เจมส์จิ-โฟม Love story
1- เจมส์จิกับโฟมเจอกันครั้งแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเจมส์มาถ่ายโฆษณา ส่วนโฟมทำงานเบื้องหลังในกองถ่ายโฆษณา
2- โฟมนึกว่าเจมส์เป็นเกย์ เพราะเคยได้ยินข่าวกอสซิปทำนองนั้นเกี่ยวกับเขา แต่พอได้ร่วมงานกันจริง ๆ เธอก็รู้ว่าเขาไม่ใช่
3- แม้การร่วมงานกันครั้งนั้นทั้งคู่จะไม่ได้คุยกันมากนัก แต่เจมส์ก็รู้สึกชอบโฟมแล้ว เขาชอบผู้หญิงที่บุคลิกแบบนี้แหละ แอคทีฟ ขยัน ทำโน่นทำนี่ เจมส์ก็เลยพยายามหาช่องทางให้ได้คุยกับโฟม
4- ในที่สุดเจมส์ก็ DM ไปหาโฟม “สวัสดีครับ ทำอะไรอยู่” และขอแอดไลน์ ตอนนั้นโฟมยังนึกในใจว่าเขาคงทักหาผู้หญิงหลายคน เพราะดูแพรวพราวเหลือเกิน แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ได้เป็นคนแบบนั้น
5- ช่วงที่คบกัน หลายครั้งที่มีข่าวลบ ๆ และมีคอมเมนต์แย่ ๆ แม้โฟมจะเข้าใจในหน้าที่การงานของเจมส์ แต่บางครั้งก็อดรู้สึกไม่ได้ว่ามันอาจจะหนักเกินไปสำหรับเธอ
6- บางกระแสทำให้โฟมเสียใจจนนอนร้องไห้อยู่หลายวัน จนเธอเริ่มคิดว่า ‘หรือเราควรจบความสัมพันธ์กันดี?’ แต่เจมส์ไม่ยอมเลิกและบอกโฟมว่า...
“ที่เรามีปัญหากันเป็นเพราะคนอื่น เราจะไม่เลิกกันเพราะคนอื่น ถ้าต้องเลิกกัน เราจะเลิกเพราะเราไม่รักกันแล้ว“
7-เจมส์เป็นคนใจเย็นมาก ๆ ความใจเย็นของเขาช่วยบรรเทาเบาบางปัญหาต่าง ๆ ลงได้ บางปัญหาเขาช่วยแก้ บางปัญหาที่แก้ไม่ได้เขาก็ช่วยทิ้ง เขาเป็นคนมองโลกในแง่บวก ไม่เคยคิดลบกับใคร ทำให้โฟมรู้สึกสบายใจที่จะอยู่ด้วย
8- ส่วนโฟมเป็นคนไม่หวาน แต่เป็นคนที่อยู่ในโลกของความเป็นจริง บางครั้งเจตนาดีแต่วิธีพูดอาจจะฟังแล้วช็อตฟีล แต่มันก็ทำให้เจมส์รู้สึกมีแรงผลักดันที่จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ความไม่หวานของโฟมกลับทำให้ชีวิตของเจมส์กลมกล่อมขึ้น
9- แม้จะไม่หวานแต่โฟมดูแลเจมส์ดีมาก เวลาเจมส์ไปต่างประเทศ เขาไม่ต้องจัดกระเป๋าเองเลย โฟมทำให้หมด เจมส์ก็ไปลุ้นเอาหน้างานว่าโฟมใส่อะไรมาให้บ้าง แล้วโฟมยังชอบทำอาหารและทำขนมด้วย (ปัจจุบันโฟมเปิดร้านอาหาร และอาหารหลายอย่างเธอก็ทำเอง)
10- ทั้งคู่ไม่เคยมีคำสัญญาใด ๆ ต่อกัน โฟมเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าต้องมีงานแต่ง เธอเคยบอกเจมส์ว่า “ขอแค่มีแหวนสักวงก็พอ” แต่ในที่สุดงานแต่งที่คนทั้งประเทศร่วมยินดีก็เกิดขึ้น
11- ระหว่างการสัมภาษณ์หลังงานแต่ง นักข่าวแซวว่า “มีคนบอกอิจฉาโฟมจังได้เป็นแฟนเจมส์” โฟมตอบว่า “ต้องอิจฉาเจมส์สิที่ได้เป็นแฟนหนู เขาได้ของดี ของแรร์นะ” เรียกเสียงฮาครืน
ที่มา เพจ Poetry of Bitch