กองกลางเป๊บจะเอาตัวเทคนิคสูง เสียบอลยากมากมาคุมเกมแดนกลาง ส่วนที่เหลือเคลื่อนที่ ไปไม่ได้กลับมากลาง

ปัจจัยหลักเลย คือกองกลางเทคนิคสูง

ลองเอานูเนส และ ฟิลิปป์ มายืนคู่เล่นโอเวอร์โหลดสิ ต่อให้แผนเป๊บเทพแค่ไหน ผมก็ว่าพัง

สกิลนักเตะส่งผลมาก ทำให้พลาดน้อยมาก

ที่สำคัญพลาดแล้ว ช่วยกันเอาคืนได้ไว

ส่วนตัวมองว่าเป๊บเล่นดุดันแบบผู้ดี ถึงตัวไว

ถึงตัวหนักๆ แต่ไม่น่าเกลียด เสียแค่ฟาวเพื่อชะลอเกม

เช่น ตัวเล็กๆอย่างแบร์นาโต้ เรื่องครองบอลโครตเก่ง

แต่เรื่องเอาบอลคืนก็ใช่ย่อย เหมือนจะเสียเหลี่ยม แต่กลับเรียกฟาวได้

ซิตี้จะพลาดเยอะหน่อย ก็ในยุคโอเล่ เจอผีสวนเอาๆ

ทีมทึ่เจอซิตี้ เล่นรับลึกสุดๆครับ สวนกลับเหลือ 1-2 คน ซิตี้เอาบอลคืนอย่างง่าย

แมนยูหลายคนตอนนี้ส่งบอลยังไม่แม่นเลย ไม่ต้องระดับลิเวอร์พูลหรือทีมอื่นที่เพรสเก่ง
หลายนัดปีก่อนที่แพ้ทีมท้ายตารางจุดเริ่มก็มาจากการส่งบอลพลาดง่ายๆ

ถึงเรียกว่าโอเวอร์โหลดเหมือนกันแต่รายละเอียดมันไม่เหมือนกัน
เป๊บนี่โอเวอร์โหลดแบบค่อยๆไปเป็นกลุ่มเป็นก้อนขึ้นพร้อมกันทั้งหลังกลางหน้า
ค่อยๆบิวท์อัพขึ้นกว่าบอลจะเข้าพื้นที่สุดท้ายมันเป็นการโอเวอร์โหลดเพื่อขึงเข้าทำ
ถ้าเสียบอลก็ช่วยกันไล่ตรงนั้นเลยบวกกับใช้กับดักล้ำหน้าเอา
และก็โดนสวนกลับอยู่ทุกเกมส์แลกกับการที่ได้ขึงแล้วทำประตูได้มากกว่า

แต่ของเทนฮากมันคือโอเวอร์โหลดแบบธรรมชาติบอลไดเร็ก
เวลาเจอทีมบุกใส่แล้วได้สวนกลับมันถึงจะเข้าแผนเอาบอลขึ้นหน้าไวเพราะโอเวอร์โหลดแดนบนรอไว้หลายคน
เน้นพวกความสามารถเฉพาะตัวเยอะเลี้ยงกินเองได้

ข้อเสียมี 3 อย่างคือ
1. บอลไดเรคมันมีความวัดดวงและพึ่งความสามารถเฉพาะตัวเยอะ วันไหนเข้าฟอร์มก็ดีไปวันไหนนักเตะฟอร์มตกก็แย่
2. ถ้าพวกแดนบนเสียบอลง่าย กลางจะโล่งแล้วโดนสวนกลับแบบอันตราย
3. ถ้าเจอทีมที่ไม่ได้บุกใส่แล้วแมนยูต้องไปขึงแมนยูจะเล่นได้ไม่ธรรมชาติเพราะแดนบนไม่ถนัดการค่อยๆเจาะ

แต่มีข้อดีคือเวลาเจอบอลสไตลส์เป๊บที่ขึ้นบอลช้าจะดูเข้าทางกว่า
เพราะบอลแนวเป๊บหลังลอย ทำให้ได้สวนกลับไวมีพื้นที่เล่นเยอะเน้นทำลายกับดักล้ำหน้าเอาตัววิ่งสอด
และถึงจะเสียบอลในแดนหน้าก็มีโอกาสโดนสวนกลับเร็วน้อยกว่า
เพราะหลายครั้งบอลแนวเป๊บจะโฮลบอลไว้แล้วค่อยๆบิวท์เกมส์
มันเป็นบอลที่เอาไว้แก้ทางบอลบิวท์อัพแต่ไม่เหมาะกับการเอาไว้ลุ้นแชมป์

มีโรดรี้ไง อ่านเกมดี ปิดช่องได้เยอะ คุมพื้นที่ได้กว้าง แถมจังหวะ 50-50 ชนะได้บ่อย ทั้งภาคพื้น ภาคอากาศ แกเก็บหมด เลยทำให้ทีมได้เปรียบมาก

นัดที่ไม่มีโรดรี้ สังเกตเลย บอลทะลวงถึงหลังเร็วกว่ากันมาก

ตัดฟาล์วเก่งครับ แผนนี้ใช้ตั้งแต่ก่อนมีโรดรี้เข้ามาในทีมแล้ว ตอนนั้นแฟร์นันดินโญ่รับจบ เสียบอลปุ๊บตัดฟาล์วทันทีและไม่ค่อยโดนใบเหลืองด้วย จนอยากให้แกเขียนหนังสือออกมาเลยว่าฟาล์วยังไงให้ไม่โดนใบเหลือง

ไม่เสียในตำแหน่งที่ไม่ดี

เอาตามความจริง มีโดนบ้างแต่น่อย

พอเสียบอลปุ๊ปจะรีบตัดฟาวน์เล็กๆปั๊ป ไม่โดนใบเหลือง
เเพราะรีบตัดมันยังไม่อันตราย


มั๊งนะเพราะไม่ค่อยตามดูซิตี้เท่าไหร่

เพราะการ Overload ของเป๊ป อาศัยขึ้นเกมเป็นเชพมีรูปแบบในการขึนเกมเสถียรกว่า

ถ้าเทียบให้เห็นภาพ เป๊ปใช้โรดี้เป็น DLP ในการขึ้นเกมช่วยบิ้วท์อัพรอผู้เล่นโอเวอร์โหลด รอผู้เล่นขยับคนอื่นขยับเข้าพื้นที่

แต่เทน ฮาก ใช้คาเซเป็น Regista ได้บอลเห็นช่องปุ๊ปแทงเลยจ่ายเลย โดยที่เพื่อนแม่งวิ่งหน้าตั้งขึ้นหน้าอย่างเดียว ถ้าพลาดก็โดนลงโทษแบบเมื่อวาน

ซิตี้เค้าเสียบอลยาก แถมค่อยๆ โอเวอร์โหลดด้วยการต่อบอลขึ้นไป ไม่ใช่รีบวิ่งไปกองกันอยู่แดนบน 6 ตัว แล้วรอกองกลางวางยาวไปให้แบบแมนยูทำ จริงๆ ในเกม FM ถ้าใครเคยเล่นมันมีศัพท์ที่ใช้เรียกนะ แบบซิตี้คือ Attacking overload ของจริง ส่วนแมนยูมันเหมือน "Gung-Ho" บุกอย่างบ้าคลั่งไปกองกันแดนบนรอสาดยาวไปให้มากกว่า ไอ่แท็คติก Gung-Ho นี่แหละใช้เมื่อไหร่เจอทีมเล็กตัดบอลสวนกลับทีเดียวโดนหมัดน็อคเสียประตูทุกที

คุณภาพนักเตะ

เพราะ เล่นช้าไง 3 ทีมที่เล่นช้าที่สุดปีที่มี man city arsenal brighton


ลดโอกาสที่เราจะได้สวนเค้า แลกกับการที่เราไม่โดนสวนกลับ เพราะ อีกฝั่งก็ต้องลงไปรับลึกขึ้นแทน

ของเทนฮาคมันแนวจะสวนเร็วด้วย จะเอานักเตะขึ้นไปด้วย ก็คือถ้า casemiro ไม่พลาดมันก็คือ jackpot แตกอ่ะ ตัวรุกเรามันจะเยอะกว่าคู่แข่ง แต่แค่มันไม่เคยส่งผ่านแค่นั้น หรือ นานๆที

Position คนละแบบ ของ Pep จะ Compact กว่า จะ Build แบบ 3-2-2-3 หรือ 3-2-1-4
เวลาพลาดยังเหลือตัวผู้เล่นเกมส์รับ 4-5

ส่วนของ ETH เวลาเล่น Build ไลน์หลัง-กลาง-หน้า ห่างกันมาก แทบจะ Overload เป็น 2-1-3-4 หรือ 2-2-3-3
พอพลาดแนวรับจะเหลือแค่ 3-4 คน เพราะตำแหน่งอื่นยืนสูงไปรอรับบอลจนลงมาไม่ทันแล้ว

ถ้าคู่แข่งท็อปฟอรม เป๊บก็โดนครับ
ลองดูรอบชิง FA Cup ครับ บอลเป๊บสู้บอลไอ้โล้นไม่ได้เลย