อันแรกทำจริงกี่จุดดีกว่า เขียน Feature โคตรเยอะ โคตรหรู แต่บางจุดมีแค่ป้ายอย่างเดียว ไม่มี wifi, charger

แถวศูนย์วิจัยที่มีช่องชาร์จโทรศัพท์ พอไปถึงชาร์จไม่ได้อีก

ติดใจจารนิดเดียวอยากให้เด็ดขาดมากกว่านี้อีกอย่างกรณีลู่วิ่งหรือมันมีตื้นลึกอะไร แต่ก็ไม่น่าแพงขนาดนั้นซิ

ของอัศวินมันเพ้อฝัน ถ้าทำจริงอย่างมากก็จุดสองจุดไว้ถ่ายรูปเอาหน้าแค่นั้นแหละ อ่านสเปคในกระดาษยังรู้เลยว่าต่อให้ทำจริงก็ใช้ไม่ได้จริง

อันแรกเลอะเทอะ จอมีบอกเวลารถเมย์มาอะดี แต่อันอื่นเอามาให้พังเสียงบเปล่าๆ ทั้งที่ชาร์จ ทั้งจอ 55 นิ้วไรนั่น เจอเด็กเอี้ยๆเข้าไปไม่น่ารอด ไหนจะไวไฟ ใช้ได้สักแค่ไหน

ที่ยังแก้ไม่ได้คือลำดับการทำงานอะ ทำป้ายเสร็จ มารื้อทางเท้างี้

เมื่อไหร่หน่วยงานพวกนี้มันจะทำงานร่วมกันเป็นซักที

เหมือนเอาคนที่ดีแต่พูดแต่ไม่ทำ มาเทียบกับคนที่ลงมือทำ555

ปล.สมัยหน้า ขอสส.แบงก์บ้างนะ

ฟังก์ชั่นไม่จำเป็นต้องเยอะหรอก มัน Maintenance ลำบาก
อย่าลืมว่า กทม. ไม่ได้มีแต่กรุงเทพชั้นใน
ขอแค่มีที่นั่ง หลบฝนหลบแดดได้บ้าง ข้อมูลรถเมล์อัพเดตอยู่เสมอก็พอแล้ว
ในขณะที่ กทม.ชั้นในเปลี่ยนสเปคทุก4ปี กทม.ชั้นนอกยังใช้ศาลารถเมล์โมเดลสมัยผมเรียนมัธยมอยู่เลย

ของอัศวินดีนะถ้าตัดเรื่อง จอ LED กับที่ชาร์จ เจอพวกเปรตทำเสียหมด
จอ LED เปลี่ยนเป็นป้ายแบบชัชชาติจะดีมาก
กล้องควรมีมากๆโจรเยอะตามป้ายรถ จออัพเดตรถก็ควรมีเรือเจ้าพระยายังทำได้
แต่เข้าใจว่าบนถนนบางมีมันควบคุมเวลาค่อนข้างยาก แต่ก็อยากให้มีอยู่ดี
รถบางสายบางทีรอ 30-60 นาทีงี้ถ้ามีสถานะบอกจะได้ช่วยประหยัดเวลาหลายคนได้เยอะ
ไฟส่องสว่างควรมีที่สุด wifi ทำจริงๆไม่น่ายากหรอกมั้ง แต่ส่วนตัวว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่

ป้ายรถเมย์ขอแค่สะอาด ไม่อันตราย มีแสงสว่างเพียงพอ ก็ดีแค่ไหนละ ความสำคัญที่พ่วงกันมาเป็นอันดับแรกคือตัวรถเมย์มากกว่า แต่ไม่พูดถึงละกันเดี๋ยวลามไปหลายเรื่อง

ชอบของอัศวินนะ แต่พวกป้าย LED ควรให้เอกชน เช่น PlanB ร่วมทุนดีกว่า

ป้ายพวกนี้ดูแลยากมากนะ ยิ่งเป็นหน่วยงานรัฐ

ป้ายอัศวินแรกๆเหมือนจะดี ใช้ไปสัปดาห์เดียวอย่างสกปรก

ผมว่าไม่ได้เป็นที่ป้าย เป็นที่คนใช้นี่และ คนจร,คนบ้า,โฮมเลสมานอนเต็ม

เราควรจัดการพื้นที่ให้คนเหล่านี้ก่อน

คือป้ายสวยก็ดีแต่สิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้รถเมล์ประจำคือผังบอกหน่อยว่า

รถเมลสายนี้มันไปทาง บางที่ไม่บอกเลยแยกหน้ามันเลี้ยวซ้ายหรือขวาจะได้ขึ้นถูกสาย

มันเทียบกันแบบนั้นไม่ได้ป่ะครับ

ของอัศวิน ทำแค่ไม่กี่จุดเอง เน้นป้ายใหญ่ๆ คนเยอะๆ เลยมีน้อยถึงน้อยมาก

ของชัชชาติ ทำศาลาสำหรับจุดเล็กๆ ที่ก่อนหน้านั้นมีแต่ป้าย แต่ไม่มีศาลาบังแดดบังฝน พูดง่ายๆ คือทำเพิ่ม หรือไปแก้บางจุดที่มันโทรมๆ

งบประมาณก็ไม่เท่ากันนะ ของอัศวินนั่นตกเฉลี่ยป้ายละ 7 ล้านนะครับ ตามข่าว https://www.prachachat.net/property/news-500131

แล้วของอัศวินก็คือให้เอกชนทำให้ แลกกับสัมปทานโฆษณาตรงนั้น ซึ่งก็ไม่รู้มีสัญญาถึงเมื่อไหร่ แล้วพอหมดสัญญาจะยังไง ใครดูแลต่อ? ทั้งป้าย ทั้งไวไฟ ทั้งจอทีวี ฯลฯ

คือเอาจริงๆป้ายรถเมล์มันไม่ควรจะวุ่นวายขนาดนี้รึเปล่าแต่แรกแล้วอะ

เรามีตัวอย่างจากเอกชนอย่าง BRT แล้ว จริงๆผมว่าแค่ประมาณนั้นก็จบละ เรื่องแผนผังว่าไปไหนอะพูดจริงๆทำยาก คือมันจะติดปัญหาเรื่องที่ถ้าทำใหญ่เกินเก็เปลืองงบ และออกแบบยากมากให้มันพอดีกับทุกคน
ถ้าทำเล็กๆก็ปัญหาเดียวกับอัศวินคือ มองเห็นยากมาก (ฟอนต์แม่งเบอร์ 5-6 เลยมั้ง)

ส่วนเรื่องดีไซน์ ถ้าของอัศวินมันทำได้ทั้งประเทศก็ดีหรอก แต่ถ้างบบานขนาดนั้นผมว่าของอาจารย์ชัชก็ไม่ได้ห่วยอะไร