สปสช.บอก"รพ.ไหนขาดทุนบอกกุด้วย ไม่มีข้อมูล"
อยากขอให้ดูให้จบ แล้วจะรู้ว่าผมหงุดหงิดกับไอ้นี่แค่ไหน
เริ่มนาทีที่ 19 นะครับ

นี่วิสัยทัศน์ผู้นำองค์กรนี้ นี่มรึงไม่รู้อะไรเลยจริงดิ
อาจารย์พูดตรงใจมาก นาที 21 เป็นต้นไป "คุณอยากได้รถเบนซ์ แต่เบิกได้รถตุ๊กตุ๊ก"
"การช่วยเหลือคน ช่วยเกินงบไปแล้ว แต่สปสช.ตัดจบว่าเบิกไม่ได้ จะให้ทำไง"
สุดท้าย มาหงุดหงิดกับไอตัวสัมภาษณ์สุดท้ายนี่ง่าวสุดละ
1. คนปรับราคายา ราคาเวชภัณฑ์ที่สูงขึ้น ไม่ใช่หมอในรพ. มันคือบ.ยาเว้ย แล้วมันขึ้นทั้งโลกไมใช่ประเทศนี้
2. ยาที่ดี คือยาที่นำเข้าจาก ตปท. เพราะอะไร เพราะประเทศนี้ไม่สนับสนุนการวิจัยยาที่ดีไง ถนัดซื้อถนัดจัดจ้างไง ก็ไม่มีนวัตกรรม นอกจากรอซื้ออย่างเดียว พอหมดเงินก็ตัดงบออก
3. รู้ได้ไงว่าเค้าไม่พยายามเอายาดีๆเข้าบรรชียาหลัก ทุกวันนี้ บัญชียาหลัก ตัดออกมากกว่านำเข้าแล้วมั้ง เพราะอะไร มันไม่มีงบจะจ่ายราคายาคุณภาพดีไง แถมตอนนี้ บัญชียาหลักมีแต่สมุนไพร เอ็งอยากได้ใช่มั้ยละ ยารักษาโรคกระเพาะดีๆ กับ แจกขมิ้นชันไปวันๆ ที่พวกเอ็งมาดราม่าใส่รพ. ว่ากินไม่หายนั่นแหละ
4. อยากได้เท่าเทียมในอุดมคติ ช่วยกลับมาดูสภาพท้องพระโรงประเทศตัวเองก่อน งบทหารไม่เคยตัด เอ็งตัดงบรพ.รัฐไปทำดิจิตัล ไปแจกตังค์ เยี่ยมจริงๆ
5. ส่วน health promotion เลิกบ้ากับมันได้แล้ว ประเทศนี้ไม่เรียนรู้การดูแลสุขภาพตัวเองมาตั้งแต่ประถม แบ่งงบ primary care ไปช่วย secondary ให้มากขึ้นดีกว่า ส่งเสริมๆๆมาจะสามสิบปีแล้ว เบาหวาน ความดันเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดทุกปี เสียเวลา เสียเงินทำไม
6. แล้ว option ที่เสนอ คือ ให้เฉพาะคนที่จ่ายได้ จ่ายซะ ไม่ใช่ว่าบังคับทุกคนจ่ายราคา max แล้วตอนนี้คือ บัตร 30 บาท ปัญหาหลักคือคนจ่ายไม่ได้ ก็จ่ายไม่ได้จริงๆไม่ว่ากัน แต่คนจ่ายได้ เอ็งก็ไม่ช่วยจ่าย กองทุนมันเลยพังมาตลอดไง
ข้อเสนอผม สิทธิ 30 บาท ใช้เฉพาะผู้มีรายได้น้อยเท่านั้น (จะสามสี่ล้านคน ว่ากันไป) ปรับเทียร์รายได้ระดับกลางขึ้นมาเป็น สิทธิ 100 บาท เงินมากขึ้น 500 บาท option โตขึ้นเป็นขั้นบรรได ผมว่ามันจะอยู่ได้กันทุกฝ่าย ทั้งคนไข้ ทั้งรพ ไม่ต้องมานั่งเถียงกัน
ปล. แต่ทักษิณไม่ทำหรอก เพื่อไทยก็เช่นกัน

เผลอๆ พรรคประชาชน ก็ยังไม่กล้า ไม่งั้นมีม็อปประชาชนลงถนนแน่