เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขานัน ได้รับแจ้งจากประชาชนพบแร้งสีน้ำตาลหิมาลัยในสวนยางพารา บริเวณ ในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.เขาน้อย อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช โดยนำส่งให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขานันมารับตัวไปดูแลเบื้องต้น ทั้งนี้ทางอุทยานแห่งชาติเขานัน ได้ประสานสายด่วนพิทักษ์ป่า หมายเลข 1362 และส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) เพื่อฟื้นฟูแร้งตัวดังกล่าวต่อไป

หากพบการกระทำผิดเกี่ยวกับป่าไม้หรือสัตว์ป่าและสัตว์ป่าพลัดหลงสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนพิทักษ์ป่า หมายเลข 1362

สำหรับแร้งสีน้ำตาลหิมาลัย มีชื่อวิทยาศาสตร์ (Gyps himalayensis) ถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทย ที่มีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ แร้งชนิดนี้จัดว่าเป็นนกบินได้ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของทวีปเอเชีย เป็นรองเพียงแร้งดำหิมาลัยเท่านั้น

Credit : Facebook อุทยานแห่งชาติเขานัน - Khao Nan National Park

อย่างใหญ่

น้อน

ตัวใหญ่ เท่มาก

ฝากช่วยกันเป็นหูเป็นตาครับ

ในฤดูหนาว ทุกปี ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนมีนาคม จะพบ #แร้งสีน้ำตาลหิมาลัย (บางปี พบ #แร้งดำหิมาลัย ด้วย)
บินเข้า-ผ่านประเทศไทย 10-30 ตัว และพบว่ามากกว่า 12 ตัว บินไปถึงประเทศสิงคโปร์ บางตัวหมดแรง ร่วงในประเทศมาเลเซียและ เกาะสุมาตรา
แร้งหิมาลัยพวกนี้จะร่อนมากับลมหนาว ลงใต้มาเรื่อยๆ ตามแนวเทือกเขาตะนาวศรี (ส่วนน้อย บินไปทางอีสานและมักจะพบในภาคตะวันออก ดูแผนที่ในคอมเมนต์)
ถ้าแร้งไม่พบซากสัตว์ (ซึ่งในปัจจุบัน ซากปศุสัตว์แทบไม่มีในธรรมชาติ) และลมหนาวอ่อนลง แร้งจะหมดแรง เพราะขาดอาหาร ตกพื้น
กลายเป็น #แร้งร่วง
ในภาคใต้ (ดูแผนที่ แสดงจังหวัดที่มีรายงานพบแร้งหิมาลัยในคอมเมนต์)
#แร้งร่วง หน่วยงานของกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะรวบรวมนำส่งสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า (โทรสอบถาม 1362) ในพื้นที่ใกล้กับจุดร่วง เพื่ออนุบาลแล้ว บางตัวที่ต้องรับการรักษาจาก อาการบาดเจ็บ หรือต้องรับการผ่าตัด นำส่งหน่วยฟื้นฟูนกล่าเหยื่อ คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน เพื่อรักษาฟื้นฟูสุขภาพ ฝึกบินแล้วนำไปปล่อยคืนธรรมชาติ ในช่วงฤดูอพยพผ่านขึ้นเหนือ ระหว่างปลายเดือนมีนาคมถึงเมษายน ณ เส้นทางอพยพของแร้งหิมาลัยใน ภาคตะวันตกและภาคเหนือ
++++++++++++++
ผลการติดตามแร้งหิมาลัยที่ปล่อยคืนธรรมชาติ ด้วยอุปกรณ์ดาวเทียม ในปี 2564-2565 หน่วยวิจัยนกนักล่าและเวชศาสตร์อนุรักษ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ศึกษาติดตามแร้ง 3 ตัว พบว่าสามารถเดินทางไกลไปถึงมณฑลเสฉวน ยูนนาน ประเทศจีน และเขตปกครองตนเองทิเบต ได้
++++++++++++++++
ถ้าพบเห็น #แร้งร่วง เพราะนกหมดแรง ยกหัวไม่ขึ้น ไม่มีแรงต้านหรือวิ่งหนี ให้ป้อน น้ำเกลืออุ่น
(น้ำสะอาด 1,000 มล./ซีซี + เกลือแกง 9 กรัม, วิธีในคอมเมนต์)
50-100มล./ครั้ง ทุก 3-6ชั่วโมง
**งดป้อนอาหารโดยเด็ดขาด
หลังจากนั้น 1-2วัน เมื่อแร้งยกหัวได้ สามารถให้เ้นื้อหมู/ไก่สด (ไม่จำเป็นต้องเน่า) เป็นชิ้นๆให้แร้งกินได้
**ห้ามบังคับป้อนหรือยัดอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์หรือสารอื่นๆ โดยเฉพาะที่เป็นน้ำมัน เข้าปากแร้ง ถ้าแร้งไม่กินเอง เพราะแร้งอาจสำลักอาหารเข้าปอด ..ถึงตาย*
เมื่อแร้งมีแรง ยกหัวได้ ก็เคลื่อนย้ายไปพบสัตวแพทย์ หรือส่งสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติฯ
*และ* #โทรแจ้ง สายด่วน #1362

credit facebook ของ หน่วยฟื้นฟูนกล่าเหยื่อ ม.เกษตร

ถ้าเจอน้องๆ หรือพวกนกล่าเหยื่อพวกแร้ง เหยี่ยว แสก เค้าแมว ฮูก หลุด ป่วย อุบัติเหตุ จะนกเลี้ยงนกธรรมชาติ ก็แจ้งไปที่นี่ได้นะครับ หรือจะแจ้งไปที่ศูนย์ของกรมป่าไม้ก็ได้ ช่วยประชาสัมพันธ์ เข้าไปดูความรู้ ไปเพิ่มยอดวิว หรือจะบริจาคช่วยหน่วยงานก็ได้ครับ เป็นการทำบุญ

เข้าไปดูพวกนกอื่นต่อได้นะครับตามลิ้งค์ มีนกที่ช่วยหลายชนิดอยู่

https://www.facebook.com/KasetsartUniversityRaptorUnit/?locale=th_TH


ฤดูหนาว ปี 2025/2567-2568 พบแร้งหิมาลัย บินเข้าประเทศไทย อย่างน้อย 28 ตัว (ตัวเลขสีฟ้า) หมดแรงร่วง 10 ตัว (ตัวเลขสีส้ม)
ปีนี้ แร้งสีน้ำตาลหิมาลัย บินลงใต้ไปถึงเมืองอิโปห์ ประเทศมาเลเซีย จำนวน 8 ตัว
ส่วนใหญ่พบว่า หมดแรงในภาคใต้
ปัจจุบัน แร้งร่วงส่วนใหญ่ ได้รับการช่วยเหลือ ผ่าน สายด่วน 1362 จนท. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าฯ อาทิ
เขตห้ามล่าสัตว์ป่า
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า และคลินิกสัตว์ป่า สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ในต่างจังหวัด รับตัวแร้งและส่งไปอนุบาลที่ #สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา เพื่อมห้วภาพแร้งแข็งแรงขึ้น และพร้อมเคลื่อนย้ายขึ้นมาที่ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อุทัยธานี และ หน่วยฟื้นฟูนกล่าเหยื่อ Kasetsart University Raptor Rehabilitation Unit เพื่อ เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสุขภาพและฝึกบิน พิจารณาปล่อยคืนธรรมชาติในฤดูอพยพกลับถิ่นเหนือ (แร้งหิมาลัยในประเทศไทย อพยพมาจากประเทศจีน มณฑลซินเจียง ชิงไห่ เสฉวนและเขตปกครองตนเองทิเบต, จากข้อมูลการติดตามด้วยดาวเทียมหลังการปล่อย โดย #หน่วยวิจัยนกนักล่าและเวชศาสตร์อนุรักษ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม. เกษตรศาสตร์) ในเดือนเมษายน
+++++++++++++++++
แหล่งข้อมูล:
- สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) และ สบอ. ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี)
- www.ebird.org
- www.BirdsofThailand.org : Species Account Himalayan Vulture

เคยไปดูพวกแร้ง เหยี่ยว หรืออินทรีย์ หลายๆสายพันธ์ ตัวใหญ่พอๆกับคน กินอย่างจุ

ถ้าใครคิดจะไปหาพวกนกแบบนี้มาเลี้ยงเอาเท่ห์ หรือเห็นตามเน็ตเลี้ยงแล้วอยากทำตาม อย่าหาทำเลยนะคับ เลี้ยงยาก กินจุ ต้องกินเหยื่อเป็น แล้วขี้มันเหม็นมาก ตัวมันก็เหม็นสาบเพราะมันกินเนื้อสด จิกอย่างเจ็บ ชีวิตจริงไม่ได้ง่ายอย่างนั้น ไม่ได้เชื่องง่ายอย่างที่คิด มันเป็นสัตว์สัญชาตญาณสูง ปล่อยให้พวกมันอยู่ตามป่าไปดีแล้วครับ เลี้ยงพวกนกสวยงามยังดีกว่าครับ พวกนี้เชื่องง่ายกว่า