ทำไมมันมีหลายแบบจังครับ ตั้งแต่ตั้งโต๊ะกดน้ำร้อนเย็นได้,ต่อท่อแบบแอมเวย์,เป็นแท้งค์3-5แท้งค์พวกนี้มันต่างกันยังไงบ้าง

แล้วพวก RO,UV,UF อะไรพวกนี้มันต่างกันยังไง

จริงๆผมก็มีโจทย์อยู่คือ ผมจะเปิดร้านอาหารแต่จะใช้น้ำสะอาดที่ใช้ดื่มได้ในการล้าง,แช่ + กรอกใส่ถังให้ลคดื่มได้ด้วย แต่อยากได้แบบไม่มีกลิ่น+สะอาด แบบนี้ผมควรจะซื้อแบบไหนถึงจะเซฟคอสที่สุดแล้วตรงตามโจทย์ครับ

ผมว่าไป Coway จ่ายรายเดือนๆละ 300-500 ก็ดีนะครับ

เพราะใช้น้ำน่าจะเยอะ น่าจะคุ้ม

ถ้าจะเซฟคอส หา ro หรือ uf แถวสวนสยาม มีหลายร้านครับ

RO จบสุด 3000 ไม่เกิน กรองวันนึงได้ 50 GPD - 200 GPD (200-800 ลิตร) ซื้อมาติดเองได้ ดู youtube เอาครับ

https://s.shopee.co.th/50JJkeYVEn

แบบอันนี้

ขอย้ำว่า RO เท่านั้น อย่าไปเชื่อระบบกรองแบบอื่น UV ไร้สาระ น้ำผ่านไม่ถึง 5 วิ ทำไรได้ RO ชัวร์สุด

ผมติดให้บ้านเพื่อน บ้านตัวเอง ให้พี่ชายตอดอีกสองบ้าน ไม่ต้องซื้อน้ำกินอีกเลย เลี้ยงเด็กชงนม ได้หมด

หลักๆ ก็มีกรองฝุ่นและดินตะกอน สสารที่มีขนาดใหญ่(กรองทราย) กรองเอากลิ่น สี รส(คาร์บอน) กรองเอาสารเคมี(RO Cation AnIon) กรองเอาจุลินทรีย์ (ceramic RO UV)

ส่วนใหญ่ก็จะเป็น 1.กรองหยาบ 2.กรองคาร์บอน 3.กรองเซรามิก 4.กรองคาร์บอนอีกรอบ ที่ขายกันนะครับ

ถ้าดีควรไปร้านที่ขายเครื่องกรองแล้วถามเค้าเลยว่าเราจะใช้กรองทำน้ำอะไร ปริมาณเท่าไหร่ เค้าจะบอกขนาดเครื่องและรายะละเอียดให้เราได้ เพราะถ้าใช้ทั้งล้างทั้งดื่มขนาดร้านอาหาร ใช้เยอะแน่ๆ

หลักๆเน้น1.กรองหยาบ 2.คาร์บอน 3.เซรามิก ราคาจะไม่แรงมาก

ใช้แบบไหน แพงไหมครับ แนะนำหน่อยครับ

พอดีผมอยู่ต่างจังหวัดเลยอะครับ พอจะมีช่องทางการติดต่อร้านแถวนั้นไหมครับ

ตอนแรกก็ว่าจะใช้เหมือนกัน ลคมากดน้ำที่ตู้จะได้ดูสะอาดด้วย แต่มันเก็บน้ำได้สูงสุดแค่10ลิตรกว่าๆ แล้วต้องรออีกชั่วโมงกว่าๆเพื่อจะรอให่รีเซ็ตใหม่อีกรอบอะครับ แต่ผมต้องกรอกน้ำมาใช้ครั้งละประมาณ40-50ลิตร มันจะเสียเวลาตรงนี้มากๆอะครับ แถมมันติดสัญญาระยะยาวด้วย เผื่อถ้าร้านไปต่อไม่ได้วันหน้ากลัวจะเป็นภาระอะครับ

งั้นก็เข้า Homepro หรือ บ้านกรองน้ำเลยครับ

น่าจะมีหลัก 4-5 พันอยู่

บอกว่ากรองน้ำกิน เดี๋ยวเค้าจะแนะนำว่าต้องใช้กรองแบบไหนบ้าง

สำคัญคือน่าจะมี RO ครับ

ร้านแถวๆสวนสยามมาขายใน shopee เกือบทุกร้านครับ

ถ้าใช้เยอะก็เลือก GPD สูงๆครับ

ro เลยครับ เครื่องกรองน้ำอยู่ที่ไส้กรองล้วนๆ กระบอกยยี่ห้อไหนก็เหมือนกัน ใส่ใส้แทนกันได้ ไม่นับโคเวย์ แอมเวย์ สามเอ็มนะ

ถ้าเป็นร้านก็ซื้อที่กระบอกใหญ่หน่อย จะได้ผลิตน้ำได้ทันใช้

แยกส่วนครับ
อันที่ใช้ล้างกับแช่ใช้กรองน้ำใช้ดีกว่าครับ น้ำแรงกว่าเผื่อใช้ในการฉีดล้าง สามารถใช้ปริมาณมากๆได้ดีกว่า และแยกกันจะช่วยยืดอายุไส้กรองของเครื่อง RO ด้วยครับ แนะนำเป็นแบบบิ้กบลู 2 กระบอกก็ได้ครับ ใส่ PP กับ carbon block ก็พอ ตรงนี้ประมาณ 3 พันบาท หรือถ้าเอาสะอาดหน่อยก็เพิ่ม Resin ไปอีกกระบอกก็ได้

น้ำดื่มเอาแบบไร้สีไร้กลิ่นเลยแนะนำใช้แบบ RO ครับ แต่ถ้าใช้ในร้านต้องการกำลังผลิตเยอะและถังจัดเก็บระดับ ระดับ 40-50ลิตร แนะนำเลือกรุ่นกระบอก 20 นิ้ว 200-300GDP แบบ 5 ขั้นตอน+ถังเก็บน้ำ 100 ลิตร+ถังแรงดัน 40 ลิตร ชุดนี้รวมๆประมาณ 8 พันบาทครับ

แบบ uf 5-6 ขั้นตอนก็พอใช้ได้ประหยัดไปได้เยอะแหละ แต่มันไม่ชัวร์ และไม่สะอาดเท่า RO อาจไม่เหมาะกับสภาพน้ำประปาบางพื้นที่ หรือบางวันเจอคุณภาพน้ำประปาแย่ๆมา กรองเอาไม่อยู่ หลุดให้ลูกค้าดื่มไปทีมันอาจจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของร้านครับ

ตัว RO ผมก็ไปซื้อแถวเสรีไทมาใช้ 5-6 ปีแล้ว ถูกดี
แต่เปลี่ยนไส้สองสามครั้งเท่ากับซื้อครื่องใหม่เลย

น้ำ RO กรองได้ดีสุดครับ ยิ่งถ้าเป็นต่างจังหวัดที่น้ำไม่สะอาดยิ่งใช้ดี ช่วงน้ำท่วมปี 54 พวกน้ำบาดาลหรือน้ำทะเล ใช้ RO แล้วกลายเป็นน้ำสะอาดสบายใจ ถึงขนาดมักจะมีกระทู้ถามว่าน้ำ RO ปลอดภัยไหม เพราะกรองละเอียดจนแทบไม่เหลือแร่ธาตุอะไรเลย (ความจริงคนเรากินแร่ธาตุจากอาหารอยู่แล้ว ไม่ได้ต้องการแร่ธาตุจากน้ำขนาดนั้น)

แต่ต้องพิจารณาเงื่อนไขของระบบ RO คือ

- ระบบ RO จะใช้การสะสมน้ำไว้ในแท้งค์กลมๆใต้ซิ้งค์ เมื่อมีปริมาณมากพอก็จะผลักน้ำด้วยแรงดันสูงผ่านไส้กรองเมมเบรน (เมมเบรนคือไส้กรองตัวราคาสูงของระบบ ราคาของไส้กรองตัวนี้ตามบ้านเช่นของบริษัทบ้านกรองน้ำอาจจะประมาณ 2000 กว่าบาทเปลี่ยนทุก 2 ปีหรือเปลี่ยนเมื่อน้ำไหลอ่อน)

- ด้วยความที่ต้องสะสมน้ำลงแท็งค์ของระบบ RO ทำให้พอเราเปิดก๊อกใช้น้ำแล้วปิดก๊อก เครื่องกรองจะยังคงดูดน้ำเข้าเครื่องอีกสักพัก ถ้าที่ร้านอาหารมีการติดตั้งปั๊มน้ำก็จะได้ยินมีเสียงปั๊มน้ำทำงานเป็นช่วงๆ จนกว่าน้ำจะเข้าไปสะสมเต็มแท๊งค์ของระบบ RO

- เครื่องกรอง RO จะมีการฟลัดน้ำทิ้ง (มีสายเล็กๆโผล่คาไว้สำหรับปล่อยน้ำทิ้ง)

- **สำคัญสำหรับร้านอาหารคือ ท่อก๊อกน้ำออกของ RO น้ำไหลออกรูเล็กๆ และออกมาได้ไม่เกินความจุของแท๊งค์ของระบบ RO ตรงนี้พิจารณาสอบถามทางบริษัทให้ดี ไม่งั้นเปิดก๊อกใช้น้ำอยู่ดีๆผ่านไปไม่กี่นาทีน้ำหมดแท็งค์ก่อน ต้องมารอหลายนาทีเพื่อกดน้ำรอบใหม่คงวุ่นวาย (ลองถามทางบริษัทเช่นบ้านกรองน้ำดูก่อนก็ได้) ว่ากรณีเป็นร้านอาหารตอนที่จะใช้น้ำทีละเยอะๆมันมีเครื่องกรองระบบ RO ที่ใหญ่กว่าที่ตามบ้านทั่วไปใช้หรือเปล่า

ผมไม่รู้เหมือนกันว่าร้านอาหารสเกลของท่านเล็กหรือใหญ่ และไม่รู้ว่าร้านอาหารต่างๆเขาใช้ระบบ RO กันหรือเปล่า ท่านอาจต้องลองสืบหาข้อมูลว่าร้านต่างๆเขาใช้เครื่องกรองแบบไหนกัน หรือถ้ามีเพื่อนทำร้านอาหารก็ลองสอบถามดู


ส่วนถ้าเปิดใช้ล้างผักแช่ผัก อันนี้ใช้เป็นระบบ "เครื่องกรองน้ำใช้" ตามที่ท่าน Tomoyoshi บอกคือเหมาะสม ใช้เพื่อให้น้ำประปาที่เข้ามาเปลี่ยนเป็นน้ำที่คุณภาพดีขึ้น ใช้ซักผ้าผ้าก็หมองช้า ใช้อาบน้ำได้ ใช้ล้างผักได้ ใช้ต่อเข้าเครื่องกรอง RO ก็ได้