้เงินเดือนเพียวๆ ระดับ7-8หมื่น รวมๆไม่ต่ำแสน5 รับจ๊อบนอก 3แสนได้ไม่ยากเลยครับ
(ไม่ยากคือ รับได้แน่ มีคนรับ แต่เหนื่อยตัวเป็นเกลียวนะ)

เพราะงั้นเลยคิดว่าตรงนี้หมอยังดูจะเหลื่อมกว่าอยู่ครับ

ส่วนงานหนักงานเบา work life balance
อันนี้ไม่ทราบรายละเอียดของ ผพษ. จริงๆ ว่ามันหนักมันเหนื่อยอะไรขนาดไหนไหม

ยากสิครับ และบั่นทอนกำลังใจมากๆด้วยครับ เพราะมันสอบ3ตัว
ถ้าเทพจัด สอบผ่านทุกรอบ ถ้าเป็นแบบนั้นยังไม่เท่าไหร่ ถ้าเทพจริงมันก็ทำกันได้แหละผมว่า
แต่ถ้าไม่เทพขนาดนั้น มันเหนื่อยครับ คนทั่วไปถ้าไม่รวยจริง ที่ที่บ้านเลี้ยงได้สบาย มันหนักครับ

เพราะอายุก็จะเยอะพอตัว 30+ โดยรวมๆ งานการก็ต้องทำ ต้องมานั่งอ่านหนังสือสอบอีก
ผมยังจำได้เลย สมัยก่อนสมัยผมยังเด็กมากๆ พ่อทำธนาคาร ดึกๆมาต้องมานั่งอ่านหนังสือ
เท่าที่จำความได้ พ่อผ่านตัวแรกไปแล้ว ตัวสองสมัยผมประถมต้นๆ พ่อไม่ผ่าน
และมาผ่านอีกทีในประถมกลางๆปลายๆ
แต่ตัวสุดท้ายเหมือน ไม่ผ่าน2ครั้งติด จนได้เลื่อนเป็นผู้จัดการ สุดท้ายต้องยอมล้มเลิกไปเอง

ตอนนั้นไม่ได้เข้าใจอะไร ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย แต่พอโตขึ้นมา อายุก็จะน้องๆพ่อตอนนั้นได้แล้ว
เข้าใจได้เลยครับ ผมมาเรียนป.โท อายุ 25-26 ทำงานไปด้วย อย่างเหนื่อย
ซึ่งการแข่งขันเข้าเป็นผพษ. มั่นใจเลยว่า ยากกว่าทุกการสอบที่ผมผ่านมาตอนนั้นแน่ๆ
ซึ่งแค่ที่ผมเจอก็ไม่ง่ายแล้ว ในความรู้สึกส่วนตัว

และถ้าเป็นการสอบที่ไม่มีวันจบ แล้วลากยาวไม่สามารถทำได้ไปยัน 5ปี 7ปี หรือเกินกว่านั้น ได้หมด
แต่มีให้ความหวัง เพราะมีตัว1 ตัว2 ตัว3 ไปหมดตอนตัว1ยังไม่ยาก แต่มาติดตัว3 ตอนหมดไฟนี่
คนมันจะท้อ ผมก็เข้าใจได้เลยอะ