มีคนเข้าใจผิดเยอะ น้ำRO มันกรองเชื้อโรคทุกประเภทออกจากน้ำ รวมถึงกรองแร่ธาตุด้วย

ถ้าพูดถึงความสะอาด ผมให้น้ำRO สะอาดกว่า

แม้ทั้ง 2 วิธีจะสามารถกำจัดเชื้อโรคได้หมด แต่น้ำต้มยังมีความเสี่ยงเรื่องสารปนเปื้อนอื่นๆ จึงต้องเลือกแหล่งที่มาดีๆ ถ้าใช้น้ำประปาก่อนต้มก็ควรจะผ่านเครื่องกรองน้ำพื้นฐานสำหรับดื่มอีกสักรอบ

ส่วนน้ำRO นี่ตรงกันข้าม แร่ธาตุหายหมด บางคนก็ซี บางคนก็ไม่ซี แต่ความเสี่ยงของมันอีกอย่างในกรณีมีเครื่องกรองเอง หรือไปกดตามตู้น้ำกรอง ก็คือเรื่องการบำรุงรักษาครับ ถ้าใส้กรองมีปัญหา ก็คือเราได้ดื่มน้ำสกปรก

คนที่บอกว่า RO กรองเชื้อโรคไม่ได้นี่ เชื้อโรคตัวนั้นน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีธาตุประกอบน้อยว่า H 2 โมเลกุลรวมกับ O 1 โมเลกุลละ

RO + Ultra violet

RO กรองเชื้อด้วยครับ มันคือการกรองโดยใช้เเรงดันสูงผ่านเมมเบรนที่มีรูพรุนขนาด 0.0001 ไมครอน จึงไม่มีเชื้อโรค เชื้อไวรัส หรือเเบคทีเรียตัวไหนผ่านกรองเมมเบรนของ RO ได้เเน่นอน อันนี้พูดภึงไส้กรองที่ได้มาตรฐานปกตินะ

ยิ่งถ้านับพวกสารละลายโลหะหนักเนี่ย RO กรองได้สบาย อุณหภูมิของน้ำต้มสุกยังไม่สูงพอที่จะสามารถฆ่าโรคเชื้อทุกตัวในโลกได้ครับ เพียงเเต่มันทำได้ง่ายเเละสะดวก+ต้นทุนต่ำ เเละมันก้เพียงพอสำหรับการฆ่าเชื้อเเล้วเท่านั้น

RO สะอาดกว่าแน่นอน 100 %
RO มันกรองเชื้อโรคได้ด้วย เผื่อยังเข้าใจผิดกัน
มาช่วยยืนยัน เป็นอื่นไปไม่ได้

ส่วนน้ำต้ม มันก็ขึ้นอยู่กับน้ำที่เอามาต้ม
ถ้าเอาน้ำไม่สะอาดมาต้ม ก็ไม่ได้ช่วยให้น้ำนั้สะอาดขึ้นนะ

ยุคนี้ไม่น่าเชื่อว่า ยังมีคนเชื่ออะไรที่แบบว่าผมฟังมาจากหมอ
เรื่อง RO น้ำไม่มีเกลือแร่ วันๆ ชีวิตไม่แดกอะไรอย่าอื่นเลยหรอ แดกแต่น้ำ เกลือแร่เลยมาจากน้ำ คิดเองง่ายๆ ยังคิดไม่ได้
น้ำสำหรับทำ Hemodialysis วิธีการหลักคือ RO + UV ไม่ใช่ต้ม
เทียบกันทั้งคู่เอาวิธีมาตรฐาน ยังไง RO ก็สะอาดกว่า

ไอ้แร่ธาตุต่างๆที่มีในน้ำมันน้อยมากจนแทบไม่มีผล
ไปกินอาหาร ผักผลไม้ ก็เสริมพวกนี้ได้หมดแล้ว

หมอก้ไม่ได้รู้ทุกเรื่องครับ หลายเรื่องก็จับแพะชนแกะ

ใช่ครับ เขาถึงมีหมอเฉพาะทางให้เรียนต่ออีกหลายปี แต่พอขึ้นชื่อคำหว่าหมอกลายเป็นพหูสูตร ต้องรู้เรื่องชีวการแพทย์ทุกเรื่องซึ่งโดยทั่วไปหมอไม่ได้เชี่ยวชาญทุกเรื่อง

เอาน้ำ RO ไปต้มครับ สะอาดแน่นอน

งงว่าคนจะเหน็บท่านด้านบนทำไม ผมว่าเค้าก็พูดถูก (เดาว่าคน triggered ตรง "อ.หมอบอก" เพราะมันชวนให้นึกไปถึงอีกหลายๆ เรื่องที่หมอเองก็พูดไม่เหมือนกัน)
แต่เคสนี้ตรงไปตรงมามาก คือเทียบแค่เรื่องแร่ธาตุในน้ำ RO vs น้ำปกติ แค่นั้น ซึ่งจริงๆ ทุกคนก็น่าจะเห็นตรงกันว่า RO มันกรองออกไปหมด แล้วเค้าก็ไม่ได้บอกว่ากินน้ำแร่แล้วไม่จำเป็นต้องกินอย่างอื่นซะหน่อย

บางคนบอกเราก็ได้รับอาหารมีแร่ธาตุอื่นๆด้วย หรือหมอไม่ได้รู้ทุกเรื่อง ซึ่งก็ถูก แต่อันนั้นมันก็คนละประเด็นๆๆๆๆๆๆ บ้าจริง

น้ำต้มสุก มันแค่ฆ่าเชื้อโรค แต่ไม่กรองสารละลายในน้่ำ

ส่วนน้ำกรอง ro มันกรองน้ำขุ่นเป็นน้ำใส รวมถึงกลิ่นไม่ดีในน้ำด้วย

ถ้าให้เลือกกิน ผมเอา ro ไปต้มสุกอีกที

ต้องถามว่า RO ได้มาจากไหน เครื่องกรองทั่วไป หรือเปล่า น้ำอัดผ่านเมมเบรนด้วย pressure มั้ย ถ้าไม่ ในโรงงานน้ำที่ผมเคยทำมา นี่ผมติด CAR เลยนะนั่น หมอก็ไม่มั่นใจว่าเราได้ RO มาจากไหน ต่อให้ RO แต่ถ้าเทใส่ภาชนะไว้นาน เชื้อก็ขยายพันธุ์แบบกำลังสองต่อเวลานะ ลองกรองใส่ขวดที่ไม่ได้ผ่านการ สเตอริไลน์ ผ่านไประยะเวลานึงเชื้อก็จะเกิดขึ้น และเทใส่กะละมังก็จะเกิดอีก มันไม่อันตรายหรอก ร่างกายคนแข็งแรงรับได้สบาย แต่มันไม่ใช่ไม่อันตรายกับคนอ่อนแอ หมอคงแก้ปัญหาง่ายๆ คือต้ม อุ่น ใช้ หรือเปล่า

หมอบางคนอาจจะพูดตามถูกสอน แต่แน่ใจหรอว่าเขาไม่รู้หรือเรารู้ไม่จริง

อ้อในโรงงานน้ำผลไม้และน้ำดื่มให้ดื่ม RO ฟรี แต่ที่ขายเขาเอาไป สเตอริไลน์ก่อนครับ

สองอย่างนี้มันคนละจุดกันนะ มันใช้ร่วมกันได้

RO คือระบบกรองซึ่งละเอียดที่สุดในระบบกรองทั้งหมดทั้งมวลแล้ว
อยากได้น้ำบริสุทธิ์กว่านี้คงต้องเป็นน้ำกลั่นในระบบปิดที่ hygienic 100% แล้วแหละ

แต่กรองออกมาแล้วยังไม่ได้เอาไปใช้ทันที แต่เอาไปเก็บไว้ก่อนก็มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคเพิ่มได้ตามเวลา/ความสะอาดของภาชนะที่เก็บ

ดังนั้นก่อนใช้ถ้าอยากชัวร์ก็เอาน้ำ RO มาต้มฆ่าเชื้อโรคอีกรอบได้

ro สะอาดกว่า ความร้อน(แค่นี้)ไม่ได้ทำลายได้ทุกอย่าง

ปล.ตามท็อปเม้นท์