คหสต. ครับ

ข้อดี
- เวทีใหญ่ จอใหญ่สะใจดีครับ ชอบมาก
- คนน้อย ทำให้เรามุดเข้าไปหาศิลปินที่ชอบได้แบบสบายๆและใกล้มากกกกก
- ศิลปินดีมากครับ งานเป็นยังไงไม่รู้แต่ศิลปินดีมากจริงๆ ดีทุกวง ที่ชอบสุดคงเป็น Suede และ Yoasobi

ข้อเสีย
- ออกจากงานหลัง 17:00 เข้างานใหม่ไม่ได้นะครับ (เพื่อ?)
- ราคาเบียร์แพงมาก อาหารแพงมาก และมีให้เลือกน้อยมาก
- แบ่ง Tier ขายบัตรไปเพื่ออะไร ไมไ่ด้ Benefit อะไรที่มันรู้สึกคุ้มค่าเลย สรุปคนซื้อ Silver คุ้มสุดครับ หรือไม่ก็ VIP ไปเลย ที่ได้โซนพิเศษหน้าเวทีน่าจะคุ้มๆ
- วันที่ 2 ศิลปินเลทไปประมาณ 1:20 ชมครับ ทำให้งานจบช้าลง และมีการหั่นเวลาแบบเนียนๆประมาณวงละ 5-10 นาทีครับ
- งานนี้ไม่ถือว่าเป็นงาน Festival ครับ มันคืองานคอนเสิร์ตธรรมดาๆครับ ไม่มีกิจกรรมอะไรเลยในงานระหว่างรอศิลปินหรืออะไรก็ตาม เทียบอะไรไม่ได้กับงาน Fest ในไทยอื่นๆเลยสักนิดทั้งที่ IP นี้มันเกือบจะระดับโลกแล้วนะ
- แอร์หนาวโคตรๆๆ ไม่มีที่ให้พักสูดอากาศเลย

สรุป
จากประสบการณ์การดูคอนเสิร์ตและเฟสติวัลมาเป็นสิบปี อยากขอบคุณที่นำงานระดับนี้เข้ามาในไทยนะครับ แต่ถ้าเกิดว่าไม่พร้อมจริงๆ อยากให้เลื่อนไปก่อน หรือจ้างผู้เชี่ยวชาญกว่านี้มาจัดจะดีกว่าครับ หรืออย่างน้อยๆช่วยฟังคอมเม้นท์คนที่เข้าไปด่าในเพจก็จะดีครับ ความเชื่อมั่นมันพังไปตั้งแต่ประกาศผังออกมาแบบแบ่งโซน 4 โซน พร้อมมีโซน VVIP แบบงาน EDM (นึกภาพคือเวลามีคนสั่งเหล้าก็จะมีสาวๆถือพลุมาฉลองอะครับ โคตรจะไม่เข้ากับงาน 555) สถานที่ก็ไม่เหมือนงานเฟสเลย ศิลปินก็ไม่ชัดเจน ใครจะมาบ้างก็บอกไม่หมด ศิลปินที่ประกาศแล้วก็ไม่บอกว่าเขาเล่นวันไหน (แต่ขายบัตรแยกวันนะ 555) ถ้าดีลศิลปินยังได้ไม่ครบ อย่าพึ่งประกาศจะดีกว่าครับ แค่นี้ความเชื่อมั่นมันก็หายหมดแล้ว ส่วนตัวคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมันเลยกลายเป็นลูกโซ่ ทำให้บัตรขายไม่ออกตามเป้า เลยถูกลดสเปคศิลปิน ลดเวลาศิลปิน ลดเวทีเหลือเวทีเดียว กับอีกหนึ่งเวทีแถมที่โคตรจะเล็ก

ในส่วนของเวทีเล็ก
ศิลปินบนเวทีเล็กคือดีมากๆนะครับ คุณภาพทุกวงเลย แต่ถ้าเทียบกับแบรนด์ Summer Sonic ผมแค่คาดหวังว่าจะได้ศิลปินไทยเบอร์ใหญ่กว่านี้ หรือที่เข้ากับตีมงานกว่านี้ หรือได้ศิลปินนอกที่ยังไม่ดังมาก เพื่อเปิดประสบการณ์ฟังเพลงใหม่ๆ หรือการมึ Set Up เวทีที่มันดีกว่านี้ ใหญ่กว่านี้ สมเกียรติชื่อแบรนด์ Summer Sonic อันนี้คือเข้าฮอลไปเจอเวทีเล็กผมตกใจเลยนึกว่ามาผิดงาน ผมชอบการที่ไปงานเฟส แล้วได้เดินไปเวทีรองๆแล้วเจอศิลปินเจ๋งๆที่เราไม่รู้จักมากๆเลย ถ้าจะจัดได้แค่นี้ ตัดเวทีนี้ออกไปเลยดีกว่านะ





ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับงาน มันก็คืองานคอนเสิร์ตทั่วๆไป แต่ด้วยชื่อแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่มากๆ เลยคาดหวังสูง และการจัดการแบบงงๆตั้งแต่วันประกาศจนถึงวันงานนั่นแหละครับคือปัญหา ยิ่งก่อนหน้าวันงานไม่กี่วันดันมาประกาศว่าไม่ให้ออกไปนอกงานหลัง 17:00 ผมมองว่าไร้สาระมากๆ งานจัดในฮอลหนาวเหน็บ อาหารการกินมีน้อยและแพง มันทำให้ประสบการณ์การมาร่วมงานแย่มากๆเลย เหมือนพาตัวเองมาทรมาน ทั้งหนาวและหิว ผมอดดู Phum Viphurit / Lovejoy / Henry Moodie เพราะรู้ว่าถ้าเข้าไปดูแล้วจะออกไม่ได้ ทรมานตัวเองเปล่าๆ เลยขอไม่ดูดีกว่า

หวังว่าผู้จัดจะเอาคอมเมนต์ชาวเน็ตไปปรับปรุงเยอะๆๆๆๆๆๆเลย เพื่องานปีหน้านะครับ (ถ้าได้จัด)

สองประโยคสุดท้าย
หวังเช่นกันครับ

ถ้าไม่พร้อมก็ยังไม่ควรจัด
เฟสไทยหลายอันยังจัดกิจกรรมดีกว่า

ปกติผมดูแต่คอนเดี่ยว เลิกไปเฟสติวัลนานมาห

อยากสอบถามว่า โดยปกติแล้วเอกลักษณ์ของ summer sonic ที่ญี่ปุ่นคืออะไรเหรอครับ คือมาไทยแล้วดูธรรมดามาก ไม่มีเอกลักษณ์ใด ๆ เลย

ใช่ครับ ยังไงปีหน้าถ้าดีลศิลปินมาดีก็คงไปครับ ถึงงานจะห่วย แต่มันเทียบกันไม่ได้เลยกับการที่เราจะมีโอกาสได้ดูวงที่เรารักสักครั้ง 555 ได้แต่หวังว่าปีหน้าจะดีขึ้นครับ

ผมว่าtimingมันไม่ค่อยดีเลยครับ มันทับกับงานเฟสของญี่ปุ่นหลายงานอยู่นะถ้าผมเชคไม่ผิดทำให้ศิลปินจากญี่ปุ่นมาน้อย(หรือเปล่า) ผมว่าในไทยจัดช่วงๆสงกรานต์ไปเลยก็น่าจะดีกว่าไหมครับให้มันมีอารมณ์summerจริงๆในไทย
สิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจไม่ไปมีอย่างเดียวเลยจริงๆคือวงญี่ปุ่นน้อยไปครับ

จริงๆผมชอบ timing นี้นะครับ จัดต่อจาก SS ที่ญป เลยครับ ถ้าดีลศิลปินแบบยกเซ็ท ญป มาได้ หรือสักครึ่งนึง น่าจะไฮป์มากๆเลยครับ

ทำไมในรูป งานดูกระจอกจัง

เวทีเล็กครับ เข้าไปในงานถึงกับตกใจ 555

อีก 1 ข้อดี คือ ห้องพัก ผมเต็ม ขอบคุณครับ

จัดอิมแพคกันเยอะๆ ครับ

ผมไปที่โตเกียวมาปีก่อนงานที่ญี่ปุ่น Scale ใหญ่มากครับ มีประมาณ 6-7 เวที เวทีหลักอยู่ในสนามเบสบอล เวทีรองมีทั้ง Indoor ที่อยู่ใน Hall และ Outdoor Beach Stage ที่อยู่ริมหาด ความสนุกคือการที่มีหลายเวทีและมีหลายศิลปิน ทำให้ใน 1 วันเราต้อง Manage เวลาตั้งแต่เช้าว่าอยากดูศิลปินไหนแล้ววางแผนสลับสับเปลี่ยนเวทีสนุกดีครับ แล้วผมไปคนเดียวเวลาไปยืนดูก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนรอบข้างๆเหมือนได้มีเพื่อนใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกครับ รอบๆงานก็จะโซนร้านค้า Merchandise ร้านอาหาร ลานกิจกรรมอะไรต่างๆมากมายครับ ซึ่งร้านพวกนี้เค้าจัดการกระจายตัวได้ดีมากไม่มีการต่อคิวรอยาวเพราะมีหลายจุด แถมยังมีพื้นที่เปิดหมวกเหมือนเป็นเวทีที่เล็กๆแบบให้ศิลปินที่เป็นเยาวชนยังไม่มีชื่อเลยเป็นเด็กน้อยมาแสดงความสามารถก็มีครับ ปีก่อนโดยรวม Line-Up ดีมากด้วยครับ ได้ดู Blur, Liam Gallagher, Kendrik Lamar, Fallout boy แค่นี้ก็คุ้มค่าบัตร 2 วัน 8000 แล้วครับ ยังไม่นับพวกวงดังๆอื่นๆเช่น Two door, The kid laroi, Yoasobi, Inhaler, Pale waves, Newjeans, Babymetal และศิลปิน Local ญี่ปุ่นอีกเพียบ ถ้ามีโอกาสอยากให้ไปครับ คนละเรื่องกับงานที่ไทยเลย อีกเรื่องที่ชอบคือคนญี่ปุ่นแทบจะไม่ยกโทรศัพท์ถ่ายเลยครับเค้าจะอินกับการแสดงมากซึ่งโคตรตรงจริตผมเลย

ดูในรูปนึกว่างานฟรีที่จัดในห้างเล็กๆอับๆ

มันอันเดียวกับ Sonic bang เมื่อ 10 ปีที่แล้วปะ คุ้นๆ

น่าจะได้ครั้งเดียว ถ้าจะจัดให้เจ้าอื่นที่เขามืออาชีพจัดเหอะ

เข้าไปดูโปรไฟล์ผู้จัดมา แทบไม่เคยจัดอีเวนท์ไรแบบนี้เลย คนจัดก็เพื่อนอุ๋งอิ๋ง อยู่ในไอ้กรรมการซอฟพาวเวอร์นั่นแหละ

โชคดีที่ไม่กดบัตรเพื่อ โยอาโซบิ วงเดียว ประกาศมาไทยพอดี

คนละอันครับ อันนั้น BEC TERO จัดครับ อันนั้นก็น่าเสียดายครับมาผิดเวลาไปหน่อยตอนนั้นคอนเสิ์รตในไทยน่าจะไม่บูม จัดปีเดียวเลิกเลย