ของแบบนี้บังคับกันได้หรอครับ มันเป็นเรื่องเฉพาะของบริษัทไม่ใช่หรอครับ ใช้เหตุผลอะไรที่จะบังคับได้อะครับ ผมไม่เข้าใจ

เรื่องนี้มันต่างกันดับตอน type c มากไหมครับ

https://www.facebook.com/share/1ZmpvDNpL9/

ถ้าจำไม่ผิดในจีน Xiaomi ตอนนี้ (ไม่แน่ใจเครือ oppo-vivo-Realme-iQOO-1+ ด้วยไหม) สามารถใช้งาน Continuity + Airplay + Airdrop กับแอปเปิ้ลได้แล้วครับ จำได้ว่าคนเหวอเหมือนกันว่าทำได้ไง

https://www.beartai.com/tech/it-news/1438498

อันนี้เลย พี่เหล่ย CEO Xiaomi แกโชว์เอง เหวอกันไปทั้งทวิตภพอะตอนนั้น

แต่เข้าใจว่าฟีเจอร์นี้มันทำได้แค่ในจีน จะไปฟ้องก็ลำบากเพราะสุดท้ายถ้ารัฐบาลจีนเห็นว่ามีผลประโยชน์ต่อประชาชนเขามากกว่าก็เรียบร้อย ยังไงก็ไม่รอด ออกแพทช์มาปิดก็โดนฟ้องขี้ราดเปล่าๆ

ฉะนั้นแล้วเนี่ย ในเชิงเทคนิคอะ ทำได้ไม่ยากหรอกครับ Protocol มันก็ส่งผ่าน Wifi ธรรมดาๆเนี่ยแหละ
แต่ด้วยความปกป้อง Ecosystem ของตัวเองนี่แหละเลยไม่ยอมทำ แค่นั้นเลย

ถามว่ามีเหตุผลอะไรบังคับได้ไหม ไม่มีหรอก แต่ก็ตามสไตล์ EU คือถ้าไม่ยอมเอ็งก็ไม่ต้องมาขายในยุโรป แค่นั้นเอ๊ง

เหมือน Type C อะ ไม่ยอมใส่มาก็ไม่ต้องขาย สุดท้ายแล้วก็ต้องยอมเพราะยอดเครือ EU มันก็ไม่น้อยไง อันนี้จริๆง่ายกว่าด้วย ปล่อยแพทช์แก้โค้ดก็จบแล้ว ไม่ต้องยุ่งกับฮาร์ดแวร์เลยด้วยซ้ำ

เชื่อผมเถอะ อเมริกาจริงๆมันทำได้แหละ แต่มันล้มเหลวเพราะเรื่อง Lobby ของบริษัท Tech ก็เลยทำให้หลายๆอย่างมันไม่ผ่านสักที ยุโรปมันไม่สนใจ มันเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรจะทำได้ ตั้งแต่ Right to Repair, Type C แล้วก็มาเรื่องนี้ มันก็ลงดาบ แล้วก็บอกง่ายๆ ไม่ทำก็ไม่ต้องมาขาย จบ

ทุกวันนี้ถ้าไม่นับว่าภาษีนำเข้า Electronics ของยุโรปแม่งแพงหน้ามืดมาก (บางโซน 30-40% ของราคาเครื่อง) ผมว่าแม่มคือสวรรค์ของผู้บริโภคเลยแหละ ทุกอย่างองค์กรมันไล่ทุบหมดอะ ขอให้มีผลประโยชน์ต่อผู้บริโภค

ปล. แต่เอาจริงๆผมว่าปัญหาของ Type C ตอนนี้ที่พวกสาย Tech เคยเตือนๆกันมันเริ่มงอกละ คือพอมันรองรับทั้งชาร์จไฟ, Data Transfer, Display Output, Ethernet ฯลฯ
ก็เริ่มวุ่นวายละ เพราะบาง Type C แม่มไม่รองรับทุกอย่าง แต่ไม่บอกว่าอันไหนบ้าง
อย่างโน้ตบุ้คบริษัทผมงี้ Type C มีแต่ทำได้แค่ต่อ Data in-out กับ Ethernet นะ
ชาร์จไม่ได้ (เคยมีที่ตปทฝืนชาร์จแม่มช็อตพังไปเลย), ต่อขึ้นจอก็ไม่ได้ สรุปจะแบกไปทำงานข้างนอกคือต้องเอาไอก้อนชาร์จมันไป วุ่นวายจัดๆ