ขายประกันกับสินค้าขายตรง ต่างกันอยู่อย่างคือ
ถ้าทำขายตรง แล้วไม่สร้างทีม อยู่ได้ไม่นานหรอก เพราะสินค้ามันของราคาไม่สูง ต่อให้ขายเครื่องกรองน้ำได้เดือนละ 3-4 เครื่องก็ไม่รวย
จะทำขายตรง ต้องสร้างทีม เพราะระบบมันวางมาแบบนั้น
ไม่ได้บอกว่าสร้างทีมไม่ดีนะ และก็ไม่ผิดด้วย ถ้าสร้างทีม เพื่อให้กระจายการขายของออกไป

แต่ประกัน สมมติชอบขาย แต่ไม่ชอบสร้างทีม มันก็อยู่ได้
เพราะประกันสินค้ามันราคากว้างมากๆ
ถ้าขายแต่คนทั่วไป สนิทกัน อาจจะซื้อประกันเบี้ย 2-3 หมื่นต่อปี หรือ 5หมื่นถึงแสน
แต่ถ้าพัฒนาไปขายคนรวยๆ ได้ คนรวยซื้อประกันเบี้ยหลักล้าน บางรายหลักสิบล้าน
ดังนั้นขายประกัน เลยขายเองคนเดียวก็มีเงินรวยได้ ถ้าจับกลุ่มลูกค้ามีเงินได้ ลูกค้าไว้วางใจ แนะนำญาติ คนรู้จักบอกต่อ

จากที่เคยโดนเพื่อนลากไปฟัง หลายๆเจ้า unicity aimstar amway ของ amway ดูดีสุดครับ

คอนเซปต์ MLM (น่าจะแทบทุกที่นะ) ประมาณว่า


1. แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ นักธุรกิจ กับ ลูกค้าธรรมดา

2. ยอดสินค้าที่ซื้อ ในรอบบิลนั้น ของสายงานที่ต่ำกว่าเราทั้งหมด จะนับรวมเป็นของเรา ด้วย เช่น เรามี downline 3 คน

แต่ละคน ได้ยอดมา 300000 400000 500000 ของเราก็จะนับเป็น ได้ยอด 1.2 ล้านในรอบบิลนั้น

3. แต่ละขั้น จะได้ส่วนแบ่งไม่เท่ากัน ผมจำไม่ได้ละมันมียศอะไรบ้าง เช่น เพชร จะได้ส่วนแบ่ง 10% ระดับมงกุฏ 15%

ของยอดขายในรอบบิลนั้น มันจะมีกฏเกณฑ์ว่าจะถึงขั้นนี้ ต้องมี downline ทั้งจำนวน ยอดนิ่งกี่เดือนๆขึ้นไปถึงข้อกำหนด

ค่อนข้างยากพอควร


4. คอนเซปต์ passive income จริงๆคือ การขายให้เกิดการวนใช้ซ้ำ นึกภาพถ้าคุณใช้แล้วชอบสินค้า
คุณก็จะซื้อใช้ในชีวิตประจำวันเรื่อยๆ เป็นสิบๆปี บางคนก็ไม่เปลี่ยนยี่ห้อ โดยที่ไม่ต้องมีใครไปกดดันให้คุณซื้อ
นักธุรกิจก็จะได้ส่วนแบ่งตลอด นึกภาพถ้าคุณสามารถเปิดสมาชิก ให้คนใช้ยาสีฟัน สบู่ เครื่องสำอางได้
ตกเดือนละ 2000 บาทเฉลี่ยๆ หาได้ 100 คน ก็จะได้ยอด 200000 ต่อเดือน แต่หลายคนใช้ในแนวทางผิดๆ
คือตุนสินค้าเพื่อจะเอายอดเยอะๆ หรือไปกดดัน ตื้อคนรู้จักให้ซื้อสินค้า เพื่อจะได้ตำแหน่งไวๆ พวกนี้จะทำได้ช่วงแรกๆ
แต่รอบบิลถัดๆไปยอดจะตกอยู่ดี สุดท้ายก็ของจมในที่สุดเพราะระบายออกไม่ทัน คนเลยมองติดภาพลบ
จริงๆถ้าทำตามระบบจริงๆ มันจะทำยอดได้ช้ามากในช่วงแรกๆ และใช้เวลาค่อนข้างนานเลย เพราะ
คุณต้องนำเสนอสินค้าให้คนไปลองใช้ มันต้องทิ้งช่วงให้เห็นผล มีปัจจัยอื่นอีกเช่น ราคา เมื่อเทียบคุณภาพ
กับยี่ห้อประจำที่ใช้อยู่เดิม นำเสนอ 20 คน อาจจะเจอคนติดใจและใข้สินค้าซ้ำจริงๆไม่ถึง 2 คน แต่ถ้าอดทน
หน่อยค่อยๆทำไปแบบไม่หวังทางลัด (ช่วง ปีแรกๆ ต้องทนไม่ได้ยอด หรือน้อย )ถ้าเกิดอยู่ตัวแล้ว มันก็กินส่วนแบ่งได้ยาวๆ
จนกว่าบริษัทจะเจ๊ง


จากโมเดลข้างบนจะเห็นว่า จุดสำคัญที่สุดในธุรกิจ MLM คือคุณภาพสินค้า ถ้าของดีจริง ราคาสมเหตุสมผล
การทำให้สำเร็จจะง่าย ผมเลยมองว่าในบรรดาทั้งหมด amway ดีสุด เพราะสินค้าสมัยนั้นถือว่าล้ำกว่าคู่แข่ง
อื่นพอตัวเลย แถมมีการจดสิทธิบัตร ผ่านพวกใบรับรองมาตรฐานระดับโลกเยอะ มีโรงงาน มีทีมวิจัย ขนาดใหญ่
เป็นกิจลักษณะ แถมใจถึงให้คืนสินค้าได้จริงถ้าไม่พอใจ แต่ราคาก็สูงอยู่ แต่สินค้าก็ดีจริงๆจากที่ลองใช้

แต่ข้อเสียคือ มันเปิดมานานละ ส่วนแบ่งการตลาดมันน้อยแล้ว ถ้าทำสมัย 20 ปีก่อนนะผมว่าตอนนี้กินเงินสบายๆ

เคยไปอาศัยอยู่กับน้าที่ขายแอมเวย์อยู่ มีประชุมกันที่บ้านเกือบทุกวัน ตามทางเดินมีติดแผนธุรกิจไว้ มีเทปคาสเซ็ตคำพูดปลุกใจเต็มบ้านเลย แต่ละวันกลับมาบ้านดึกแบบแทบหมดแรง แล้วก็นอนแผ่ที่โซฟา สุดท้ายชีวิตไม่ได้ดีขึ้นเลย ทะเลาะกันกับน้าผู้หญิงตลอด