แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ นิวคาสเซิล อาจถูกถอดออกจากการแข่งขัน ภายหลังมีการแก้ไขที่จะห้ามสโมสรที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐเข้าร่วมเกมการแข่งขันฟุตบอลอังกฤษได้ถูกส่งไปยังร่างกฎหมายการกำกับดูแลฟุตบอลฉบับใหม่

ร่างกฎหมายฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลฟุตบอลอิสระ และขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการในสภาขุนนาง

ในที่ประชุม ลอร์ดบาสซัม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคแรงงานแห่งไบรท์ตันได้เสนอแก้ไขร่างกฎหมาย ซึ่งจะทำให้เจ้าของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ นิวคาสเซิล ในปัจจุบันจะถูกบังคับให้ขายสโมสรหากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้รับการยอมรับ

ข้อเสนอของ ลอร์ดบาสซัม ระบุว่ากฎหมายจะมีการระบุว่า "สโมสรที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐจะไม่ได้รับใบอนุญาตดำเนินการ และสโมสรที่ได้รับผลกระทบใดๆ จะต้องทำให้ IFR [หน่วยงานกำกับดูแลฟุตบอลอิสระ] พอใจว่าพวกเขาได้สละการควบคุมของรัฐแล้ว ก่อนที่จะยื่นขอใบอนุญาตดำเนินการ"

“สโมสรที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ คือ สโมสรที่บุคคล หน่วยงาน หรือกลุ่มบุคคลใดๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของบุคคลซึ่ง IFR หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าอยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้ดำเนินการของรัฐ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง: สมาชิกของรัฐบาลหรือครอบครัวใกล้ชิดของบุคคลดังกล่าว, หัวหน้ารัฐหรือครอบครัวใกล้ชิดของบุคคลดังกล่าว, นักการทูต, ผู้มีอิทธิพล, หรือตัวแทนของรัฐอื่นๆ, หรือครอบครัวใกล้ชิดของบุคคลดังกล่าว, และกองทุนความมั่งคั่งของรัฐเป็นเจ้าของทั้งหมดหรือส่วนใหญ่”

การแก้ไขนี้จะส่งผลโดยตรงกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ นิวคาสเซิล ซึ่งมี ชีค มานซูร์ รองประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกองทุนการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย (PIF) เป็นเจ้าของตามลำดับ

ตามรายงานของ Times ระบุว่า โอกาสที่ข้อเสนอนี้จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกฎหมายขั้นสุดท้ายนั้น 'น้อยมาก' และผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ารัฐบาลไม่น่าจะต้องการห้ามการเป็นเจ้าของของรัฐโดยสิ้นเชิง

“ร่างกฎหมายนี้จะไม่กล่าวถึงความเป็นเจ้าของของรัฐ แต่มันชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจทั้งในด้านศีลธรรมหรือจริยธรรม” คีแรน แม็กไกวร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินของฟุตบอลให้ความเห็นกับทาง Sky

ขณะที่ จอน ตองจ์ ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย ลิเวอร์พูล กล่าวเสริมว่า “การเป็นเจ้าของโดยรัฐจะไม่หมดไป และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ”

“ผมคิดว่าพรรคแรงงานคงไม่อยากห้ามการเป็นเจ้าของโดยรัฐ เพราะก่อนหน้านี้มีม้าตัวหนึ่งหนีไปแล้ว หากคุณปล่อยให้ม้าตัวอื่นทำตาม คุณจะหยุดไม่ให้ม้าตัวอื่นทำตามได้อย่างไร?”

เหอะ!! เหมือนประเทศแถวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศนึงเลยว่ะ
พอสู้ไม่ไหว ก็แก้กฎ(หมาย)ขัดขวางแม่งเลย

รอดไป ทีมเราเซอร์

ตามรายงานของ Times ระบุว่า โอกาสที่ข้อเสนอนี้จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกฎหมายขั้นสุดท้ายนั้น 'น้อยมาก' และผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ารัฐบาลไม่น่าจะต้องการห้ามการเป็นเจ้าของของรัฐโดยสิ้นเชิง

แค่จะ... แต่พอเอาเข้าจริงก็ยาก

ผู้มีอิทธิพล นี่อย่างกว้างเลยนะ ในไทยเพียบตั้งแต่ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เจ้าของบ่อน etc

คนรวยคนอื่นก็ห้ามครับ

ยังงี้ผมก็หมดสิทธิ์สิเนี่ย

รอดไป ทีมเราเจ้าของเป็นปลิง

ทำไมพาดหัวแบบนั้น ไม่ใช่แค่ชีคนิ

ส่วนตัวแอบเห็นด้วยแฮะ สโมสรฟุตบอลมันไม่ควรเป็นรัฐที่เป็นเจ้าของ มันเหมือนสงครามยังไงไม่รู้55 ถ้าวันนึงยูเออีมีปัญหากับอังกฤษเรื่องการเมือง แมนซิก็น่าจะโดนคล้ายๆ กรณีโรมันกับเชลซี

ก็ลองดู ซุปเปอร์ลีกอาจกลับมาอีกครั้ง

เค้าอาจจะมองในมุมรัฐบาลหรือกระทรวงที่เกี่ยวข้องไม่อยากมีปัญหาระหว่างรัฐก้ได้ครับ

เพราะเรื่องการผูกขาดแชมป์ มันเป็นยุคสมัยของทีมมีขึ้นมีลง มีเปลี่ยนมือ

แต่เคสของซิตี้ อย่างคดี 115 เคยมีข่าวว่าอาจจะส่งผลถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ถ้าซิตี้โดนตัดสินว่าผิด หรือถ้ารอดหมดทุกคดี ก็ต้องมีคนคิดว่าใช้อำนาจที่มีต่อรัฐแทรกแซง

แต่ก็อย่างที่ในข่าวบอก ในเมื่อปล่อยให้มีคนทำแบบนี้แล้ว จะกันไม่ให้คนอื่นทำตามได้ยังไง

กีดกันแล้ว กีดกันอีก ทุกวันนี้ก็ลุ้นแชมป์ 4 5 ทีม แย่งแชมป์กันไม่ได้ ก็อำนาจบาทใหญ่มาบีบ ทีมเล็กเข้าไปอีก กลัวไม่ได้แชมป์ จัด วงจรอุบาดของ ลีกระดับโลก อ้างนู่นอ้างนี่ กลัวทีมเล็กล้ม มันควรจะมองแค่ว่าถ้าเค้ามีปัญญาจ่าย ก็ไม่ควรไปยุ่งกับเค้าไหม มันเรียกการแข่งขันตรงไหน มาแข่งเตะบอล แต่กลัวอีกฝั่งเก่งกว่า กีดกันทุกวิถีทาง สปอนเซอร์อัดฉีดเงินก็ไม่ได้ ผิดกฏนู่นนี่นั่น ซึ่งจริงๆ มันไม่ควรกีดกันด้วยซ้ำไป ทีมใหญ่ทำได้เพราะ เสริมทัพอัดฉีดเงินไปก่อนหน้ามหาศาลแล้ว กลับกัน ทีมเล็กๆ จะเสริมทีมกลับทำไม่ได้ ผิดกฏนู่นนี่นั่นที่ตั้งมาขัดขวางไม่ให้มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นจากเดิม เอียงจนล้มแล้วบบอกว่ายุติธรรม หุๆ

เอานอมินีมาถือแทนก็ได้