เห็นหูฟังที่อินฟลูเชียร์ๆกัน จะชูประเด็น noise cancelling มาก่อนเลย ยี่ห้อไหนตัดเสียงรบกวนได้มากสุดยี่ห้อนั้นคือ the best ส่วนเรื่องคุณภาพเสียงเป็นเรื่องรอง ตอนนี้หูฟังเขาแข่งกันเรื่องตัดเสียงรบกวนกันมากสุดแล้วใช่ไหมครับ

คุณภาพเสียงมันทำให้เห็นภาพยากไงครับ บางคนชอบเบส บางคนไม่ชอบ ความพึงพอใจล้วนๆ

ส่วน noice cancelling อันนี้วัดได้เลยอันไหนเงียบกว่า ตัดได้ดีกว่า

ถ้าถามว่าตัดเสียงรบกวนมากสุดใช่ไหม ก็ต้องตอบในมุมตัวเอง ว่าคงไม่ใช่ทั้งหมด แต่เป็นปัจจัยนึง

รบกวนแปะพวกลิ้งอินฟลูด้วยสิ ว่าไปฟังมาจากไหนอะไรยังไง

คุณภาพเสียงมันทำให้เห็นภาพยากไงครับ บางคนชอบเบส บางคนไม่ชอบ ความพึงพอใจล้วนๆ

ส่วน noice cancelling อันนี้วัดได้เลยอันไหนเงียบกว่า ตัดได้ดีกว่า

คุณภาพเสียง รสนิยมความชอบไม่เหมือนกัน

แต่การตัดเสียงอันนี้วัดได้ชัดเจนว่าใครดีกว่า

สมัยนี้คนใช้หูฟังแบบครอบคลุมการใช้งานมากกว่าใช้แบบเฉพาะเจาะจงน่ะครับ

ไม่ใช่แค่ฟังเพลง บางคนใช้ฟัง Podcast ระหว่างทำงาน ก็แทบจะไม่ได้ต้องเน้นเบส

บางคนใช้ประชุมงาน Zoom / MS Team หรือคุยสายโทรศัพท์ กดรับสายจากหูฟัง

ไหนจะใช้ Smartwatch กดรับสายจากนาฬิกาแล้วคุยได้เลย หูฟังเสียบหูตลอด แทบจะไม่ได้หยิบมือถือแล้ว

ANC จึงมีบทบาทในการชูโรงความพิเศษของหูฟังมากกว่า Equalizer Sound

เหมือนคุณภาพเสียงตอนนี้มันไปคอขวดที่ bluetooth นะมันส่งสัญญาณได้แค่นี้

ผมซื้อหูฟังมาประชุม เรื่องไมค์กับตัดเสียงรบกวน จำเป็นอันดับหนึ่งเลย
ส่วนฟังเพลง ถ้าหูฟังเกินพัน หูผมก็ไม่รู้สึกต่างกันเท่าไรแล้วครับ

เดี๋ยวผมเอามาโมให้มีมูลค่าสูงขึ้นดีกว่า

ว่าแต่หูเทพกันมั้ยครับ

เพราะอินฟลูที่ท่านพูดถึงส่วนมากไม่ใช่พวก audiophile/audio enthusiast

คุณภาพเสียงไม่ใช่เรื่องหลักที่อินฟลูสนใจอยู่แล้ว เค้าก็ต้องเน้นรีวิวที่ฟีเจอร์

ส่วนพวกที่เน้นเสียง ส่วนมากถ้ารีวิว tws เค้าก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องเสียงมากเท่าไหร่เพราะยังไงๆคุณภาพเสียงก็ไม่เท่าหูฟังที่มีสายในราคาใกล้ๆกัน



ยกตัวอย่างรีวิวหูฟัง bt ราคา30000โดยคนรีวิวที่เน้นเรื่องเสียง พูดถึง anc ในฐานะฟังก์ชั่นเฉยๆ เน้นรีวิวเสียงมากกว่า

คนที่ชอบงีบในที่สาธารณะ การตัดเสียงนี่เปิดโลกสุดๆเลย

เคยใข้ earbud โง่ๆมาเจอ inear อันครั้งแรกว่าเงียบแล้ว พอลอง ANC นี่คือสวรรค์จัด


นอกเรื่องไปไกล อย่างที่ยูสบนบอก เสียงมีความชอบไม่เหมือนกัน แต่เรื่องเงียบกับคุณภาพไมค์เนี่ยมันวัดได้ชัดอยู่

เดี๋ยวนี้มันเน้น all around ไม่ได้เน้นฟังเพลงอย่างเดียว ไมค์ดีๆ ตัดเสียงได้โคตรดีเลย ส่วนเรื่องเสียงแล้วแต่คนชอบอีก

ก็เพราะคนเราสนใจเรื่องพวกนั้นมากกว่า ผู้ผลิตก็เลยก็ต้องตอบสนองไปตามนั้นแหละ

อะ เล่ายาวหน่อยละกัน เช้านี้ว่างๆ

ถ้าเราพูดถึงการตัดเสียงรบกวน มันมาตั้งแต่หลายปีก่อนที่ TWS จะเกิดอีก ตอนนั้นมี Bose ที่ผูกขาดเลย ขายแบบคาดหัวที่จะเห็นพวกนั่งเครื่องบินใส่บ่อยๆ เสียงของ Bose เป็นเอกลักษณ์ของมันเอง ใครมีลำโพงหรือหูฟังจะรู้ว่าเสียงแบบนี้คือ Bose ไม่ได้บอกว่าเสียงแย่หรือเสียงดี แต่เอกลักษณ์ของมันเป็นแบบนี้ ละทำมา 20 กว่าๆปีก็แบบนี้ตลอด

ซึ่งการตัดเสียงรบกวนมันมีสองแบบ คือ Active Noise Cancelling (ANC) กับ Passive NC ซึ่งแบบ Passive เนี่ย มันคือการไม่ต้องใช้อิเล็กทรอนิกส์อะไรเลย อย่างการใช้จุกหรือคาดหัวมาครอบหู หรือเอามือไปปิดหูงี้
ส่วน ANC ก็ตรงกันข้าม ใช้อิเล็กทรอนิกส์ช่วย ปล่อยคลื่นเสียงต่ำมาหักกับเสียงภายนอก (เสียงสูงในปัจจุบันเข้าใจว่ายังทำไม่ได้มากนัก)

ถ้าถามว่าทำไมคุณภาพเสียงมันทำไม่ได้ดีนัก
ก็เพราะว่าคนส่วนมากไม่ได้สนใจเรื่องเสียงครับ เป็นตั้งแต่ยุคมีสายแล้ว ไม่งั้นหูขาว Apple มันจะยึดครองโลกได้เหรอ ทั้งๆที่เสียงแม่งกะละมังเคาะยังเพราะกว่าเลย
ทีนี้ส่วนมากคนโฟกัสก็เป็นเรื่องของการตัดเสียงรบกวนมากกว่า หารู้ไม่จริงๆแล้วมันไปด้วยกันได้
อย่าง Airpods Pro 2 กับ Galaxy Buds เองก็ถูกยกให้เป็น tws ที่เสียงดีสู้กับพวกมีสายได้ในระดับนึง
แต่ในเมื่อหลายคนไม่ได้ต้องการจะจ่ายแพงแบบนั้น และต้องการฟีเจอร์ที่ใช้งานอะไรงี้สะดวก คุณภาพเสียงก็เลยตกเป็นความจำเป็นอันดับท้ายๆโดยปริยาย

จริงๆก็ด้วยเรื่องของข้อจำกัดการออกแบบไร้สายนั่นแหละ ต้องใส่ทั้งแบต ทั้งบอร์ดในการเชื่อมต่อกับหูฟัง ฯลฯ มันก็เลยไม่มีที่ให้สำหรับฝั่งคุณภาพเสียงมากเท่าหูฟังแบบมีสาย ผลก็เลยออกมาเป็นแบบที่เราเห็นกัน

สรุปสั้นๆ : เพราะคนซื้อไม่สน + ข้อจำกัดเชิง Wireless = ไปเน้นฟีเจอร์อื่นแทนดีกว่า

กลุ่มลูกค้ามันมีหลายประเภทครับ และบางคนมีหูฟังหลายตัวแยกตามการใช้งานเลย

หูฟังที่ใช้ประชุม นี่ใช้ตัวไหนครับ แบตอึดมั้ย