ขอออกตัวก่อนว่า ผมเป็นแฟนผีแบบเข้มข้น แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับระบบการเล่นเท่าไร แล้วก็ผมเป็นคนที่นอนไม่ดึกด้วยครับ เลยไม่ค่อยมีโอกาสได้ดูเต็มเกมมากเท่าที่ควร แต่ก็แบบมองออกบ้างว่า เข้าทำยังไงไรงี้
แต่เรียกไม่ถูก ขอถามไปถึงปี 2022 ที่เข้ามาใหม่ๆ แล้วแพ้ไป 2 นัดรวดตอนเปิดฤดูกาล หลังจากนั้นผลงาน จำได้ว่าดีมากๆ มีช่วงที่ชนะต่อเนื่องหลายช่วงเลย แล้วก็มีแข่งตี3 บ่อย จนได้ฉายาตีสามยูไนเต็ด แล้วส่วนใหญ่จะชนะด้วยนะ จนได้คาราบาว และ พาทีมจบที่3 ด้วย 75 แต้ม แนวทางการเล่นแบบปีนั้นมันคือยังไงหรอครับ เรียกว่าอะไร ท่านใดพอจะอธิบายให้เข้าใจได้บ้างครับ

ส่วนในปีที่แล้ว และปีนี้ ก็เข้าใจว่าเล่นแผน Transition , Overload 3-1-6 อะไรนั่น ซึ่งก็น่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามันไม่ค่อยเวิร์ค ก็ทำให้ตัวเองต้องโดนด่าแบบนี้ แต่อยากทราบแบบละเอียดๆหน่อยครับ ว่าการเล่นแบบปีแรก กับ ปีที่จบที่8 จนถึงปัจจุบัน มีความแตกต่างด้าน Tactic อย่างไร และใครเป็น Keyman ในรูปแบบต่างๆครับ

อุด แล้วสวน

Keyman แมคโท

ไม่ได้ดูละเอียดแต่เท่าที่ตามดู(แช่ง)นะ หลังจากโดนไบรตันระเบิดถังขี้ไปก้อมาเน้นรับแล้วโต้ แบบโยนไปเลยให้แรชฟอร์ดโซโล่เอาซึ่งปีนั้นมันเล่นดีจริง เลี้ยงหลบเปนกรวย ยิงเปนเข้า จะปีกซ้ายหน้าเป้าได้หมด

ตอนแรกจะบิ้วอัพ เจอถล่มเข้าไป สุดท้าย ไดเรก เหมือนเดิม

ปีแรกก็ใช่ 3-1-6 เยอะครับ ตอนช่วงที่เข้าฟอร์มเบรคยาวๆ 2-3 เดือนประมาณกลางฤดูกาลก็ใช้ เป็นรูปแบบเวลาครองบอลที่เทนฮากใช้ตลอดอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นเข้าฟอร์มกันหมด 3 ด้านหลัง ลิซานโดร วาราน ดาโลท(ชอว์ อิริคเซ่น คาเซ) สลับกันลงมาช่วย คอนโทรลเกม ปีนั้น คาเซ อิริคเซน บรูโน่ ครองบอลลงตัวมากทำให้เกมเสถียรด้วย

ตอนแรกจะโชวโหดทำขึงทิ้งกองหลังไว้2 คนแล้วเบอ6 รวมเป็นสามคนโดนยิงใส้แตก ปรับมาเป็น รับรอสวนโดยการบอมยาวเป็นหลัก

ปีกแรกก็ทรงนี้แหละ3นัดแแรกปีนี้ พยายามBuild Up สุดท้ายโดนรับน้องไป ก็เน้นรัดกุมไดเร็คเยอะขึ้น

Transition Ball หรือ Counter Pressing พยายามแย่งบอลตั้งแต่แดนคู่แข่งเพื่อชิงจังหวะเข้าทำเร็ว ช่วงแรกแฟนบอลตื่นเต้นกับการนับเวลาในการแย่งบอลตอนซ้อมกันเลยทีเดียว

Keyman ให้ คาเซมิโร่ กับ บรูโน่ ส่วนฟอร์มปีนั้นให้แรชฟอ์ด

รูปแบบการเล่นรัดกุมกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้คือไม่โอเวอร์โหลดผู้เล่นมากจนเสียสมดุล

มีแผน 4-1-4-1 ให้เห็นอยู่เรื่อยๆซึ่งผลงานก็ไม่ค่อยดี มาเสียสมดุลจริงๆตอนเอริคเซ่นเจ็บไป โดยรวมแล้วสอบผ่านเลยสำหรับฤดูกาลแรกมีแชมป์ติดมือ

ฤดูกาลที่สองวัดผลอะไรไม่ได้เพราะตัวเจ็บมันอลังการงานสร้างจริงๆ เกิดมาเพิ่งเคยเห็นสภาพทีมเจ็บขนาดนี้ เจ็บจนจำไม่ได้ว่า 11 ตัวหลักจริงๆคือใคร แต่เริ่มเห็นแล้วว่ามันมีความไม่สมดุลของทีม

ฤดูกาลที่ 3 ปัจจุบันนี้ ได้เฉิดฉายเต็มที่กับแผนโอเวอร์โหลด สมดุลของทีมเข้าขั้นบัดซบ มีแชมป์ 2 ปีมาไว้พูดอ้างตอนสัมภาษณ์

Keyman ของ ETH จริงๆคือมิดฟิลด์ตำแหน่ง NO.6 นี่แหละ แต่งานชุกชุมหน่อยเท่านั้นเอง อูกาเต้นี่ถ้าฟอร์มมาแบกทีมได้ขึ้นมาล่ะก็เรื่องจะยุ่งตรงที่ ETH จะไม่ปรับวิธีการเซ็ตบอล

ก็เล่นแบบนี้แหละแต่บอลไดเรคมากกว่า

แดนกลางสมดุลกว่า

เล่นแบบเจียมตัวมากกว่า

แรสฟอร์ดเข้าฝักมากกว่า

แต่มาเป๋ตอนอิริคเซ่นเจ็บ คาเซมิโร่โดนแบน ลิชาเจ็บท้ายฤดูกาล

ไม่มีอะไรมาก ได้มรดก จากอาแจ็กซ์ แล้วก็เป็นโค้ชที่โชคดีมาจนถึงทุกวันนี้

เหมือนดีเทลลึกๆต่างอยู่นะครับ เคยอ่านจากเพจ Brady แต่ที่เล่นเหมือนปันจุบันคือ สองสามนัดแรกครับ ก่อนจะปรับไปเล่นอีกแบบที่ฟอร์มดีๆเหมือนท่านพูดถึง ก่อนที่ฤดูการที่สองจะมาปรับแผนให้กลับไปเหมือนที่อยากจะใช้จนมาถึงปัจจุบันนี่แหละ

ก็หมายความได้ว่าแผนปัจจุบันเนี่ยแหละที่พี่ ten เค้าอยากใช้จริงๆ

ส่วนดีเทลแผนต่างกันไงแนะนำเพจ Brady.United ครับ

เนิฟปีแรกพี่โล้นกันเกินไป

อุดแล้วสวนเป็นหลักแค่ช่วงหลังแพ้ 2 นัดแรกแล้วเจอโปรแกรมหนัก เจอหงส์,ปืน

ตอนหลังเริ่มตั้งเกมใส่คู่แข่ง มีเคาเตอร์เพรส ดันสูงขึงคู่แข่ง เพียงแต่ไม่ได้ทำแบบระห่ำสิ้นคิดเหมือนตอนนี้ จังหวะช้ากว่า กลางต่ำกับล่างยังมีตัวประคอง 3-4 ตัว เล่นบอลคอนโทรลสั้นสลับไดเรกต์ฉาบฉวย

เกมรุกใช้ระบบแรชฟอร์ดเป็นหลัก เพื่อนๆเคลื่อนที่เปิดทางให้มันโชว์ฟอร์ม

ทีมเริ่มพังหลังแพ้เซบีย่า

ต่างกับปีนี้เยอะนะ ถึงจะไม่ได้ดูทุกเกม แรกๆก็จะเล่นโอเวอร์โหลด จไได้มีเกมนึงให้ อีริคเซน ยืนเป็น ，DLP แล้วไม่มีใครมาช่วยเลยโดนแย่งไปยิง

แต่ เมื่อไหร่ คาเซ ลงมาคู่ เล่นง่ายกว่าเยอะ แล้วบางเกมแมคทอมก็ทำได้ดี เรียกว่า มีช่วงนึงเป็น ร่างทอง

ตอนนี้ เสียดายมาก ทรัพยากรดี ถ้าไม่เล่น โอเวอร์โหลด ผมเชื่อว่า ติด 1-3 ได้สบายๆ เอาคาเซ คอยเก็บกวาด แล้วให้ไมนูพาขึ้นไป หรืออีริคเซนที่แฟนๆว่าไม่ไหวแล้ว ก็ยังเล่นทีมชาติได้ดีเลย เอาลงมาเล่น 60 นาที ก็ได้ ไว้คอยจ่ายบอลยาว

เพิ่มๆ ผมชอบการที่เรามีกลาง ที่วางยาวดีๆได้ อยากได้เอามาเล่นซักคน

พูดแบบตรงไปตรงมา ปีแรกได้โกลช่วยด้วยเถอะ เซฟจนได้คลีนชีต แต่ชอตพลาด ก็เต็มๆ นัดเจอ เวสต์แฮม ท้ายฤดูกาล กับนัดชิง FA ที่โดนแมนซิสอย ทั้งลูกแรก และ 2 ที่น่าจะเซฟได้และเป็นชอตที่เข้าตามากๆ ว่าต้องเปลี่ยนโกล ซึ่งจริงๆ ไม่ติดขัดเลยถ้าจะเปลี่ยนโกล แต่ได้โอนาน่ามานี่ แทบไม่ได้ช่วย เซฟก็ง่อย ไอ้ที่จะเอามาบิวด์อัพ จากหลังก็แทบจะไม่ได้ทำ ปีที่แล้วชอตเซฟน้อยมาก ตรงแทบจะตุง ไม่ได้มีชอตเซฟ หวือหวา ให้ชมมากนัก นัดชิงคิดว่าแมนซิประมาท และกองกลางดันเล่นดี ไล่เพรสลงมาช่วยเกมส์รับ โดยเฉพาะอัมราบัต ที่ฟอร์มมาเล่นดีในนัดชิง ถึงได้แชมป์ขนาด นำ 2-0 จนถึงนาที 80 กว่าๆ ยังจะเสียประตูจนโดนกดดันจนหมดเวลา ถ้าเวลาเหลืออีก 10 นาทีนัดชิง อาจจะตีเสมอ ตัวอย่างก็ คอมมูนิตี้ ชิลด์ นั่นแหละ มีที่ไหนนำเขาเหลือไม่ถึง 10 นาทีจบเวลา โดนตีเสมอ และเป็นเกมส์แบบนี้ เกือบทั้งฤดูกาล นำเขาจะจบเกมส์ ก็โดนตีเสมอ ไม่ก็พลาดท่าแพ้ หรือโดนนำเร็ว ก็รั่วเป็นทำนบ โดนลูก 2 หรือ 3 ไวห่างกันไม่เกิน 10-20 นาที แผนของโค้ชก็มีส่วน โกลก็มีส่วน หน้าก็สากอีก กลางไม่ต้องพูดถึง กองกลางตัวรับ เป็นตำแหน่งที่ต้องเสริมไม่แพ้ เซนเตอร์ โชคดีที่ซัมเมอร์นี้ ปิดจ๊อบ ได้ตำแหน่งที่ต้องเสริมมาเกือบหมด แต่แปลกใจตรง ไม่เสริมแบคซ้ายนี่แหละ คาดหวังอะไร กับ ชอว์ และ มาลาเซีย ถ้าเป็นทีมอื่นที่ลุ้นแชมป์ ซื้อแบคซ้ายใหม่มาแล้ว ถ้าฟอร์มยังแบบนี้ไม่พ้น 3 เดือนโดนปลดแน่นอน รุด ได้คุมรักษาการณ์ จบฤดูกาลแน่ๆ แต่ถ้ากลับจากเบรคทีมชาติ แล้วทีมมีรูปแบบการเล่นชัดเจนขึ้น ได้ 11 ตัวจริงสม่ำเสมอ แล้วฟอร์มดี ก็ดูกันไปจนจบฤดูกาล แต่ดูแล้วฟันธงไม่น่ารอดพ้นจบ ธันวาปีนี้แน่นอน ถ้าฟอร์มยังแบบนี้