Colin Farrell - ขอให้โลกนี้ใจดีกับลูกของผม
นอกจากเป็นนักแสดงที่ขายฝีมืออย่างน่าทึ่ง บทบาทอีกอย่างของ โคลิน แฟร์เรลล์ ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันก็คือการเป็นพ่อคน เขามีลูกชาย 2 คน เจมส์ กับ เฮนรี่ ซึ่ง เจมส์ ลูกชายคนโต (ที่โคลินมีร่วมกับนางแบบ คิม บอร์เดนาฟ) นั้นเกิดมาพร้อม “Angelman Syndrome” โรคทางพันธุกรรมหายากที่ส่งผลกับระบบประสาท ความบกพร่องทางพัฒนาการ สติปัญญา การพูด เคลื่อนไหว ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ในหลายๆ ทาง
“ตอนยังเป็นทารก เจมส์เงียบมาก แทบไม่ร้องโยเยเลย ผมเข้าใจว่าตัวเองถูกหวย มีลูกที่ชิลตั้งแต่เกิด ไม่ส่งเสียงร้องที่คอยปลุกผมกลางดึก” โคลินกล่าว “แต่สิ่งที่ผมไม่รู้ตอนนั้น คือพัฒนาการของเขากลับไม่ไปไหนเมื่อถึงวัยอันควร นั่งไม่ได้ ลุกไม่ได้ ได้แต่เอียงล้ม เขาไม่คลานด้วย เราจึงเริ่มสงสัยว่าเขามีพัฒนาการช้า” ภายหลังจึงพบว่าเจมส์เป็นโรคแองเจิลแมน
และลูกคนนี้เอง ด้วยอาการของเขา ที่เตือนสติโคลินในช่วงทำตัวตกต่ำ เสเพล ติดเหล้า อาชีพจวนจะพัง โคลินเลือกกลับตัวกลับใจเพื่อลูกชาย เลิกขาดพฤติกรรมแย่ๆ หันมาดูแลตัวเอง ตั้งใจทำงาน และเลี้ยงลูกอย่างดีที่สุด “ผมไม่อยากสร้างภาพว่าเป็นพ่อที่เลิศเลอ เพราะผมก็เคยพังเละเทะ” เขายอมรับ “แต่อย่างน้อยพังแล้วยังมีสติ ผมจึงยังอยู่ตรงนี้”
จากนั้น การอุทิศตัวเพื่อลูกชายที่ผิดปกติทางพัฒนาการ พาให้เขาเข้าใจหัวอกครอบครัวอื่น หลายปีมาแล้วที่โคลินทำงานร่วมกับมูลนิธิช่วยเหลือเด็กพิเศษอย่างใกล้ชิด คอยเป็นกระบอกเสียง จนเมื่อไม่นานนี้ เขาก่อตั้งมูลนิธิของตัวองเพื่อเป็นเกียรติแด่เจมส์ พร้อมความฝันที่อยากสร้างคอมมูนิตี้และซัพพอร์ตทั้งเด็กๆ ที่บกพร่อง บรรดาพ่อแม่ที่ต้องดูแลไม่ห่าง
ที่สำคัญ เจมส์ได้มอบมุมมองใหม่แก่โคลิน การที่เขาต้องเฝ้าดูลูกชายทำสิ่งต่างๆ อย่างยากลำบาก กว่าจะเดินก้าวแรก กว่าจะพูดเป็นคำ กว่าจะตักอาหารป้อนตัวเองได้ ผ่านความพยายามทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกสิ่งยากเย็นแสนเข็ญสำหรับเด็กที่มีความบกพร่อง เมื่อเทียบกับคนปกตินั้นมันง่ายดายจนไม่ได้ใส่ใจ ลูกชายกลายเป็นแรงบันดาลใจของเขา
ปัจจุบัน เจมส์มีอายุครบ 21 ปีและยังคงได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากคุณพ่อ รวมถึงคุณแม่ (ที่แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ช่วยกันเลี้ยงลูก) แต่ขณะเดียวกัน ลึกๆ โคลินก็มีความกังวลเสมอ ตั้งแต่เจมส์ยังเด็ก เขากลัวลูกมีอาการชัก (และอาจส่งผลถึงชีวิต) หรือมองไปอีกหลายปีข้างหน้า หากเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาหรือแม่ของเจมส์ ลูกเขาจะอยู่ยังไง
“ถ้าเกิดเจมส์อายุ 30-40 ปี ต้องไปอยู่สถานดูแล แล้วไม่มีใครให้โทรหา หรือพากินมือเที่ยง หรืออะไรต่อมิอะไร” โคลินเปิดใจ “ผมกลัวที่จะไม่ได้อยู่ดูแลลูก” เขามักมีภาพในจินตนาการถึงโลกที่สมบูรณ์แบบ ลูกชายของเขามีชีวิตปกติสุข รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ปลอดภัย สามารถทำสิ่งที่อยากทำ โคลินจึงทุ่มเทอย่างมากเพื่อให้แน่ใจว่า อย่างน้อยๆ เจมส์จะใช้ชีวิตอยู่ได้แม้ปราศจากเขา หวังให้คนที่บกพร่องแบบลูกของเขาเป็นที่ยอมรับ ปฏิบัติอย่างให้เกียรติ “ขอให้โลกนี้ใจดีกับลูกของผม” เท่านั้นที่เขาต้องการ
นี่คืออีกด้านหนึ่งของโคลิน การเป็นยอดคุณพ่อที่รักใคร่ห่วงใยลูกเหนือสิ่งอื่นใด แล้วไม่ใช่เฉพาะเจมส์คนโต ในฟากลูกคนเล็กอย่างเฮนรี่เองก็รักไม่น้อยกว่ากัน มีโมเมนต์น่ารักๆ ช่วงพาเฮนรี่ออกงานออสการ์ 2023 โดยขณะที่เพื่อนนักแสดงรวมตัวปาร์ตี้สังสรรค์ที่โรงแรมกันหมด เมื่อนักข่าวถามโคลินว่า “แล้วคุณทำอะไรช่วงนั้น” โคลินบอก “อ๋อ ผมอยู่ห้องดูหนังกับลูก สั่งอาหาร กินขนม เป็นปาร์ตี้ของเราเอง” ส่วนในตอนคว้าลูกโลกทองคำ 2023 เขาอุทิศรางวัลแด่เจมส์และเฮนรี่ เปรียบลูกๆ ว่าเป็น “Love of my life”
นับว่าลูกทั้งสองคนช่วยเปลี่ยนเขาจริงๆ หลังผ่านช่วงมรสุม เหมือนได้มี โคลิน แฟร์เรลล์ คนใหม่ งานแสดงรุ่ง พัฒนาฝีมือไปไกล ก้าวท้าชิงเวทีรางวัลใหญ่ เป็นมืออาชีพ วางตัวเป็นแบบอย่าง ไม่มีข่าวเสียหายอีกต่อไป พิสูจน์ว่าตั้งใจทำทุกสิ่งในชีวิตให้ออกมายอดเยี่ยม สุดท้ายแล้ว ในบางครั้งสิ่งที่ผลักดัน ปลดล็อกศักยภาพคนเราออกมาได้ดีที่สุดคือ ความรัก
Credit : Facebook Vintage Motion