รบกวนเล่าฟีลลิ่งตอนขับขี่หน่อยครับ
มันรู้สึกยังไงบ้าง
ผมเพิ่งไปเห็นตัวจริงมา คือสวยแบบตะโกนเลย
เอาซะอยากได้เลยครับ

ผมใช้อยู่ครับ กำลังจะ 5000 โลและ ได้ป้ายขาวแล้ว

ต้องลองเองครับ ขึ้นอยู่กับว่าย้ายมาจากมารถคันไหน ครอบครัวแฟนผม นั่ง Fortuner มาทั้งชีวิต

ย้ายมานั่งรถผมบอกว่า(แถวหลัง) ควรไปทำช่วงล่างนะ แข็งตึงตังมาก

เพื่อนผมย้ายมากจาก CX5/Cross บอกว่าย้วยนะนั่งแถวหลัง

ส่วนคุณภรรยานั่งเบาะผู้โดยสารตอนหน้าบอกว่า ไม่ต้องไปทำเพิ่ม แถวหน้าโอเคอยู่แล้ว

ส่วนอีกคนขับ CIVIC มาตลอด บอกแถวหน้าโอเค แถวหลังตึงตัง

รถที่ผมใช้ รุ่น Premiumนะ ตอนเทสได้เทสแต่ PER ผมว่า ค่อนข้างต่างระหว่างสองตัวนี้

ขับ EV ต้องขับให้เหมือนรถน้ำมัน เพราะพวก Regen brake พวก แรงบิด และคันเร่ง Sensitivity

ีมีผลมากๆต่อความรู้สึกของคนนั่ง ด้วยเพราะ Environment มันไม่มีเสียง มันไม่มีรอบเครื่อง

เวลารถกด คันเร่งหรือเบรก มันจะไม่มีสัญญาณบอกเหมือนรถน้ำมัน ก็ซัดกันเต็มข้อแบบไม่รู้ตัว

ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะได้รับผมเรื่องความเวียนหัวไปเต็มๆ และก็ช่วงความเร็วสูงจะรู้สึงแรงGชัดเจนเวลา

เปลี่ยนเลน เพราะด้วยตัวรถมันหนัก 2ตันกว่า มันถ่ายพลังมาถึงผู้โดยสารค่อนข้างชัดเลยสำหรับผม

อัตราการกินไฟผม ใช้อยู่ที่ 15.4 วิ่งในเมือง ออกนอกเมืองไปตจว ทะยานไป 18.9(แต่ผมวิ่ง 100-140

ตลอดทาง) คือมันไม่ค่อยรู้ตัวว่ามันเร็วในช่วงถนนเรียบๆ แต่เสียงลมคือชัดมาก ช่วง 120 ขึ้นไป


ระบบการจัดการพลังงานของ BYD ถ้าไม่เปิด ICC ผมเรียกได้ว่าค่อนข้างโง่เลยนะ

ตัว Potential ของมอเตอร์รถ มันขับให้ประหยัดได้ดีเลย แต่เหมือน Software มันไม่ค่อยฉลาด

บางทีเรากดคันแร่ง ช่วง 20kw กับ 50kw ได้ความเร็วเท่าๆกัน อยู่ที่เท้าเราจะเลี้ยงไว้แบบไหน

จะขับให้ประหยัดสุดๆก็ประหยัดได้(ซึ่งแทนที่ซอฟท์แวร์จะช่วยว่าช่วงไหน Efficiency ดีที่สุด)

ประมาณนี้ครับ โดยรวมเป็นรถที่ดี ยิ่งเทียบกับราคาแล้วก็ดีมากๆ ที่เหลือก็เป็นเวรกรรมแล้วว่าจะ

ชนจะซ่อมหรือจะเจอ Deflect อะไร

ผมไปลองมาละครับ พระราม 2 - สุวรรณภูมิ
พ่อตาผมกำลังหารถใหม่พอดีเลยพาไปลอง

เงียบ อัตราเร่งดี กว้าง เบาะดี พวงมาลัยคมพอตัว
แต่ช่วงล่างย้วยมาก คนนั่งหลังก็บ่น (สำหรับผมนะ)

แต่สรุปสั้นๆ ถามว่าเอามั้ย เค้าบอกขอไปเอา CRV ดีกว่า
เพราะช่วงล่างมันพาเวียนหัวครับ มันโคลงไป
สำหรับคนขับ ก็มีโยนนะ แต่คงไม่เท่าคนนั่งหลังครับ

จริงๆ Ev จีน มีปัญหานี้ทุกคันเลยที่เคยลอง Seal ก็เป็น
ไปลอง Deepal มาก็โยน เหมือนทำช่วงล่างไม่เก่ง

เล็งอยู่เหมือนกัน อีก 2 ปีว่าจะซื้อ หวังว่าจะมีรถสเปคประมาณนี้ ราคาต่ำล้านให้จับจอง

ขับในชีวิตประจำวันโอเคครับ อัตราเร่งดี แต่ช่วงล่างติดย้วย ออกนิ่มไปหน่อย

รถแรงแต่โช้คเดิมไม่เหมาะเอาไปซิ่ง ต้องไปแต่งเพิ่ม

ไปเจอแถววงแหวนรามอินทราเมื่อวานสีดำสวยดี ทำไมเวลามาอยู่บนถนนแล้วสวยกว่าอยู่ในโชว์รูม

ถ้าได้ราคาตอนมอเตอร์โชว์ก็ถือว่าคุ้มค่าครับ 1.15 ล้าน ยังงงเอาไปเทียบกับ crv 1.6ล้าน

แก้ช่วงล่างโดยเจ้าของเองครับ

ใส่โช๊คเพิ่มเอาแหละ อยากได้ฟิลไหน

ไปลองขับครับ
แนะนำไปลองศูนย์ที่บางนา

แล้วจะรู้ว่า รถไม่ได้ทำมาเผื่อถนนเมืองไทย
โยนเป็นเรือเลย ถ้าเทียบกัน 6 ยังดีกว่า

พอต้องแบกน้ำหนักแบตมากๆ ที่กระจายใต้ท้อง แบบ CG ต่างออกไป
คิดว่าทฤษฎีการเช็ตโช๊ค-สปริง-จุดยึด แบบเดิม มันใช้ไม่ได้

คำถามคือทำไมไม่ควรเทียบกันมากกว่าเพราะรถคือ segment เดียวกัน (ขนาดรถ) มันคือคู่ชกกันตรงๆอยู่แล้ว นักรีวิวรถในไทยก็จับเทียบกันแทบตลอด ขณะที่ในตลาดตปท.ก็เอาเทียบกันและก็เทียบกับ Model Y ด้วย (ทั้งๆที่วัดที่ราคาในไทย Sealion 7 ถูกกว่าไปกี่แสน)

รถจีนที่ห่วงมากคือช่วงล่างนี่แหละ ทำรถมาอย่างแรง แต่ช่วงล่างไม่ค่อยรับ เท่าที่นั่งดูรีวิว มา มี XPeng กับ Zeekr ที่เหมือนจะโอเคหน่อย Aion อีกตัว ส่วน MG ก็เพิ่งมาดีตอนตัว MG4 ล่างสุด นอกนั้น เห็นบ่นกันเยอะอยู่ ผมเสียดาย Deepal ตัว SUV ทรงมันได้ทุกอย่างเลย ติดช่วงล่างนี่แหละ

การเทียบแบบ segment เดียวกันเข้าใจได้ แต่ถ้าเทียบช่วงราคาตามงบคนซื้อมันคนละประเด็น

รถจีนต้อง Zeekr ครับ ช่วงล่างดี แน่นหนึบ ทุกรุ่น

ปกติเค้าก็เทียบรถใน segmentเดียวกันหรือป่าวครับ ไม่งั้นมันกว้างไป

ผมก็เล็ง sealion7 รอดูงานรถเดือนหน้าครับ รอราคา รอดูรุ่นที่กำลังจะเปิดตัว
บางรุ่นบางยี่ห้อชอบ แต่กังวลเรื่องศูนย์บริการ

รถยนต์ทำยากสุดคือช่วงล่างนี่แหละ รถราคาล้านกลางๆไม่เกิน 2 ล้าน หาตัวกินแคมรี่ยาก

ผมใช้อยู่ครับ กำลังจะ 5000 โลและ ได้ป้ายขาวแล้ว

ต้องลองเองครับ ขึ้นอยู่กับว่าย้ายมาจากมารถคันไหน ครอบครัวแฟนผม นั่ง Fortuner มาทั้งชีวิต

ย้ายมานั่งรถผมบอกว่า(แถวหลัง) ควรไปทำช่วงล่างนะ แข็งตึงตังมาก

เพื่อนผมย้ายมากจาก CX5/Cross บอกว่าย้วยนะนั่งแถวหลัง

ส่วนคุณภรรยานั่งเบาะผู้โดยสารตอนหน้าบอกว่า ไม่ต้องไปทำเพิ่ม แถวหน้าโอเคอยู่แล้ว

ส่วนอีกคนขับ CIVIC มาตลอด บอกแถวหน้าโอเค แถวหลังตึงตัง

รถที่ผมใช้ รุ่น Premiumนะ ตอนเทสได้เทสแต่ PER ผมว่า ค่อนข้างต่างระหว่างสองตัวนี้

ขับ EV ต้องขับให้เหมือนรถน้ำมัน เพราะพวก Regen brake พวก แรงบิด และคันเร่ง Sensitivity

ีมีผลมากๆต่อความรู้สึกของคนนั่ง ด้วยเพราะ Environment มันไม่มีเสียง มันไม่มีรอบเครื่อง

เวลารถกด คันเร่งหรือเบรก มันจะไม่มีสัญญาณบอกเหมือนรถน้ำมัน ก็ซัดกันเต็มข้อแบบไม่รู้ตัว

ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะได้รับผมเรื่องความเวียนหัวไปเต็มๆ และก็ช่วงความเร็วสูงจะรู้สึงแรงGชัดเจนเวลา

เปลี่ยนเลน เพราะด้วยตัวรถมันหนัก 2ตันกว่า มันถ่ายพลังมาถึงผู้โดยสารค่อนข้างชัดเลยสำหรับผม

อัตราการกินไฟผม ใช้อยู่ที่ 15.4 วิ่งในเมือง ออกนอกเมืองไปตจว ทะยานไป 18.9(แต่ผมวิ่ง 100-140

ตลอดทาง) คือมันไม่ค่อยรู้ตัวว่ามันเร็วในช่วงถนนเรียบๆ แต่เสียงลมคือชัดมาก ช่วง 120 ขึ้นไป


ระบบการจัดการพลังงานของ BYD ถ้าไม่เปิด ICC ผมเรียกได้ว่าค่อนข้างโง่เลยนะ

ตัว Potential ของมอเตอร์รถ มันขับให้ประหยัดได้ดีเลย แต่เหมือน Software มันไม่ค่อยฉลาด

บางทีเรากดคันแร่ง ช่วง 20kw กับ 50kw ได้ความเร็วเท่าๆกัน อยู่ที่เท้าเราจะเลี้ยงไว้แบบไหน

จะขับให้ประหยัดสุดๆก็ประหยัดได้(ซึ่งแทนที่ซอฟท์แวร์จะช่วยว่าช่วงไหน Efficiency ดีที่สุด)

ประมาณนี้ครับ โดยรวมเป็นรถที่ดี ยิ่งเทียบกับราคาแล้วก็ดีมากๆ ที่เหลือก็เป็นเวรกรรมแล้วว่าจะ

ชนจะซ่อมหรือจะเจอ Deflect อะไร