วันที่ 11 ของการเดินทาง 06.45 น.
ชั้น 2 กระทรวงยุติธรรม หน้าห้องดำเนินคดี
​
บัลซามิลโก้ปรากฏตัวขึ้น เค้าต้องมาขึ้นศาลในคดีที่กล่าวฟ้องฮาลเคนเบิร์กว่าเป็นเหตุทำให้ วิคต์ ทหารของเบนจามินที่ส่งไปคุ้มกันหายตัวไปอย่างลึกลับ
​
บัลซาเข้ารับการค้นตัวและผ่านเข้ามาได้พร้อมอาวุธเคมีที่ซ่อนไว้ใต้รองเท้า และหมายจะใช้มันเผด็จศึกฮาลเคนเบิร์ก ในระยะประชิดภายในศาลนี้
​
"ไม่มีวี่แววของบอดี้การ์ดของฮาล์เคนเบิร์กที่นี่"
"ทหารของมันทุกคนถูกห้ามลงมาในชั้นนี้"
"เท่านี้ก็ปิดผนึกไม่ให้มันใช้ความสามารถได้แล้ว"
​
"ในระหว่างใต่สวน เราสามารถเข้าใกล้มันได้ 100%"
"ผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ไม่ได้อยู่ในระยะแพร่เชื้อ โอกาศติดเชื้อต่ำมาก"
"และถึงจะมีคนโดนลูกหลง เราก็ใช้กฏอัยการศึกควบคุมตัวไว้ได้"
​
​
บัลซามั่นใจในแผนการมาก และเดินเข้ามาในตรอกแคบๆ ที่เป็่นทางเดินไปศาล...
​
ทันใดนั้น... ก็ได้มีเงาร่างนึงปรากฏข้างหลัง...
​
​
​
​
วิคต์!!
​
​
​
วิคต์ ทหารของเบนจามินที่หายตัวไปจนต้องเกิดการตัดสินคดีนี้ ได้มายืนปิดทางเดินที่บัลซามิลโก้เพิ่งเดินเข้า...
​
ในขณะที่บัลซามิลโก้หันไปมอง และกำลังสงสัยว่า "วิคต์" โผล่มาจากไหน แรงสั่นสะเทือนมหาศาลก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง อันเป็นสัญญาณว่า "ฮาลเคนเบิร์ก" ได้รวบรวมออร่าจำนวนมากขึ้นมาจากที่ไหนซักที่
​
​
วิคต์ เริ่มส่งสัญญาณมือบางอย่าง อันเป็นสัญญาณที่ใช้ในทางทหาร
​
"ชั้น รู้ ความ สา มารถ ของ ฮาล เคน เบิร์ก แล้ว"
​
​
ในระหว่างที่บัลซามิลโก้กำลังอ่านสัญญาณจากวิคต์ เจ้าหน้าที่ 3 คนที่อยู่สุดปลายทางเดินอีกฝั่ง ก็เหลือบมองมาทางบัลซา นึ่งในนั้นได้ส่งสัญญาณมือบ้างโดยใช้โน๊ตบุควางบังไม่ให้บัลซาเห็น
​
ทางขวามือของเจ้าหน้าที่คนนั้น ปรากฏตัวกลุ่มคนจำนวนมากเดินตรงมา พร้อมออร่าที่ปะทุขึ้นมาจนสะเทือนเลือนลั่น...
​
ฮาลเคนเบิร์ก และประชาชนอีกสิบกว่าคนที่เป็นแหล่งออร่าให้กับเค้า
​
"ตำแหน่งของบัลซามิลโก้คือ 11.9 เมตร จากคนชี้เป้า"
"จากตรงนี้ตรงไป 25 เมตรถึงคนชี้เป้า และจากจุดนั้นเป็นมุมฉากห่างออกไป 11.9 เมตร... ต้องเอียงไปทางขวา 26 องศา"
​
"ต้องก้าวเพิ่มอีก 60 ซม."
​
... ฮาลเคนเบิร์ก เบี่ยงธนูเข้าไปทางกำแพงเล็กน้อย อันเป็นจุดที่เค้าคำนวณไว้ว่า "ศัตรู" ยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมกับปล่อยธนูที่กำลังง้างอยู่ออกไป
​
​
​
​
"กริมมาล เล ดิสโซแนนซ์ (เด็กขายที่ยิงธนูอย่างโหดเหี้ยม) ยิงได้...!!!"
​
​
​
...
​
​
​
​
ที่ห้อง 1001
เบนจามินได้ต่อสายถึงเจ้าหน้าที่กระทรวง ว่าการพิจารณาคดีไปถึงไหนแล้ว
​
เสียงปลายสายบอกว่าการพิจารณาคดีถูกเลื่อนโดยความต้องการของทั้งสองฝ่าย
ฝ่ายโจทย์ถูกตรวจพบว่ามีอุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม ส่วนฝ่ายจำเลยนั้นมีปัญหาสุขภาพ จึงต้องขอเลื่อนออกไปเพื่อรักษาตัว
​
​
​
เบนจามินฟังแล้วก็สงสัย แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นนั้นเป็นช่วงเวลาที่ฮาลเคนน่าจะได้พบกับบัลซามิลโก้ ทว่าถ้ามีการโจมตีเกิดขึ้น ทำไมฮาลเคนกลับเป็นฝ่ายล้มป่วยเสียเอง
​
"ไม่ใช่ว่ามันใช้ความสามารถไม่ได้ถ้าไม่มีบอดี้การ์ดอยู่ด้วยหรือไง? แล้วที่ล้มป่วย..? หรือจะเป็นผลของอาวุธเคมี TSK17 แต่ว่าเวลาแสดงอาการมันเร็วเกินไป ต้องเป็นสาเหตุอื่น"
​
เบนจามินถามปลายสายว่าอาการฮาลเคนเบิร์กเป็นยังไง และมีใครอยู่กับเค้าบ้าง
​
เจ้าหน้าที่ปลายสายตอบกลับว่าฮาลเคนหน้ามืดและสลบลงไประหว่างเดิน โดยมีประชาชนที่ให้ความสนับสนุนยืนรายล้อมอยู่ตรงนั้น และมีบางส่วนที่พาเค้าไปห้องพยาบาล
​
(หรือว่าความสามารถของมันจะใช้ได้ ขอแค่มีผู้สนับสนุนอยู่ด้วย ไม่จำเป็นต้องเป็นบอดี้การ์ด?) เบนจามินคิด
​
"... ท่านเบนจามินครับ หัวหน้าทหารบัลซามิลโก้มาถึงพอดี เค้าขอเรียนสายกับท่านได้มั้ยครับ" ปลายสายกล่าวขึ้น
​
​
​
(คงจะเป็นกับดัก แสร้งทำเป็นป่วย บัลซามิลโก้คงถูกโจมตีและควบคุมให้ติดต่อเราโดยไม่เต็มใจ) เบนจามินคิดระหว่างที่สายถูกส่งต่อให้บัลซามิลโก้
​
​
​
...
​
​
​
(ความสามารถของฮาลเคนเบิร์กคงเป็นสายควบคุม รูปแบบบังคับ... "มาก่อนได้ก่อน" เป็นกฏเหล็กของสายควบคุมตามที่บัลซาบอก แต่เพื่อความชัวร์ เราจะคิดว่ามันนี้ใช้ไม่ได้ผลกับกลุ่มผู้ใช้เน็นที่มีพลังมหาศาลที่สร้างเงื่อนไขเฉพาะขึ้นมาล่ะกัน)
​
(เอาล่ะ แกจะใช้หัวหน้าทหารล่อให้ชั้นทำอะไรล่ะ...)
​
​
"ว่าไง สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง"
เบนจามินถามบัลซามิลโก้
​
​
​
บัลซามิลโก้ตอบว่า
"ภารกิจยังไม่สำเร็จครับ"
​
"ฮาลเคนเบิร์กยิงธนูเน็นมาทางผม แต่ว่าพลาดเป้า แล้วจู่ๆ เค้าก็สลบไปเอง"
"คงเป็นผลจากการที่ใช้แหล่งพลังจากพลเรือนแทน หรือว่าใช้งานติดต่อกันมากเกินไป"
​
เบนจามินฟังแล้วยังคิด (ข้ออ้างฟังขึ้นก็จริง แต่เห็นชัดว่าฮาลเคนใช้อาการป่วยเลื่อนการพิจารณาคดีออกไป)
(บัลซามิลโก้ ถ้านายกลับขึ้นมาที่นี่โดยที่ยังทำภารกิจไม่สำเร็จ ชั้นจะสรุปว่านายร่วมมือกับฮาลเคนเบิร์ก และใช้กฏอัยการศึกจัดการแกทั้งคู่ข้อหารัฐประหาร)
​
​
​
"ตามความเห็นผม ตอนนี้เป็นโอกาสที่จะได้เข้าใกล้ฮาลเคนเบิร์กครับ"
"มีผู้สนับสนุนของมันเข้าเยี่ยมมากมาย เราสามารถทำตัวเป็นมิตรเพื่อเข้าเยี่ยมได้"
​
"ผมเข้าใจดีว่า ฮาลเคนเบิร์กใช้ความสามารถไปแล้ว ตัวกระผมอยู่ในสถานะที่ไว้วางใจไม่ได้ เพราะอย่างนั้น ผมจะไม่กลับไปจนกว่าภารกิจลอบสังหารจะประสบความสำเร็จ"
​
"แล้วผมจะรายงานกลับไปภายในวันนี้ ด้วยข่าวดีขอรับ"
​
​
​
...
​
​
​
เบนจามินวางสายจากบัลซามิลโก้
​
(บัลซาพูดจริงงั้นรึ...!! ไม่ ตราบใดที่ยังไม่มีอะไรมายืนยันภารกิจ เราต้องคิดว่ามันคือศัตรู)
​
​
"บุตช์ เป้าหมายของพลังที่รุนแรงนั้นต้องเป็นบัลซามิลโก้แน่"
"จนกว่าจะได้รับการยืนยัน เฝ้าระวังขั้นสูงสุดเอาไว้"
"ถ้ามันออกมาจากกระทรวงยุติธรรมโดยไม่รายงานก่อน ชั้นจะประกาศกฏอัยการศึกให้ครอบคลุมถึงชั้น 2 และ 3 ทันที"
​
เบนจามินหันไปสั่งบุตช์ ที่ทำหน้าที่เวรยามอยู่ในตอนนี้
​
ในขณะเดียวก้น ก็มีทหารอีกคนเข้ามารายงานว่า "ฟูเก็ตสึและเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม" มาขอเข้าพบพอดี
​
​
"พาเข้ามาเลย"
(เราต้องทำให้กระทรวงยุติธรรมเข้าข้างเราให้มากที่สุด สร้างสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนข้อมูลบ้างก็ไม่เป็นไรมั้ง) เบนจามินคิด
​
​
​
...
​
​
​
กริ๊งงงง
ในห้อง 01 ได้มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ผู้รับเป็นสตรีสูงศักดิ์นางนึง
​
"แม่เข้าใจแล้วจ๊ะ ไม่ต้องกังวลหรอกลูกรัก ค่อยเป็นค่อยไป"
"แล้วแม่จะสนับสนุนลูกเหมือนทุกที เสียดายจริงที่แม่ไปพบลูกที่งานเลี้ยงไม่ได้"
​
"แม่ภูมิใจในตัวลูกนะจ๊ะ ฮาลเคนเบิร์ก ลูกรักของแม่!"
​
[มเหสีอันดับหนึง อุนม่า ผู้เป็นมารดาของเบนจามินและเซอรีโดนีช]
​
​
​
...
​
​
​
สาส์นของคะโจ...
​
[พระมารดาที่แท้จริงขององค์ชายฮาลเคนเบิร์กคือมเหสีอันดับหนึ่ง เรื่องใหญ่แบบนี้ไม่มีใครกล้ายกมาพูด ทว่าไม่ใช่กับชั้นที่กำลังจะตาย
​
จากข้อมูลที่ลือในต่างประเทศ เพื่อปกป้องฮาลเคนเบิร์กจากบรรดาพี่ชาย มเหสีอันดับหนึ่งจึงได้ขอร้องให้มเหสีอันดับสองรับฮาลเคนเบิร์กเป็นบุตร เพื่อสับเปลี่ยนลำดับอาวุโส]
​
ในศึกนี้ ลำดับอาวุโสไม่เกี่ยวข้องก็จริง แต่ถ้าข่าวลือนี้เป็นจริง มเหสีอันดับหนึ่งจะต้องช่วยเหลือฮาลเคนเบิร์กเป็นแน่
​
นี่คือเรื่องที่ชั้นเอามาแลกเปลี่ยนได้เพื่อขอร้องให้คุณช่วยปกป้องน้องสาว]
​
นี่คือสาส์นก่อนตายของคะโจ ที่เบนจามินกำลังอ่าน
​
...
​
(ก็แค่ข่าวลือในเน็ตทั่วไป ไม่มีอะไรแปลก)
(คะโจฉลาด คงคิดจะใช้ข่าวลือนี้ทำให้ชั้นสนใจและช่วยเหลือน้องสาว)
(แม้จะมีหลักฐาน แต่เด็กแบบนั้นจะได้ข้อมูลที่เราพยายามหามาตลอดได้ยังไง)
​
(เราอยากถามข้อมูลจากเค้า (ไคซารุ) ให้ลึกกว่านี้ แต่การทำให้กระทรวงยุติธรรมสงสัยไม่ใช่เรื่องดี แค่ให้เค้ารู้ว่ากฏอัยการศึกจะถูกบังคับใช้ ก็อันตรายพอแล้ว)
​
​
เบนจามินอ่านสาส์นของคะโจเสร็จ ก็ได้ให้ฟูเก็ตสึและไคซารุที่เป็นแขกกลับไป
​
​
​
...
​
​
​
​
องค์ชายพระองค์อื่นๆ ต่างได้รับสาส์นที่ต่างกันไปเล็กน้อย
​
ในห้องสืบสวน คะโจ เซ็นริตสึ และไคซารุได้มาสรุปผลงานกันอีกที
​
มีเพียงองค์ชายลำดับ 4 องค์ชายลำดับ 13 ที่ไม่ยอมรับสาส์น และองค์ชาย 9 ที่ประชวลอยู่
​
คะโจอยากให้เซอรีโดนีชอ่านสาส์นแต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธ
​
ไคซารุตัดบทว่า อย่างน้อยการได้เข้าไปห้องพักของลูซูรุสได้ก็ถือว่าแผนสำเร็จแล้ว
​
และเซ็นริตสึ ที่เริ่มตัวสั่ง เพราะหลังจากนี้จะต้อง "ลงมือ" ตามแผน
​
..
​
ในขณะที่ทั้ง 3 ได้วางแผนกัน ฟูเก็ตสึก็ได้นอนป่วยในห้องพยาบาล โดยมีเครื่องเช็คชีพจรอยู่ตลอด
​
เซ็นริตสึบอกว่า "ยังดีที่ได้บาโชซื้อเวลาให้ แต่ทางที่ดีก็ให้เจ้าตัวพักผ่อน"
คะโจเสริมว่าควรให้เธอพักเพื่อที่จะเตรียมตัวใช้ "พลัง" ในเวลาที่จำเป็นที่สุด
​
​
"พวกเราจะลงมือในคืนพรุ่งนี้!!"
​
​
​
...
​
​
​
ที่ห้อง 1014
คุราปิก้าอธิบายเนื้อหาในสาส์นที่ตนได้รับเพิ่มเติมจากเซ็นริตสึว่า
"เรือลำนี้ คือพิธีไหปรสิต ดูเหมือนว่าการหลบหนีจะมีโทษถึงตายครับ"
​
"งั้นรึ พวกองค์ชายคงต้อง... จนเหลือแค่คนเดียวเท่านั้นสินะ"
โอยโตะก้มหัวลงด้วยสีหน้าสลด
​
​
คุราปิก้า: จริงอยู่ว่าหากมีเน็นที่ทรงพลังสร้างเงื่อนไขไม่ให้หลบหนี ก็คงหลีกเลี่ยงความตายไม่ได้... แต่ผมคิดว่า ผมยังมองเห็นความหวังอยู่บ้างครับ
​
"เพื่อปกป้ององค์ชายวาเบิล และองค์ชายวัยเยาว์พระองค์อื่น... ผมอยากจะขออนุญาตอย่างนึง"
​
​
​
...
​
​
​
ห้อง 1003
โจไรได้นำเหรียญที่ได้จากสัตว์เน็นของตนมาวางเรียงดู
อันเป็น "เหรียญ 1" จำนวน 7 เหรียญ และ "เหรียญ 10" จำนวน 1 เหรียญ
​
"มีเหรียญ 7 เหรียญที่เป็นของชั้น ส่วนอีก 3 ชั้นให้คนอื่นไป"
"ปัญหาคือ เหรียญที่เคยเป็น 1 ตอนนี้กลับกลายเป็น 10"
​
​
โจไรเงยหน้าขึ้นไปถามกับเหล่าบอดี้การ์ดที่ถูกเรียกมารวมตัว
"เราไม่มีเงื่อนงำอะไรเลย จึงอยากจะขอความเห็น"
​
บอดี้การ์ดคนนึงได้ให้ความเห็นว่า เหรียญจะดรอปมาวันละเหรียญ และเมื่อผ่านไป 10 วัน "เหรียญ 1" อาจจะเพิ่มมูลค่าของมันขึ้นเป็น 10
​
โจไรบอกว่าเป็นไปได้ จึงคิดจะจดเหรียญ 10 ว่าเป็นเหรียญที่ได้จาก 10 วันก่อน และเหรียญใหม่ๆ หลังจากนี้จะถูกจดวันที่ใส่เข้าไป
​
บอดี้การ์ดอีกคนเสริมว่า เราควรจะเช็คเหรียญที่ให้คนอื่นไปด้วย
และอีกคนเสริมว่า ไม่ควรเช็คแค่เหรียญ แต่ควรเช็คความเปลี่ยนแปลงของคนที่ได้รับไปทั้งด้านดีหรือร้ายด้วย
​
บอดี้การ์ดหลายคนต่างเสนอไอเดีย แต่นั่นยิ่งทำให้โจไรสับสน
​
(ความเป็นไปได้มีมากเกินไป และเราก็ไม่มีใครที่มีประสบการณ์และความรู้มากพอให้ทดสอบด้วย... หากจะใช้สัตว์เน็นของเราต่อสู้ในศึกชิงบัลลังก์ เราต้องการคนอย่างคุราปิก้า!!)
​
"ติดต่อห้อง 1014"
​
​
​
...
​
​
​
​
ชั้น 2
ทางด้านไคซารุที่กำลังเดินอยู่ในโถงทางเดินกับสไตรเนอร์
สไตรเนอร์เล่าถึง "อาการหมดสติเป็นหมู่คณะ" ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้สนับสนุนที่เข้าพบฮาลเคนเบิร์ก
ซึ่งฮาลเคนเบิร์กได้ให้การว่า "เป็นอาการอุปทานหมู่ที่เกิดจากความเหนื่อยล้าที่มาพร้อมความโล่งใจที่ได้พบกับผม เคยเจอมาแล้วหลายครั้ง ถ้าปล่อยให้พักสักครู่ก็ไม่มีอะไรให้กังวล"
​
สไตรเนอร์บอกว่าทุกคนฟื้นตามที่ฮาลเคนบอก และไม่มีอาการแปลกปลอมอะไรจริงจึงปล่อยตัวไป แต่ที่คาใจคือการที่เจ้าหน้าที่ในกระทรวงบางคนก็มีอาการแบบนั้น แต่เป็นคนละที่คนละเวลากัน
​
ไคซารุจึงได้ถามชื่อเจ้าหน้าที่คนนั้น และเข้าไปหาเพื่อซักถามถึงเรื่องของฮาลเคนเบิร์ก
​
​
​
...
​
​
​
ห้องสอบสวน
ไคซารุได้ใต่สวนชายคนนั้นตรงๆ อธิบายว่าเค้ารู้เรื่องการใช้พลังพิเศษในศึกชิงบัลลังก์แล้วจากสาเหตุการตายขององค์ชายคะโจ พร้อมทั้งแสดงจุดยืนว่าต้องการปกป้ององค์ชายฟูเก็ตสึ
​
ชายคนนั้นที่ชื่อโวริโอ้ได้แสดงตราขนนกบนมือ อันเป็นเครื่องหมายที่ได้รับจากสัตว์เน็นของฮาลเคนให้ไคซารุดู
​
"องค์ชายฮาลเคนเบิร์กบอกว่า ถ้าถูกยกประเด็นเรื่องเน็นมาพูดให้แสดงให้ดู"
​
ไคซารุประหลาดใจที่อีกฝ่ายรู้ตัวว่าจะโดนเรียกมาแต่แรก
​
โวริโอ้: องค์ชายฮาลเคนเบิร์กรู้ว่าจะมีคนปะติดปะต่อเรื่องจากการที่คนหมู่มากสลบพร้อมกันได้น่ะ แล้วถ้าอีกฝ่ายระแวงจนไม่กล้าเข้าไปถามตรงๆ ก็หมายความว่ารู้เรื่องเน็น
​
"เข้าเรื่องล่ะกัน องค์ชายฮาลเคนเบิร์ก กำลังจะสวรรคตในเร็วๆ นี้"
​
​
​
...
​
​
​
อีกด้านนึง บัลซามิลโก้ ได้โทรไปรายงานเบนจามิน
​
บัลซามิลโก้: แผนการสำเร็จขอรับ ในคืนนี้ผลลัพธ์จะปรากฏให้ท่านได้เห็น
​
[ทว่าชายที่พูดสายกับเบนจามิน คือจิตของฮาลเคนเบิร์กที่อาศัยอยู่ในร่างของบัลซามิลโก้]
​
​
​
...
​
​
​
ห้องพยาบาล ชั้น 2
ผู้สนับสนุนจำนวนมากกำลังยืนล้อมให้กำลังใจแก่ฮาลเคนเบิร์กที่นอนสลบไม่ได้สติอยู่ โดยมีไคซารุเดินมาดูราวกับต้องการยืนยันอะไร
​
​
​
...
​
​
​
ห้อง 1014
คุราปิก้าพูดถึงสิ่งที่เค้าต้องการได้รับอนุญาตจากโอยโตะ ซึ่งก็คือการ "เผยแพร่ข้อมูลในสาส์นของคะโจ"
​
"ใช่ครับ คลาสสอนเน็นช่วงที่สองจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ ผมอยากจะบอกให้พวกเค้ารู้ว่าผมจะเปิดเผยข้อมูลนี้สู่สาธารณะ"
​
​
โอยโตะถามกลับว่าทำไม
​
​
คุราปิก้า: เหตุผลสามข้อครับ
​
หนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกสงสัย ในกรณีที่องค์ชายลำดับสูงเริ่มระแวงองค์ชายลำดับล่างที่มีข้อมูลลับ
สอง ต้องการถ่วงเวลาให้นานขึ้น ตามพระประสงค์ขององค์ชายคะโจ
​
และสาม หากประกาศข้อมูลนี้สู่สารธารณะ เราอาจได้รับการติดต่อจากองค์ชายลำดับสูง ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นใครและอย่างไร เราสามารถใช้โอกาสนี้ต่อรองได้
​
​
​
..
​
​
​
หลังจากนั้น คุราปิก้าก็ได้เดินนำโอยโตะและวาเบิลไปยังห้อง 1003 เพื่อเข้าพบโจไร
​
​
​
...
​