เมืองจีน ไต้หวัน คนใช้กันเพียบ เกิน 90% ของพวกรถสองล้อมีเครื่องยนต์เลย
คันเล็ก เสียงเบา ราคาไม่แพง
เหมาะกับขับไปทำงานรัศมีไม่เกิน 10 กม. มาก


แต่เมืองไทยมีคนใช้ไม่มากนัก

ขับยาก สมรรถนะต่ำ เสียง่าย ไม่คุ้มราคาในการใช้งานระยะยาว และขายต่อ
ถ้ามอเตอร์ไซใช้งานทั่วไป น้ำมันลิตรนึงล่อไป 50 กม. แต่Eมอไซต้องเผื่อเวลา
ไว้ชาร์จอีก

แต่เริ่มเห็นคนใช้แบบไฟฟ้าที่สมรรถนะสูงขึ้นบ้างละ ในอนาคตน่าจะเพิ่มขึ้นอีก

ราคาอย่างแพง 4-5หมื่น ราคานี้ ซื้อมอไซตธรรมดาดีกว่า
มันไม่เหมือนรถยน ราคาถูกกว่า รถยนต์ธรรมดา

รถไม่แรงพอครับ ถนนบ้านเราส่วนนึงพวกรถยนต์มันขับกันเร็วด้วย รถจิ๋วๆแบบนี้พอต้องไปแชร์ถนนกับพวกรถใหญ่มันก็เสี่ยงกว่า

กับอีกอย่างคือคนไทยมองว่าไม่คุ้มค่ารถ เพราะใช้รถน้ำมันยังถูกกว่า เหมือนที่ผมเคยพูด คนไทยใช้รถ EV เพราะเน้นประหยัดเป็นอย่างแรก ความแรงเป็นข้อต่อมา ขณะที่หลายๆที่ในโลกเลือก EV เพราะลดมลพิษมากกว่า (ลดภาษี carbon emission เป็นข้อรอง)

ประหยัดวันนี้เพื่อทิ้งซากชั่งโลขายในวันหน้า ซื้อรถน้ำมันยังขายเอาตังไปดาวคันใหม่ได้

แต่ขับสนุกนะ พี่ที่ทำงานก็ออกมาคันนึง บิดทีหัวโยกเลยนึกว่าขับ 1000CC

คันละ5หมื่นมั้งแต่รัฐช่วยเหลือคันละ3หมื่น

แพง ยังไม่คุ้มค่าเท่ารถน้ำมัน เพราะมอไซน้ำมันเอาไปเดินทางไกลได้ด้วย
ถ้ารถไฟฟ้าอยู่ประมาณ 150km ราคาไม่เกิน 100k จะเริ่มคุ้มละ

ที่เห็นใช้เยอะก็เป็นกลุ่มผู้สูงอายุขี่ไปซื้อกับข้าวหน้าปากซอย กับไรเดอร์บางคน

หลักๆเลยมันคือปัญหาประสิทธิภาพมอร์เตอร์กับแบตเตอร์รี่นั่นแหละครับ พวกนี้มีน้ำหนักมาก พอเอามาลงรถมอร์เตอไซค์ที่น้ำหนักมีความสำคัญมากเลยไม่ค่อยเวิร์ค แถมราคาก็แพง ดูอย่าง Ninja E-1 ราคาพุ่งไปสองแสนกว่า ในขณะที่Top speed ได้เท่า wave ต้องพัฒนาให้มีจุดคุ้มที่คนซื้อน่าลงทุนกว่านี้ ระยะทาง/การชาร์ตก็ยังน้อย ชาร์ตทีกี่ชั่วโมงวิ่งได้100โล เติมน้ำมัน3-4 ลิตร์วิ่งเป็น 200 โล แล้วก็ระบบตู้swap แบตที่ใช้หมดเอาไปเปลี่ยนผมว่าก็ไม่ค่อยเวิร์คอ่ะ ปัญหาตู้ก็เรื่องนึง แต่ผู้หญิงเอวบางร่างน้อยไปยกแบตลูกหนักๆเปลี่ยนนี่ลำบากเลย

มีอยู่คันนึงแบบคันสีเทาในรูปเลย ยี่ห้อคนไทยที่เอาของจีนมาประกอบขาย เอาตรงๆเลยคิดว่าที่ไม่ได้รับความนิยมเพราะราคามันยังสวนทางกับสมรรถนะรถ

เพิ่มเงินอีกนิดได้จักรยานยนต์ญี่ปุ่นที่ได้มาตรฐานล่ะ อัตราสิ้นเปลืองของจักรยานยนต์ก็ไม่ได้สูง ไม่ต้องมาพะวงเรื่องชาร์จ สกูตเตอร์ไฟฟ้าถ้าลืมชาร์จ พออยากจะใช้ไฟไม่พอ ก็รอกันไปสักพักเลย แต่ข้อดีมันก็มีนะ แต่มันไม่พอกลบเรื่องราคา รถมันเล็กขับขี่สะดวก ไม่หนักเกินไป ตอบโจทย์การไปจ่ายตลาดใกล้ๆ แต่ส่วนตัวซื้อให้ที่บ้านเพราะเค้าชอบออกไปตลาดตอนเช้ามืด จักรยานยนต์มันยังมีเสียงเครื่องยนต์บ้างก็เกรงใจเพื่อนบ้าน แต่ไอ้สกูตเตอร์ไฟฟ้านอกจากเสียงระบบของมันล่ะ ก็แทบไม่มีอะไรแล้ว ไหลไปเงียบๆได้เลย

ยังแพงงเกินไป ที่เห็นส่วนมากก็จะเอามาทำเพิ่มระยะทางและะความแรง มันทำได้ง่ายกว่ารถน้ำมัน

คนใช้รถไฟฟ้าต้องใจรักมาก่อน ผมก็ซื้อมาคันที่สอง
รถวิบากเอาไว้ออกกำลังกายรถสองเเสนต้นขับขึ้นเขาลงเขาได้แค่ประมาณ60kmต่อชาร์ทบิดได้เเต่ไม่เเรงเเละ
แต่ขับดีมากนุ่มหนึบโดดมัน

บ้านเราขายราคาเกินคุณภาพ

ที่สำคัญร้านซ่อมไม่มีทั่วไป ต้องส่งร้านที่ขาย ทำให้ค่าซ่อมบำรุงสูง

แล้วที่ใต้หวัน จีน รัฐเขาสนับสนุน ทั้งราคา ทั้งเลนวิ่งแยกต่างหาก มันทำให้น่าใช้

การใช้งานไม่ได้ตอบโจทย์คนไทยครับ นี่ก็พึ่งไปเชียงใหม่มาไม่กี่วันก่อน เห็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเช่า คนจีนขี่อยู่ชาติเดียวเลยมั้งที่เห็น ฝรั่ง ต่างชาติ คนไทย ขี่รถเครื่องอย่างเดียว แล้วสิ่งที่เห็นคือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอย่างอืด เหมือนขี่ได้แค่ 30-40 โล/ชั่วโมง แต่ก็ไม่รู้ว่ามันไปได้มากกว่านี้ไหม แต่เท่าที่เห็นหลายๆคันก็ขี่เร็วกันเท่านี้จริงๆ

ถ้าขี่ระยะทางใกล้ๆ ไปตลาด ในซอย ระแวกบ้านไม่เกิน 2-4 โล ก็โอเคแหละ แต่ถ้ามากกว่านั้นไม่โอเคแน่ๆ

ตอนผมไปบ้านแฟน แม่งขับกันทั้งเมืองจริง ๆ ครับ ที่ฝอซาน กว่างโจว
ข้อดีคือ แม่งเล็ก แล้วเบา ยกโคตรง่าย แถมที่ชาร์จมีอย่างเยอะ
ผมขับไปเที่ยวในเมืองกับแฟนบ่อย ๆ
แต่ต้องบอกว่าจีนมันมีเลนรถจักรยานโดยเฉพาะเลย ไม่ใช่ขับบนถนนใหญ่แบบบ้านเรา
ถ้ามาขับที่ไทย โดนรถใหญ่เอาไปแดก แน่ ๆ ครับ
เพราะมันทำความเร็วได้น้อย (ของผมขับได้ 25โลต่อชม.)
ให้ขับชิล ๆ อะได้ แต่มาขับในไทย โดนบีบแตรด่าพ่อแน่นอน

ออกถนนใหญ่ เหมือนไปตายนะครับ ถนนและการขับขี่บ้านเราอ่ะ

รถไม่แรง ราคาแพง ของล้นจากจีนเอามายัดขายไทย

ข้ออื่นข้างบนน่าจะตอบไปหมดแล้ว ผมว่าเพราะเสียงมันเงียบด้วยเลยรู้สึกอันตรายรู้ตัวอีกทีแทรกเราไปละเพราะคันอื่นไม่ได้ยินเสียงว่ามา และอีกข้อผมว่าจดทะเบียนคงจุกจิกกว่า ม. ทั่วไป