สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับ ทาคายูกิ นิชิกายะ รับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี

การเซ็นสัญญาในครั้งนี้ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ ได้มอบหมายให้ ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อุปนายกสมาคมฯ เป็นตัวแทน

โดยก่อนหน้านี้ ฝ่ายเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ร่วมหารือกับ มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ถึงรูปแบบและแนวทางการทำทีมชาติไทย U23 ที่ต้องการให้สอดคล้องและสามารถยกระดับนักเตะสู่ทีมชาติชาติไทย ชุดใหญ่ อย่างต่อเนื่อง

ทาคายูกิ นิชิกายะ กล่าวถึงการเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติ และ มีความสุขมากที่ได้มาอยู่ที่นี่ ขอบคุณสำหรับโอกาสจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ โดยเฉพาะกับ นายกสมาคมฯ ที่ติดต่อผมเข้ามาโดยตรง ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อผม ทั้งหมดนี้จึงเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก และ อย่างที่บอก ผมยินดีอย่างมาก”

“ผมเคยมีโอกาสคุมทีมพบกับ ทีมชาติไทย แน่นอนว่าสำหรับผม ทีมชาติไทย เป็นทีมที่แข็งแกร่ง และ คู่ต่อสู้ที่ยากเสมอ ผมมองเห็นโอกาสที่จะเข้ามาพัฒนานักเตะไทย เพราะผมรู้ว่านักเตะไทยมีศักยภาพที่ดี โดยเฉพาะในเชิงเทคนิค และ ความสามารถเฉพาะตัว ในฐานะที่ผมเป็นโค้ชมากว่า 20 ปี ผมอยากใช้ประสบการณ์เข้ามาช่วยพัฒนา บรรดานักเตะเยาวชนไทยให้ดีที่สุด”

“ส่วนกับโค้ชอิชิอิ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ผมอยากทำงานร่วมกับโค้ชอิชิอิ เราจะพยายามสนับสนุนซึ่งกันและกัน รวมถึงพัฒนาไปฟุตบอลไทยไปด้วยกัน ทั้งนี้ ฝากแฟนบอล เป็นกำลังใจให้ผมด้วยครับ”

ปัจจุบัน ทาคายูกิ นิชิกายะ อายุ 51 ปี มีประสบการณ์ในการค้าแข้งกับ หลายสโมสรในเจลีก อาทิ นาโกยา แกรมปัส, อวิสป้า ฟุกุโอกะ, โตเกียว แวร์ดี้, เจฟ ยูไนเต็ด และ อัลบิเรกซ์ นีงาตะ

หลังจากนั้น ก็เริ่มเส้นทางสู่การเป็นผู้ฝึกสอน พร้อมผ่านการอบรมหลักสูตร JFA S-License ที่เทียบเท่ากับ AFC 'Pro' Diploma และได้ไปทำงานร่วมกับหลายสโมสร อาทิ มหาวิทยาลัยสึคุบะ, โตเกียว แวร์ดี้ U15, มหาวิทยาลัยชูเคียว, อัลบิเรกซ์ นีงาตะ, มิโตะ ฮอลลีฮอค, เอสซี ซากามิฮาระ, มัตสึโมโตะ ยามางะ และ ล่าสุดในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติสิงคโปร์ชุดใหญ่ โดยคุมทีมเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติไทย ด้วย ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2

ทั้งนี้ ทาคายูกิ นิชิกายะ ถือเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชาวญี่ปุ่น คนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ต่อจาก อากิระ นิชิโนะ โดยมีภารกิจสำคัญ ทำหน้าที่ในรายการ ฟุตบอลชาย ซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ในช่วงปี 2568

ขอแค่เวย์เดียวกับลุงอิอิอิ ก็พอจะดีหรือแย่ค่อยว่ากันขอแค่ สามารถคัดเด็กคุณภาพขึ้นชุดใหญ่ทดแทน เจ มุ้ยอุ้มตังได้ก็พอ

เยี่ยมเลย

ผมชอบนะการจัดโค้ชชาติเดียวกับชุดใหญ่ คุยกันง่ายไม่ต้องใช้ล่าม ทำให้การทำงานรวดเร็วและคนญีปุ่นแม้ว่าเบสิก

จะไม่สูงเท่าโค้ชยุโรป แต่ก็สูงในระดับเอเชียซึ่งสำหรับทีมชาติไทยระดับนี้ก็พอแล้ว ชอบความละเอียดของโค้ชญีปุ่น

ยิ่งทำงานกับคุณอิชิอิ ที่มีข้อมูลในมืออยู่แล้ว น่าจะเริ่มงานได้ง่ายขึ้นและปรับตัวได้เร็วขึ้น งานแรกก็คงซีเกมส์ปีหน้า

แชมป์เท่านั้น อยากให้อิชิอิดันเด็กชุด u23 ตัวหลักผสมกับชุดใหญ่ เพื่อสั่งสมประสบการณ์จะดีมาก

ผลงานที่ผ่านมา ไม่น่าเชื่อว่าเราจะเอา