[RE: ทำไม ipad ถึงขายดี แม้จะตั้งราคาแพงมากๆ]
มันแพงไม่มีเหตุผลอะไรมาก เป็นเพราะความอ่อนด๋อยของ Android และ Google เองนั่นแหละที่ไม่เคยตั้งใจจะทำ Tablet ให้สู้กับ iPad ได้เลย
สมัยก่อนสัก 10 ปีกว่าๆได้ iPad ยุคนั้นคนด่ายับว่าแม่มเป็นแค่ iPod Touch เป่าลม เอามานั่งดูคอนเทนท์อ่านหนังสือแค่นั้นไปวันๆทั้งๆที่สมัยสตีฟโม้เหม็นว่าเป็นตัวช่วยให้เข้าสู่ยุค Post PC เร็วขึ้น
พวกแท็บเล็ตแอนดรอยด์มันเลยเกิดได้ แถมยอดบางเดือนชนะ iPad ด้วยซ้ำ
ปัญหาคือ Google ไม่เคยรักษาสัญญาเรื่องแยกแอพโทรศัพท์กับแอพสำหรับแท็บเล็ต ทั้งๆที่ยอดขาย Tablet ในตอนนั้นไม่ได้น้อยๆ ผลก็คือแอพบางตัวก็ขยายไซส์แบบพิลึกพิลั่น เอาแอพโทรศัพท์มาขยาย ยุคนั้นจอส่วนมากยังไม่เกิน HD ด้วยซ้ำไป ก็นึกละกันว่าขยายเป็น 7-10 นิ้วมันจะแตกขนาดไหน
ขณะที่ iPad ตั้งแต่แรกมันขีดเส้นรอให้คนทำแอพเลยด้วยซ้ำว่าต้องทำแยก ถ้าไม่ทำแยกก็จะไม่โผล่ใน App Store ส่วนที่เป็น App for iPad ต้องให้ผู้ใช้ไปกด App for iPhone ไปเอง (เหมือนบอกกลายๆว่า "เอ็งกำลังจะโหลดแอพโทรศัพท์มาใช้นะ")คนเขียนแอพมันก็เลยเอาโปรแกรมบน PC (ทั้ง mac + win) มาย่อส่วนลง iPad แล้วก็ใส่ระบบการทัชลงไป
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ iPad ขึ้นมาเป็นผู้นำ(จนผูกขาดในปัจจุบัน)ก็คือการตีตลาดการศึกษา
ท้าวความก่อนว่าในต่างประเทศเนี่ย เขาใช้โน้ตบุ้คเลคเชอร์เรียนกันตั้งแต่สมัยมัธยมเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ส่วนมากก็จะเป็นพวก Netbook แล้วก็มาเป็น Chromebook ส่วน Apple ก็เคยตีตลาดตรงนี้ด้วย iBook ตัวถูก
ทีนี้ทั้ง Chromebook และ Netbook มันไม่ได้เหมาะกับการใช้ในระยะยาว (ใครเคยใช้จะรู้เลยว่าแม่มคือเอามาแค่พิมพ์งานยังต้องลุ้นด้วยซ้ำว่าค้างไหมสมัยก่อน)
iPad ตอนนั้นก็เลยลงสนามนี้สู้ ทำ iPad 2017 มาขาย เคาะราคาตอนนั้นบ้านเราหมื่นกลมๆ (32GB)
หน้าตาเหมือน iPad Air 2 เป๊ะ มีสแกนนิ้วมือ แต่ยังไม่รองรับ Apple Pencil
ผลคือตลาดแตกครับ คนแห่ซื้อกัน (ไอคนซื้อ iPad Air 2 ไปก่อนหน้านั้นก็หน้าเขียว จ่ายไป 2 หมื่นกว่า มีสิ่งที่เหนือกว่าแค่จอแบบ Laminated ซึ่งก็ซวยเจอ defect จอลอกจนต้องไปเคลมกัน)
จากนั้นแอปเปิ้ลก็ทำตามสไตล์ตัวเองคือทุบหัวลากเข้า Ecosystem ด้วยฟีเจอร์สำคัญๆอย่าง Airdrop (ผมว่า 90% ของการเรียนสมัยนี้ บังคับ iPad ก็เพราะเรื่องนี้), แอพจดอันเลื่องชื่อทั้งหลาย (Notability, GoodNotes,Evernotes ฯลฯ ทุกวันนี้แอพพวกนี้เลิกแผนจะเขียนให้แอนดรอยด์ไปละ ทั้งๆที่สมัยนู้นเคยบอกมีแผนพิจารณาอยู่ ก็คิดละกันว่ามันยอดได้ขนาดไหนละ), Apple Pencil ที่ใส่ฟีเจอร์มากขึ้นเรื่อยๆ
ผลสุดท้ายที่ตามมา ก็คือยอด Tablet ตอนนี้ 56% เป็น iPad รองลงมาเป็น SS ที่ไม่ถึงครึ่งนึงของ iPad
https://gs.statcounter.com/vendor-market-share/tablet/worldwide (เวปน่าจะล่มอยู่)
ในเมื่อผูกขาดในตลาดการศึกษาได้แล้ว จะขยับราคาตามใจฉันยังไงก็ได้ เพราะยังไงก็มีคนซื้อ
ฉะนั้นแล้ว ที่คุณคิดว่าแพงก็ไม่แปลกครับ
น้องผมถอยไปเรียนเฉพาะทางยังต้องซื้อ iPad Air 6 ทั้งๆที่แม่งก็คือ iPad Pro ตัวปีก่อน ตัดจอ 120Hz ออกกับอะไรอีกนิดหน่อย แล้วก็ขาย
ขณะที่ iPad 10th ก็คือ iPad Air มาตัดซะโล้นแล้วก็ขายราคาแบบบีบให้คนไปซื้อ iPad Air (ตามกลยุทธการตั้งราคาของผลไม้สมัยนี้ ทั้ง idevice และ mac)
ส่วน iPad 9th ก็ไม่รู้จะโดนแพตอนไหน เพราะเหตุผลนึงที่มันซื้อใหม่ก็เพราะ 5 หมดระยะซัพพอร์ตจนใช้ Airdrop กับเครื่องใหม่ๆไม่ได้
ตอนมันได้ Air 6 มา ผมซื้อ Mi Pad 5 ก่อนมันเดือนนึง ผมบอกเลยว่าฮาร์ดแวร์ไม่ได้แพ้กันเยอะ แต่ Mi Pad จ่ายแค่ 1/3 เกือบ 1/4 (ราคาที่ผมได้มานะ)

จริงๆไอที่ประหยัดไปก็คือต้องมาดิ้นรนลงรอมแก้นี่แหละ แต่ส่วนตัวผมรับได้ ประหยัดไปเป็นหมื่นๆบาท ประกอบกับผมเอาไว้แค่ดูหนังอ่านข่าว
ไม่ได้ใช้แอพทางการแพทย์ หรือต้องใช้ Airdrop (ที่ทำงานผมใช้ Onedrive/GDrive)