เปลี่ยนกลับตามสายเดิมเฉยๆครับ ทหารแบ่งเป็น 2 ฝั่งใหญ่ๆ บูรพาพยัคฆ์กับวงเทวัญ
ฝั่งวงเทวัญเขาอยากเอาอำนาจคืน ก็เลยไปปั้นหน่วยย่อยมาใหม่คือคอแดง ละก็วางตัวไว้
ให้คอแดงสืบทอดตำแหน่งกันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ ด บ ต นั่นแหละ ทีนี้ พอจะหมด ต
ตัวยืนของคอแดงมันขาดช่วง เขาก็เลยต้องหักโผ เอาฝั่งบูรพาพยัคฆ์ออกไปเลย เพื่อดัน
ฝั่งคอแดงให้ต่อเนื่อง แต่ก็โดนเล่นคืนหนักอยู่ ขนาดว่า ต กับ ด ต้องให้ลูกลาออกจากทหารเลย

สิ่งที่ทำในอดีตร่วมกับป้อมมามันไปกระทบ เพดาน

ต่อให้ไหว้แม้ว แม้วก็ช่วยซ่อมปัญหาที่ค้างอยู่บนเพดานไม่ได้

เด็กป้อม แพ้ 2 ปีติดแล้วนะ แต่ประเด็นคือป้อมมันวางสายไว้ยาวมาก เค้าเลยต้องล้างบางระนาบ ผบ พล ให้หมดเพื่อวางคนใหม่ ปีหน้าคิดว่าคงมีบางคนกลับเข้าไลน์ได้ ตอนนี้ต้องเหมารวมไปก่อน

ตัวแปรคือกองทัพอเมริกาที่ประจำการในเกาหลีนี่แหละ เลยทำให้พวกเผด็จการทหารไม่กล้ารุนแรงมาก

ส่วนของไทยฆ่าไปเป็นร้อยชิวๆ ไม่มีมหาอำนาจมากดดันจริงจัง

ไปงัดสายวังสองรอบ ไม่ตายก็บุญแล้ว รอบแรกกำลังหนีออกนอกประเทศ ป้อมไปช่วยเคลียร์มาได้

รอบสองไปงัดเรื่องผบตร.อีก ป้อมอำนาจเสื่อมลง ช่วยไม่ได้แล้วคราวนี้

พอจะขยายความเรื่องที่ป้อมทำมาได้ไหมครับ

เตรียมตั้ง ผบ. ไม่ใช่แค่ ทบ. นะรอบนี้ทุกเหช่าจะมาจากสายวังทั้งหมด เตรียมพร้อมรอเลือกตั้งรอบหน้า

เอาแค่ที่ป้อมทำกับโจ๊ก ก็ได้ครับ
- ดึง โจ๊ก ให้มาเป็เหมือน มือขวา
- ให้โจ๊กทำบัญชีโยกย้าย ตร. ให้ ตั้งแต่ปี 57-62
- แต่งตั้งโจ๊ก ให้ขึ้นตำแหน่งไวแบบ แซงหน้า ข้ามหัวรุ่นพี่ไป 4-5 รุ่น

*ท่านไปดูอายุโจ๊กดิ เทียบกับตำแหน่งล่าสุด รอง ผบ.ตร
ปกติ คนที่จะถึงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร เต็มที่เลยนะ เหลืออายุราชการ 5 ปี ก็มากสุดละ
โจ๊ก เพิ่งอายุ 53 แถมเกิดตุลา เท่ากับเหลืออายุราชการ 7 ปี แถมอีก 1 ปี เท่ากับ 8 ปี !

เอาแค่นี้พอ ที่เหลือท่านไปหาเอาเองได้ ไม่น่ายากครับ

*แล้วที่ป้อมแต่งตั้งโจ๊ก ก็ไปข้ามหัว ตัวหลักที่วังเขาวางตัวไว้
ยังไม่รวม ตร.ในบัญชีโยกย้าย ที่ทำให้วังเขาไม่พอใจ

ผมนึกว่า ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร กับ ผบ นี่อายุราชการเท่าไหร่ก็ได้ สามารถเป็นยาวๆได้สักอีก

ไม่ใช่เพดานหรอกครับ คิดว่าโจ๊กมันข้ามหน้าข้ามตารุ่นพี่ไปอยู่มาก ถ้าขึ้นเป็นผบ.ตร.เลยก็จะอยู่ยาวมากๆ ย่อมโดนสกัดดาวรุ่งเป็นธรรมดา อีกอย่างผมคิดว่าคนอย่างโจ๊กอยู่เป็น

ขอบคุณมากครับ

เรื่องขึ้น พล.ต.อ. เร็วพอทราบมาบ้าง

แต่เรื่องทำบัญชีโยกย้าย ตร. ให้ ตั้งแต่ปี 57-62 นี่เพิ่งทราบเลย





เอาเท่าที่ผมเข้าใจ

คือข้าราชการทหารตำรวจ ทหาร จะมีความต่างจากหน่วยงานอื่นหน่อย (อาจจะเรียกว่าธรรมเนียมก็ได้)

ตำรวจ ทหาร ระดับบริหารส่วนมากจะจบจาก จปร หรือเตรียมตำรวจ ทำให้มีนายร้อยจบใหม่ทุกปี ปีละประมาณ 200 คน ต่อสังกัด (ไม่ชัวร์เรื่องจำนวน)

ทำให้ถ้าใครขึ้นเป้นหัวนาน ๆ รุ่นถัดๆ มาแทบจะหมดโอกาศขึ้นเลย ทำให้ต้องมีการเกลี่ยๆ ตำแหน่งบริหาร ให้โควตาได้ครบทุกรุ่น อย่างมากคือ 3 ปี

คิดง่าย ๆ คือถ้าคนอายุ 57 ได้ขึ้นเป็น ผบ ของหน่วยงานแล้ว อีก 3 รุ่นต่อมา (ประมาณ 600 คน) แทบจะไม่มีโอกาศขึ้นได้เลย

ส่วนหน่วยงานราชการอื่น ๆ ถึงแม้จะรับเข้ามาทุกปีจากการสอบ และยังมีโควตาจากทุน กพ อีก และเมื่อโตขึ้นระดับบริหารแล้วมีโอกาศ โยกย้ายไปตำแหน่งที่ว่างได้มากกว่าทหาร ส่วนทหารคือถ้าจะขึ้นสูงสุดมีแค่เป็น ผบ เหล่าที่ตัวเองจบมาเท่านั้น

อีกเรื่องคือเรื่องความคาดหวัง คือคนที่เข้าหน่วยงานราชการทั่วไป น่าจะมีจำนวนคนไม่มากที่หวังจะขึ้นระดับ ปลัดฯ อธิบดีฯ จากการสอบภาค ก ข ค แบบปกติ (ในที่นี้ขอยกเว้น ทูต อัยการ ผู้พิพากษา ที่มีการคัดเลือกของตัวเอง) แต่คนที่จบ จปร แทบทุกคนมีโอกาศเป็นระดับบริหารของหน่วยงานได้ หรืออาจจะหวังถึง ผบทบ ถ้าโอกาศ จังหวะ เป็นใจ รวมถึงเส้นสายต่าง ยิ่งนามสกุลที่พ่อเคยเป็น ผบ มาก่อนนี่เส้นทางค่อนข้างสดใสเลย