ไม่ใช่ละ คศ.3 เงินเดือนเต็มขั้น 58,390 +วิทยฐานะ 5600*2 เอาอะไรมาได้เงินเดือน 90k

ถ้านับรวมพวกสอนพิเศษ ติวเตอร์ จะไม่แปลกใจ

แล้วอีกอย่างกว่าเงินเดือนจะเต็มขั้นอย่างเร็วสุดๆ ก็ต้องอายุราชการซัก 20 ปี++

ดูเผินๆอาจจะเยอะนะครับ แต่มันจะไปตันกันที่ คศ3 กันเป็นส่วนใหญ่ เพราะลำพังแค่ 2 ไป 3 ก็ยากแล้ว ไปถึง 4 นี่โคตรยาก

ในเขตผมมี คศ 4 คนเดียวมา 9 ปีละ ที่เหลือคือทำแต่ไม่ผ่าน

ส่วน คศ5 นี่เลิกหวังเถอะ ปัจจุบันทั้งประเทศมีแค่ 5 คน

ไม่จริงครับ ครูเอกชนเงินเดือนไม่ได้ดีขนาดนั้น
ผมเคยสมัคร รร เอกชน 2 ที่ที่ติด Top 20 ของประเทศ
เมื่อ 10 ปีก่อน start ยังไม่ถึง 15000 เลยครับ ทั้งที่ตอนนั้นค่าแรงข้าราชการปรับเป็น 15000 แล้ว สิทธิอะไรก็แทบไม่มี พี่สาวผมจบ ป โท อายุงานเกือบ 20 ปีสอนมงฟอร์ต​ยังได้ไม่ถึง 30000 เลยครับ เลยลาออกมานานแล้ว สอนพิเศษยังรายได้ดีกว่า

ปัจจุบัน รูปแบบการขึ้นเงินเดือนของข้าราชการครูจะเป็นแบบนี้นะครับ เดี๋ยวจะลองอธิบายให้ดูกัน
บางเว็บบางเพจ เอาตัวเลขมาอาจไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้

เรื่อง วิทยฐานะ ตามเว็บที่ว่ามาเลยครับ ครูผู้ช่วย > คศ.1 > คศ.2 > คศ.3 > คศ.4 > คศ.5

คำว่า "ฐานเงินเดือน" หมายถึง ตัวเลขที่นำมาคิดคำนวณเงินเดือนที่จะได้รับการขึ้นเงินเดือนแต่ละรอบ
ซึ่งในระบบข้าราชการครู จะมีการประเมินขึ้นเงินเดือนปีงบประมาณละ 2 รอบ (ประมาณ ก.ย. กับ มี.ค)
โดยเท่าที่เห็นจากเพื่อน ๆ ในวงการ ที่มีบ่น ๆ กันบ้าง จะอยู่ที่ช่วงประมาณ 2.6 - 3.2 % ต่อรอบ
(ตัวเลขนี้เห็นมีดราม่ากันเยอะครับ แต่ละ ร.ร. ไม่เท่ากัน คนที่ได้เลข % สูงสุดอาจไม่ถึง 3 % ด้วยซ้ำ)

โดยจะเอาตัวเลข % ที่ได้จากการประเมินเนี่ย ไป x กับฐานเงินเดือนที่เงินเดือนตัวเองอยู่ในช่วงนั้น
เช่น ครู ค.ศ. 1 เงินเดือน 18,000 บาท จะนับอยู่ในช่วงฐานล่าง (15,440 - 24,880 บาท)
ซึ่งฐานเงินเดือนช่วงนี้ จะอยู่ที่ 22,780 บาท ถ้าประเมินได้ 3% ก็จะคิด 3% x 22,780 = 683.4 บาท
ก็ถือว่าเงินเดือนขึ้นในรอบประเมินนั้น 683.4 บาท (แต่จะคิดให้ตกเลขกลม ๆ เป็น 690 มากกว่า)

ส่วนค่าวิทยฐานะ จะเริ่มมีตั้งแต่ คศ.2 เป็นต้นไป เป็นเงินเพิ่มแยกจากเงินเดือน ไม่คิดในประเมิน %
ครูจะเลื่อนวิทยฐานะจะต้องใช้การยื่นขอเลื่อนที่ส่งหลักฐานต่าง ๆ ปัจจุบันเป็น วิดีโอการสอน เอกสารอื่น ๆ
โดยก็จะมีกำหนดระยะเวลาที่จะต้องอยู่ในวิทยฐานะนั้น ๆ ประมาณ 3-4 ปี ถึงจะยื่นเลื่อนต่อไปได้
เงินที่ได้เพิ่มก็เริ่มจาก คศ.2 3,500 บาท คศ.3 5,600 บาท คศ.4 9,900 บาท คศ.5 15,600 บาท
ซึ่งถ้าเป็น คศ.3 ขึ้นไป ปัจจุบันค่าวิทยฐานะจะ x2 เข้าไปอีก (ส่วนใหญ่ครูจะนิ่งที่ คศ.3 กัน)

พยาบาลเหนื่อยกว่าเยอะครับ ประสบการณ์ตรงจากพ่อแม่ผม แล้วความก้าวหน้าก็สู้ครูไม่ได้ ครูนี่น่าจะเป็นอาชีพเดียวที่ราชการได้มากกว่าเอกชน ค่าตอบแทนไม่สอดคล้องกับอุปสงค์อุปทานและคุณภาพที่ได้ เข้าใจว่าเพื่อดึงดูดคนเก่งมาเป็นครูนั่นแหละ แต่ผมคิดว่าปัญหาคือคนไทยเลี่ยงจะเป็นครูกันเพราะนิสัยขี้อายมากกว่า

แสบตามากครับ

เยอะไปไหน ทิ้งห่างข้าราชการพลเรือนซะ เหอๆ

- อายุราชการ (ยิ่งทำนาน ยิ่งได้มาก)
- พวกวุฒิการศึกษา ป.ตรี ป.โท ป.เอก
- พวกใบ certificate ที่ได้รับการยอมรับ เช่น สอนภาษาอังกฤษ สอบได้พวก toefl ielts ได้ระดัยขั้นสูงๆกว่ามาตรฐาน
- ตำแหน่งพิเศษ อาทิพวก รอง ผอ./ ผอ.

คิดว่าน่าจะประมาณนี้นะจากที่รู้มา ญาติผมก็ระดับขั้นสูงพอ จะเป็น ผอ. ได้สบายๆ แต่ก็ไม่อยากเป็น(ไม่อยากรับผิดชอบเยอะ)
ก็ไม่ยอมสอบ จนเกษียณ เงินเดือนก็จบแค่ 5-6 หมื่นตอนเกษียณ กินบำนาณ จริงๆถ้าสอบนู่นนี่ครบน่าจะจบที่เฉียดแสนได้

เป็นอาชีพที่ควรจะเยอะแบบนี้มานานละครับส่วนตัวผม
1. ทำงานหนักกว่าข้าราชการแบบอื่น
- อยู่กับเด็กเล็ก เป็นอะไรที่ปวดหัวและเหนื่อยที่สุดแล้ว (ดูจากค่าเทอมเด็กอนุบาล จะแพงที่สุด แพงกว่าประถมมัธยมเยอะมาก)

2. เป็นอาชีพ 24 ชั่วโมง
- ไม่ได้หมายถึงทำงาน 24 ชั่วโมงนะ หมายถึง ข้าราชการแบบอื่น เลิกงานเปลี่ยนชุดไปเที่ยวไหนก็ไม่มีใครเพ่งเล็งเท่าไหร่
แต่ครูนี่ไม่ได้ จะถอดชุด เลิกงาน วันหยุด ไปไหนถ้านักเรียน ผู้ปกครองเจอ เอ็งก็คือ ”ครู“ จะทำเรื่องเสียๆหายๆไม่ได้
ภาพลักษณ์ต้องดีตลอดเพราะต้องเป็นแบบอย่างให้นักเรียน

3. เวลาทำผิด ความผิดจะถูกคูณ 10 เท่า
- ข้าราชการอื่น ทำความผิดเล็กน้อย อย่างมากก็โดนหัวหน้าด่า ตักเตือน
- ครู แค่เผลอด่าเด็ก เพราะโดนเด็กกวนประสาท สังคม+โซเชียล รุมประนามอย่างกะไปฆ่าใครตาย แทบจะจบอาชีพครูได้เลย

ด้วยเพราะแค่คำว่า เอ็งเป็นครูไง เป็นแบบอย่าง ต้นแบบให้เด็ก เยาวชน ทั้งๆที่ก็เป็นข้าราชการกินเงินเดือนเหมือนข้าราชการแบบอื่น


4. เป็นอาชีพ ที่ต้องช่วยเหลือเด็กตลอด เพราะคำว่าครูค้ำคอ ตามโรงเรียนวัด ชนบท เด็กยากจนเยอะ
ไม่มีตังซื้อชุด ไม่มีตังค่าหนังสือ ถามว่าครูไม่ช่วยเด็ก เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้ไหม มันก็ทำได้แหละ
แต่ด้วย จรรยาบรรณ และคำว่าครู ค้ำคอ ก็ต้องช่วย ไม่ช่วยก็จะมีคำพูดตามหลังมา เป็นครูประสาอะไร
ทำไมไม่ช่วย ครูคือพ่อแม่คนที่สอง ลูกตัวเองยังไม่ช่วย บลาๆๆ

จริงๆมีอีกเยอะ เอาให้พอเห็นภาพ

อ่านแล้วเฉยๆมากครับ งานข้าราชการสายอื่นเค้าก็มีความลำบากแตกต่างไป ครู 1 คนความรับผิดชอบไม่เกินขอบเขตโรงเรียน แต่ข้าราชการสายอื่นดูแลคนทั้งประเทศก็มีครับผ่านนโยบายต่างๆที่คิดออกมา แต่ละงานมันแทนกันไม่ได้ มันถึงควรให้ไม่ต่างกันมาก คิดว่าสำคัญอยู่สายเดียวคงไม่ได้เพราะผลงานไม่ได้ประจักเลยครับ พิมพ์แค่นี้พอเพราะไม่ได้ด้อยค่าครู แต่อยากให้รู้ว่าสายอื่นเค้าก็ลำบากแค่แตกต่างบทบาทกันเฉยๆ

อย่าหาว่าผมงั้นงี้เลยครับ ข้าราชการที่ผมรู้จักเป็นการส่วนตัวหลายๆคนนะ นั่งทำงานเช้าชามเย็นชามมาก
เข้างานก็สาย ฝากเพื่อนเซ็นชื่อ แล้วออกไปรับงานนอก นั่งเล่นหุ้นเวลางานรอหมดเวลาเลิกงาน ยังไม่รวม
เรื่องหาเรื่องแดกงบเบิกไป อบรมนู่นนี่(ที่จริงกะไปเที่ยว) มีอีกเยอะครับ รู้จัก 10 คน ทำงานเหนื่อยจริงๆมี
ไม่ถึง 2-3 คน ส่วนอีก 7 คนทำงานไปวันๆรอเวลาหมด ตัวอย่างให้เห็นก็มีทั่วประเทศและเป็นมานานแล้ว
เวลาเราไปเดินเรื่องติดต่อเอกสารตามสำนักงานต่างๆ สภาพก็ตามที่เห็น ผมไม่เห็นจะทำงานหนักกันตรงไหน
ประชาชนยืนรอเอกสารลางานมา เดี๋ยวก็โยนไปหาคนนู้นคนนี้ ส่วนพนักงานยืนจับกลุ่มเม้ามอย จับพวกข้าราชการไทย
พวกนี้ไปทำงานเอกชน ถ้าทำสภาพนี้นะผมบอกเลย โดนไล่ออก ไม่ต่ำกว่าครึ่ง


เสริมอีกนิดนะ คุณรู้ไหมว่า ครูตามชนบทอะ บางทีครู 1 คนสัดส่วนดูแลนักเรียนเกิน 1:100 นักเรียนวัดบาง รร
นักเรียนเป็นพัน แต่ครูมี 10 กว่าคน ครูบางคนจบภาษาไทยมา ยังต้องมานั่งสอนนักเรียนครบ 5 วิชาก็มี เวียนสอน
คนนึง แทบทุกชั้น อย่างประเทศเจริญๆ อาทิ อเมริกา สัดส่วนครู1 คน จะดูแลนักเรียนแค่ 10 กว่าคน คิดเอาว่า
ภาระงานเยอะกว่ากันกี่เท่า

ที่คุณพูดมันเป็นเรื่องส่วนบุคคลทั้งนั้นนะครับ เท่านี้แล้วกันครับถ้าคิดว่าเหนื่อยมาก คิดว่าทำงานสมเงินที่เพิ่มก็เอาที่สบายใจ สายอื่นงานเบามากกกกกกก ครูเหนื่อยสุดดดด ตามนั้นครับ 555

มันก็เป็นงี้มาเป็นหลายสิบปีละครับ ข้าราชการไทย ถามใครก็ตอบเป็นเสียงเดียวกัน คุณรู้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้หรือเปล่า
หลายรัฐบาล พยายามเอาระบบประเมินแบบเอกชนมาใช้ก็ดิ้นกันป้องกันสุดฤทธิ์ไม่ให้นโยบายผ่าน ทั้งๆที่ระบบประเมินแบบ
เอกชนเลื่อนขั้นตามผลงาน ไม่ใช่เส้นสาย จะทำให้ประเทศเจริญแท้ๆ แต่ก็ไม่เอากันเพราะอู้ไม่ได้ กลัวโดนไล่ออก แบบเดิมจะทำงานห่วย
แค่ไหน ถ้าไม่ผิดพลาดร้ายแรงก็ไม่โดนไล่ออก มันถึงทำงานเช้าชามเย็นชาม เพราะคิดว่าไงกุก็ไม่โดนไล่ออก อู้มันซะเลย ถึงเวลา
ก็เอาใจหัวหน้าเยอะๆ เดวก็ได้เลื่อนขั้น ระบบมันเป็นแบบนี้ไง ไม่เน้นทำงาน เน้นเอาใจ(เลีย) เจ้านายแทน ระบบอาวุโส
การทำงานถึงไร้ประสิทธิภาพ หัวกระทิในประเทศถึงไม่อยากเป็นข้าราชการ ครูก็เป็นอาชีพนึงที่ก่อนจะปรับเงินเดือนเพิ่ม
ไม่มีใครอยากจะเป็น ขาดแคลนบ่อยมาก ถ้ามันเงินเดือนดีจริง ไม่เหนื่อย แถมได้เป็นข้าราชการสวัสดิการดี ทำไมถึงขาดแคลนตลอดล่ะ?
ไม่เหมือนข้าราชการแบบอื่นที่แย่งกันสอบเข้า(ก็น่าจะสะท้อนอะไรบางอย่างนะ) ทำไมในการเลือกเรียนมหาลัย ถึงเป็นทางเลือกแทบ
จะท้ายสุดในทุกสาขา(คะแนนอยู่ในกลุ่มต่ำสุด) ถ้ามันดีจริงอย่างคุณว่ามันต้องแย่งกันสอบเข้าสิ ไหงมีแต่คนยี้ไปเรียนคณะอื่น

ปล.อีกอย่างผมไม่ได้ทำงานข้าราชการนะ และไม่ได้เป็นครูด้วย เดี๋ยวจะหาว่าอวยอาชีพตัวเองอีก