ตั้งแต่สื่อเล่นประเด็นว่าเชลซีมีโอกาสลุ้นแชมป์แล้วโค้ชออกมาบอกว่าเรายังไม่ใช่ทีมลุ้นแชมป์ นับตั้งแต่นั้นมาฟอร์มของทีมก็รูดลงแบบดื้อๆ จากมีโอกาสจี้ลิเวอร์พูลจนตอนนี้แทบจะหลุดทอป4 ทั้งโค้ชทั้งนักเตะหัวตกกันหมดจนตอนนี้ยังโงหัวกันไม่ขึ้น เพื่อนๆคิดว่าจะมีปัจจัยใดๆที่ทำให้โมเมนตั้มมันพอกลับมาได้บ้าง

เร็วสุดก็เปลี่ยนโค้ช

ถ้าตัดอคติไป มันต้องสัมภาษณ์แบบนั้นอยู่แล้ว เป็นแพทเทิ้ลลดความกดดันสำเร็จรูป

นี่ขนาดสัมภาษณ์ออกตัว แล้วผลงานไม่ดียังโดนหนัก ถ้าสัมภาษณ์ขิงใส่ไปอีกทาง แล้วผลงานแบบนี้ น่าจะแย่เข้าไปอีกมากกว่า

บทสัมภาษณ์แค่สาเหตุนึง ถ้าไปดูนักเตะช่วงนั้นผมจำไม่ได้ว่าใครบ้างแต่มี พาลเมอร์ คนนึงกับอีก 2-3 คนที่ออกมาพูดเหมือนกันว่าทีมยังไม่พร้อมลุ้นแชมป์


สำหรับผมปัจจัยหลักคือ แจ๊กสัน มากที่สุด แจ๊กสัน ไม่ยิงซักลูกมา 2 เดือนแล้ว ถ้าจำได้นัดแรกที่ทีมเริ่มสะดุดก็เสมอ เอฟเวอร์ตัน เริ่มนับตั้งแต่นัดนั้น แจ๊กสัน ยิงไม่ได้เลยซักลูก ยิงได้ลูกสุดท้ายถ้าจำไม่ผิดก็ 15 ธันวานู่นเลย

ตัวแทนอย่าง เอ็นคุนคู ในช่วง 2 เดือนนี้ ก็ยิงได้ 1 ลูกในบอลถ้วยกับทีมลีกทู


นับตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาจนถึงก่อนเกมเมื่อเช้า 2 เดือนกว่าๆนี้ พาลเมอร์ มีสถิติสร้างโอกาสไป 32 ครั้ง มากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป แต่ได้ 0 แอสซิสต์ เพราะเพื่อนยิงไม่ได้เลย

พอเกิดปัญหาความคมก็จบเพราะกองหลังรั่วกับโกลแจกอยู่แล้ว ที่ดีช่วงก่อนหน้านี้เพราะ แจ๊กสัน กับตัวรุกคนอื่นมันยังยิงอยู่เลยได้มากกว่าเสีย แต่พอ แจ๊กสัน ไม่ยิงก็จบ

การยิงประตูของกองหน้ามีอิมแพ็คต่อผลการแข่งขันมากขนาดไหน ผมยกตัวอย่าง อิซัค ละกัน ในลีกนัดไหนที่ อิซัค ไม่ยิงหรือไม่ลง นิวคาสเซิล ชนะแค่ 2 นัดคือทีมท้ายตารางอย่าง เซาท์แธมป์ตัน และ วูล์ฟ นอกนั้นเสมอกับแพ้หมด

เพราะงั้นผมให้ความคมของกองหน้าคือปัญหาหลัก


Edit เพิ่มนิดนึง ปีกเองก็ยิงได้น้อย ยกเว้น มาดูเอเก้ แต่ ไอ้เก้ เอาลงไปก็ปัญหาเยอะมีดีแค่พยายามหาโอกาสยิง ส่วนอีก 2 คนดูขาดความมุ่งไปหน่อย มกราถึงมีข่าวจะเสริมปีกแทน มูดริค พอดี แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซักตัวนะ


ส่วนโค้ช มาเรสก้า เองก็ไม่ใช่โค้ชที่เก่ง หรือ ยืดหยุ่น มากประสบการณ์พอที่จะแก้ไขปัญหาได้อยู่แล้ว อันนี้ทุกคนน่าจะรู้ตั้งแต่ตอนมีข่าววิเคราะห์สไตล์โล้นละ เพราะงั้นมันก็พลิกฟอร์มอะไรไม่ได้หรอก เลือกโค้ชที่ไม่ยืดหยุ่นมาคุมมันก็ได้เท่านี้แหละ

เลือกโค้ชโดยคาดหวังว่าจะเก่งในปีที่ 2 แต่ไม่ได้คิดถึงปีแรกแบบนี้ก็ต้องรับกรรมไป ไม่มีใครอยู่ได้เกินปีซักคน


โมเมนตั้มจะกลับมาได้ก็ตลาดมกราไงครับ ผมเคยเม้นไว้แล้วว่าตลาดมกราคือการกระตุ้นที่ดีที่สุด ถ้าเสริมเข้าเป้าโล้นก็รอด ถ้าเป็นผมจะยืม มูอานี่ ยืม สครินเนียร์ ก่อนเลย

แต่ก็ปิดตลาดไปแบบที่เรารู้กันว่าเป็นยังไง

เพราะงั้นตอนนี้ไม่มีฟื้นแล้วครับ นอกจากปลดโล้น ซึ่งปลดโล้นก็ไม่ได้การันตีด้วยว่ากองหน้าจะคมขึ้น ดูอย่าง แวร์เนอร์ ซิ ผ่านกี่โค้ชก็ไม่เห็นจะแก้เรื่องความคมได้

แต่เปลี่ยนโค้ชอาจทำให้เกมรับดีขึ้นได้ถ้าโค้ชใหม่เน้นรัดกุมกว่าเดิม เพราะงั้นสมมุติปลดตอนนี้ โค้ชใหม่มาผมว่าเต็มที่ก็หนักไปทางเสมอ นอกจากจะฟลุ๊คได้โค้ชเทพนู่นแหละถึงจะพากลับไปท็อป 4 ได้ ซึ่งผมว่าโอกาสน้อยที่จะเปิดกล่องสุ่มได้โค้ชเทพกลางฤดูกาล

ก็ผลงานดีตอนนั้นก็มีโอกาศขึ้นที่ 1 อีกตะหาก นักข่าวถามอะไม่เท่าไหร่หรอก

แฟนบอลอะไปบ้าจี้ตาม แบบเหมือนไม่ดูนัดก่อนหน้าอะว่าแผลเยอะขนาดไหนเอาไรมาลุ้นแชมป์ แต่ก็ไม่คิดว่าจะล่วงยาวขนาดนี้เหมือนกัน

คำสัมภาษณ์ ไม่ได้ส่งผลขนาดนั้น

โค้ชคุยกับนักเตะกันอยู่แล้ว

สมมติ สัมภาษณ์ ทีมเราพร้อมลุ้นแชมป์เต็มตัวแล้วฟอร์มแพ้ สะดุด แบบตอนนี้ ก็จะยกเรื่องสัมภาษณ์มาเล่นอยู่ดี

ผมว่าหลายทีมก็เปลี่ยนวิธีเล่นกับเชลซีเหมือนกัน ต้นฤดูกาลคู่แข่งพยายามสู้กับเชลซีที่กองกลางแล้วสู้ไม่ได้โดนสวนรัวๆไส้แตก พอกลางฤดูกาลเปลี่ยนเป็นอุดรับแล้วรอสวนก็เรียบร้อยเลยยิงได้น้อยลงแต่เสียประตูง่ายขึ้น กองหลังแต่ละคน1-1ลกชิบหาย

กองหลังอย่าว่าแต่ 1-1 เลยครับ นัด อิปสวิช ดีแล็ป มาคนเดียว กองหลังเชลซี 3 คนเอาไม่อยู่เลย ทำซะ ดีแล็ป เป็น ฮาลันด์ เลยนัดนั้น

ไม่ได้เข้าข้างโล้นนะ แต่มันก็ต้องสัมภาษณ์แบบนั้นอยู่แล้วปะ

สัมภาษณ์ว่าทีมเราพร้อมลุ้นแชมป์ เดี๋ยวจะแซงลิเวอร์ให้ดู มันก็โดนรุมด่าอยู่ดี เอาง่ายๆโดนทั้งขึ้นทั้งร่อง

แต่ถ้าสังเกตุ นักเตะหลายคนในทีมก็ออกมาให้สัมภาษณ์ไปในทางเดียวกัน คือคนในทีมก็รู้กันอยู่แล้วว่ายังไม่ถึงเวลา

มีแต่แฟนบอลนี่แหละเอาประเด็นนี้มาสานต่อ

ที่มันเริ่มกากไม่ใช่เพราะบทสัมภาษณ์แต่เป็นปกติของโล้น

ย้อนไปดูปีที่แล้วกับเลสเตอร์ช่วงแรกๆก็นำห่างจนคนคิดว่าจะเลื่อนชั้นสบายๆ

พอเริ่มช่วงปีใหม่ ทำแต้มตกแบบนี้ตอนนี้แหละจนสุดท้ายแทนที่จะเลื่อนสบายๆ ต้องมานั่งลุ้นช่วงท้ายๆ

แข่ง ก่อน จะแซงหงส์ด้วยนะช่วงนั้น

แล้วแฟนเชลซีก็เริ่มมีปากมีเสียงอื้ออึงเลย