ก็จริงบทคนดำ บทเอ๋อ

ผมลองถาม Chat GPT ให้เปรียบเทียบ ระหว่างสองเรื่อง มันบอกว่า


ถ้าพูดกันตรง ๆ Family Guy มันดูจะ “หนัก” กว่า Tropic Thunder นะ เพราะ Family Guy เหมือนตั้งใจทำตัวเองเป็น “เครื่องยิงมุกเหยียด” ใส่ทุกประเด็นที่เซนซิทีฟ ทั้งเพศ เชื้อชาติ ศาสนา หรือแม้แต่คนพิการ ทุกอย่างในโลกที่ดูแตะต้องไม่ได้คือเป้าให้เขาเล่นหมด ซึ่งมันเหมือนเขามีจุดยืนว่า “เราขายความแรง” ใครรับได้ก็ดู ใครรับไม่ได้ก็คือไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเขาอยู่แล้ว

ส่วน Tropic Thunder มันดูมีชั้นเชิงกว่า เพราะถึงจะมีฉากหรือมุกที่คนมองว่าแรง (อย่างเรื่อง blackface ของ Robert Downey Jr.) แต่จุดประสงค์ของหนังมันไม่ได้ตั้งใจทำเพื่อเหยียดคนจริง ๆ แต่มันเสียดสีฮอลลีวูดและตัวระบบวงการบันเทิงเองว่า “นี่แหละความบ้าบอของวงการนี้” ตัวเนื้อหาหลักมันเลยดูมีเหตุผลหรือประเด็นที่ซ่อนอยู่มากกว่า Family Guy ที่บางครั้งมุกเขาเล่นแบบ “ยิงแค่เอาฮา” อย่างเดียว ไม่มีเหตุผลอะไรรองรับเลย

Family Guy มันเลยดูหนักกว่าตรงที่มันไม่เลือกเลยว่าใครควรถูกล้อหรือไม่ควร ถ้าคิดว่าเล่นได้ก็เล่นหมด แต่นั่นแหละ มันเป็นจุดขายเขา คนดูที่หัวเราะกับ Family Guy ส่วนใหญ่คือคนที่มองว่านี่เป็นมุกในโลกการ์ตูน ไม่มีผลอะไรกับชีวิตจริง แต่ถ้ามองลึก ๆ ก็ต้องยอมรับว่ามุกพวกนี้อาจไปทำร้ายจิตใจคนบางกลุ่มจริง ๆ เพราะมันเหมือนย้ำซ้ำ stereotype ที่คนในสังคมพยายามจะลบมันไป

สรุปคือ Family Guy มันแรงกว่าเพราะ “เน้นยิงฮา ไม่แคร์ผลกระทบ” ส่วน Tropic Thunder ต่อให้มีมุกแรง แต่เขาใช้มันเพื่อวิจารณ์หรือแซะประเด็นใหญ่กว่า ไม่ใช่แค่เล่นเพื่อขำเฉย ๆ

ไม่จริงเลย มันทำได้หมดอ่ะ พวกมุกเหยียดล้อเลียนทุกวันนี้เจออยู่เลย สุดท้ายหนังมันก็คือหนัง พวกรับไม่ได้หลักๆคือพวกตกขอบ

ผมกลัว the office มากกว่า ซึ่งผมว่ามันทันโลกมาก แต่น่าจะโดนดราม่ายับ โชคดีที่มีคนสร้างในยุคนั้น

คนที่ take joke ไม่ได้ ก็มองว่าทำไม่ได้

แต่คนที่ take joke ได้ ก็มองว่าทำได้

ไปดูคอมเม้นในไอจีเดี๋ยวนี้ดิ 55+ แม่งหนักกว่ายุคก่อนอีก