[RE: อ.เบียร์รับบริจาคทองสร้างเจดีย์]
จริงๆผมไม่ได้ตามแกเลย แต่อยากตอบ 55
ตอนผมฟังแกสอนในเน็ตก็รู้สึกแปลกๆนะ แบบไม่แน่ใจว่าเข้าใจจริงมั้ย แต่ช่วงหลังเห็นมีทำบุญ ผมถึงเริ่มรู้สึกยอมรับแกมากขึ้นนะ อย่างน้อยคือเข้าใจความสำคัญในส่วนนี้้ ไม่ใช่สุดโต่งปฎิเสธทุกอย่างเพราะต้องการเรียกกระแส คือก็อาจจะเรียกได้ละถ้าเรียบเรียงดีๆ แต่ก็ต้องระวังกรรมหนักติดตัวถ้าสอนแบยผิดๆ
เรื่องคำสอนย้อนแย้งคงต้องบอกว่ามันคนละมักกะโรนี เช่นสอนคนไม่รู้เลยก็อีกแบบ สอนคนมีพื้นดีพร้อมไปต่อก็อีกแบบ การหล่อพระ สร้างเจดีย์ สร้างกุฏิสงฆ์ ส่วนนี้จะได้จริงๆคือวิมานบนสวรรค์ เอาไว้รองรับว่าถ้าไม่ถึงนิพพานก็ยังมีจุดแลนดิ้งที่ดีรออยู่
คือถ้าสอนพุทธแล้วไม่เชื่อนรกสวรรค์ ไม่สอนให้คนเห็นตรงตามความเป็นจริง ไปเน้นคำพูดชิคๆคมๆที่ลวงคนให้เกิดความเห็นผิดเพี้ยนจากสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน เจอแบบนี้ผมก็ไม่ฟังเหมือนกัน อย่างตอนแรกๆที่ผมว่าแปร่งๆก็เพราะอย่างนี้ละ คือสอนคนให้เข้าใจว่าทำบุญไปก็ไม่มีผลอะไร ซึ่งมันคือมิจฉาทิฐิแบบเต็มใบ
ส่วนที่จารย์แกไหว้พระปืนเสา ผมมองว่าเป็นความตั้งใจไปละมานะความถือตัวของแกเองก่อนจะเข้าไปบวช แต่เป็นผมก็ไหว้ไม่ลงนะพระแบบนี้ เรียกว่าไม่ขอเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยจะดีกว่า นานาจิตตังละกัน เพราะสุดท้ายก็กรรมใครกรรมมัน แต่ละคนมีเส้นทางกรรมที่ทำมาไม่เหมือนกันอันนี้แน่นอน
อันนี้พิมพ์ไปเรื่อยละไม่ยอมลบ ข้ามได้ข้ามเลยครับ
Spoil
จริตนิสัยที่เป็นแรงขับเคลื่อนพฤติกรรมก็ต่างกันตามกรรมที่สะสมมา สำคัญคือความรู้ที่ได้จากศาสนานั้นสามารถหาได้จากทุกที่แล้วสมัยนี้ ใครรู้แล้วนำไปใช้จนจิตเกิดความเข้าใจก็เหมือนทำประกันชีวิตเอาไว้ โอกาสตายละตกนรกกว่าน้อยกว่าคนไม่นำไปใช้ จริงๆรายละเอียดเรื่องภพภูมิมันน่ากลัวกว่าที่เราๆคิดไว้มาก
เอาแค่กามาวจรภูมิในส่วนของสัตว์ที่เราจับต้องได้ตอนนี้ก็มหาศาล เช่น แมลงที่นับได้ประมาณ 800,000-1,000,000 ชนิด แล้วแต่ละสายพันธุ์ก็มีประชากรหลายล้าน ไม่รวมนกที่มีถึงหมื่นสายพันธุ์ ถ้าทำกรรมไม่ระวังก็มีโอกาสได้ลุ้นไปสัมผัสประสบการณ์แปลกๆ ดังนั้นการที่อจ.เบียร์จะเลือกทำบุญผมว่าไม้ได้ผิดเลยสักนิด ส่วนมันจะแย้งกับคำพูดแกมั้ยอันนี้แล้วแต่จะพิจารณา
เพราะถ้าสอนให้คนไม่เชื่อในบุญในนรกสวรรค์ก็คือออกนอกคำสอนพระพุทธเจ้าไปแล้ว เลยไม่ใช่พุทธแต่แรกอยู่แล้ว แต่พอเห็นแกทำบุญผมก็วางใจมากขึ้นว่าจารย์น่าจะเข้าใจความสำคัญของเปลือกในส่วนที่ต้องเน้นให้คนเกสะใก้ได้ก่อน เพราะสติปัญญาในการเข้าใจธรรมะของคนเรามีหลาย ระดับ บางคนต้องพึ่งวัตถุของหยาบก่อนจึงจะเจริญสู่ธรรมที่ละเอียดขึ้นได้ บางคนสะสมความเข้าใจมามากก็ใช้เวลาไม่นานเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
เข้าใจที่ว่าก็คือเข้าใจธรรมชาติตามที่มันเป็นจริงๆ แล้วก็ปล่อยวาง วางได้มากน้อยเท่าไหร่ผลลัพธ์หลังตายก็จะพาเราไปสู่จุดที่เราสะสมเอาไว้ สรุปว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เน้นการหลุดพ้นเฉพาะตน พระพุทธเจ้าก็ไม่สามารถช่วยคนจับจีวรท่านไปสวรรค์ไปนิพพานได้ แต่ธรรมของท่านช่วยคนที่นำไปปฎิบัติตามจนเกิดกำลังในการพาจิตตนให้พ้นจากสังสารวัฏ ที่หมายถึงการพเนจร หรือแปลว่า โลก ได้ (พระพุทธเจ้าบอกว่าขุมนรกก็อยู่ภายในโลกนี้ ผมเดาว่ามิติมันน่าจะตั้งอยู่ในเขตแมกม่าหนืดใต้ผิวโลกที่ระยะ 10-30 กม.)
ซึ่งคำว่า สังสารวัฏ หรือ วัฏสงสาร แปลอีกความหมายได้ว่า การเปลี่ยนวัฏจักร ดังนั้นสังสารวัฏจึงเชื่อมโยงเข้ากับความเชื่อเรื่องกรรมโดยตรง อันนี้คือความรู้พื้นฐานที่คนผู้เรียกตนเองว่าชาวพุทธต้องรู้เลย รายละเอียดยิ่งศึกษายิ่งรู้สึกว่าโลกทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นภัย ตรงนี้แหละที่คำสอนจะขัดกับความนิยมของชาวโลกที่ยังพอใจในส่วนที่น่ารื่นรมย์ต่างๆตามจริตนิสัยที่ตนสะสมมา แล้วพอธรรมะถูกนำมาใช้ผิดฝั่งผิดฝาผืดสถานะการณ์ มันก็เลยเกิดมาม่าวุ่นวายและทำให้ผู้คนในสังคมเกิดความเห็นต่างๆนานา
ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะธรรมควรตั้งอยู่ในสถานที่ที่สงบ พระพุทธเจ้าก็ไม่แสดงธรรมให้คนเห็นต่างฟัง คนอยากฟังธรรมแต่กิริยาไม่สำรวมท่านก็ไม่สอน การจะเข้าใจธรรมได้ขั้นแรกต้องละการถือตัวถือตนให้ได้ก่อน เริ่มจากกิริยาและนานไปใจจะซึมซับตรงนี้มากขึ้น มันเกี่ยวข้องกันหมด ถ้านั่งสมาธิก็อาจจะเข้าใจตรงนี้ที่ว่าถ้าใจหยาบแสงสว่างก็จะไม่เกิด การเปลี่ยนธรรมที่เป็นความรู้ให้กลายเป็นความเข้าใจก็เช่นกัน มันเชื่อมโยงกันในลักษณะนี้ครับ
พิมพ์มาก็ยาวแล้ว บอกเลยว่าผมพิมพ์ไปเรื่อย 55 ต้องขออภัยท่านที่กดมาอ่าน ตอนนี้ได้เวลาหาข้าวกินละครับ เหมือนจะรอต้มกระดูกหมูให้สุก