บริษัท Alimentation Couche-Tard (ACT) จากแคนาดา ได้เสนอซื้อกิจการ 7-Eleven ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านสะดวกซื้อชื่อดังของญี่ปุ่น ด้วยมูลค่า 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.6 ล้านล้านเยน) ซึ่งอาจเป็นการเข้าซื้อกิจการต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น หากการเข้าซื้อเกิดขึ้น成功 ACT จะมีสาขาในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 20,000 แห่ง จากเดิมที่มีประมาณ 9,000 แห่ง ขณะนี้ Seven & i Holdings ซึ่งเป็นเจ้าของ 7-Eleven กำลังพิจารณาข้อเสนออย่างรอบคอบผ่านคณะกรรมการพิเศษ อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้ออาจต้องเผชิญกับการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันในอเมริกาเหนือ เนื่องจากทั้งสองบริษัทมีสาขาร้านสะดวกซื้อจำนวนมากในภูมิภาคนี้

7-Eleven ก่อตั้งในญี่ปุ่นเมื่อปี 1974 โดย Masatoshi Ito และปัจจุบันมีสาขาทั่วโลกกว่า 85,000 แห่งใน 20 ประเทศ โดยเฉพาะในเอเชีย ส่วน ACT เป็นเจ้าของแบรนด์ Circle K และ Couche-Tard มีสาขากว่า 17,000 แห่งใน 30 ประเทศ




บริษัท Itochu Corp ซึ่งเป็นผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ FamilyMart และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Seven & i Holdings ได้ยื่นข้อเสนอให้เครือ CP ของไทยร่วมลงทุนในรูปแบบ Management Buyout (MBO) ซึ่งเป็นการที่ผู้บริหารหรือเจ้าของเดิมขอซื้อหุ้นคืน เพื่อถอดบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์และกลายเป็นบริษัทเอกชน

แหล่งข่าวระบุว่า ข้อเสนอมูลค่าประมาณ 4 ล้านล้านเยน (ราว 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับการซื้อหุ้น ส่วนที่เหลือจะเป็นเงินกู้จากธนาคารขนาดใหญ่






Alimentation Couche-Tard






7-11 ญี่ปุ่น






7-11 ไทย

ที่ cp ยังใช้ชื่อ 7-11 อยู่เพราะไปมีหุ้นกะเขานี่เอง
เป็นผมขายหุ้นทิ้ง เปลี่ยนชื่อแม่ม

ก็ซื้อแค่ชื่อป่าว มาตรฐานอะไรไม่ได้ครึ่ง7-11ญี่ปุ่นเลย ยังไงเด๋วซีพีก็เอามาเปลี่ยนชื่อทำเองได้แล้ว เหมือนปั้มที่เมื่อก่อนซื้อมาจากตปท.หลังๆปตท.ก็ทำเองได้

CPALL ซื้อแฟรนไชน์ 7-11 ตอนแรกจากเมกานะไม่ใช่ ญี่ปุ่น

ไม่รู้สิ คิดว่าถ้าอยากได้จริงๆหรือประเมินว่าคุ้ม ก็คงหาเงินไปซื้อได้

เบื้องต้นก็คงไปคุยกะทั้ง ACT และ ทางฝั่ง7ญป. ใครให้ดีลดีกว่าก็ไปฝั่งนั้นก็ได้

ถ้า ACT ซื้อไปสำเร็จ แล้วดีลไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงลบได้ หรือดีขึ้นเล็กน้อย
มันก็ไม่มีผลกระทบอะไรต่อ CPALL ได้ อันนี้ก็อาจจะดีที่สุดก็ได้
เมื่อก่อนก่อนญี่ปุ่นจะซื้อเซเว่น ผู้ก่อตั้งจริงๆก็เป็นเมกา คุณธนินทร์ก็ซื้อเฟรนไชส์มาจาก2พี่น้องเมกานี้
จากนั้นเปลี่ยนมือมาอยู่กับฝั่งญี่ปุ่นก็ไม่กระทบอะไรเหมือนกัน รอบนี้ก็อาจจะไม่ต่างก็ได้ ถ้าคุยกันได้

้ส่วนถ้า ACT ซ่ามากๆ ไม่มีทีท่าจะเป็นมิตรที่ดี ดูทรงละน่าจะมีผลกระทบแน่ๆ ก็ไปช่วยฝั่งญี่ปุ่นก็ได้
แต่ดีลน่าจะมีข้อจำกัด ไม่ใช่ประมูลกันเอาให้ตาย คงมีตัวเลขว่าถ้าเกินนี้ไม่เอา
เพราะต่อให้เป็นแบบเคสนี้ เลวร้ายที่สุดก็แค่เปลี่ยนแบรนด์ใหม่ซะก็จบ
ซึ่งก็เคยทำมาแล้วกับเคสโลตัส

หรือถ้าประเมินว่าดีลกับญี่ปุ่นนี่แจ่มแมวเลย ก็หาตังไปซื้อ เสี่ยงหน่อย แต่ธุรกิจนี้ข้อดีก็คือเสี่ยงต่ำ
แถมดีลนี้ จริงๆก็ไม่ได้แพงอะไรมากเกินไป ถ้าประเมินว่าคุ้ม เข้าสูตร70/30 ห้ามตาย ไรนั่น
CPALL ก็อาจจะเข้าไปซื้อจริงๆก็ได้