[RE: สลดรับวันแม่!ใช้โซดาไฟล้างท่อตัน ตายยกครัว 3 ศพคาห้องน้ำ]
mmdsadd พิมพ์ว่า:
Spoil
[AXiS]`NEW พิมพ์ว่า:
ตอนแรกเอะใจว่าโซดาไฟมันเป็นเบส ไม่น่าจะเกิดปัญหาเรื่องแก๊สคลอรีนเหมือนน้ำยาล้างห้องน้ำกับฟอกขาว
พอได้ยินว่ามีกลิ่นเหม็นรุนแรงปุ๊ป อ่อแก๊สไข่เน่านั่นแหละ
อันตรายพอสมควร จริงๆแอบเคืองนิดหน่อย หาน้ำยาในคลิปเจอละ แต่ขวดมันไม่บอกแม้แต่สูตรว่าใช้อะไรบ้าง (โคตรผิดกฎเลย ปกติต้องบอกกรณีอุบัติเหตุกินเข้าไป (ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่) ทางโรงบาลจะได้ทราบว่าเป็นสารอะไร)
อันนี้คือแบบเดียวกับพวกที่ลงท่อน้ำทิ้งแล้วเสียชีวิตอะครับ แบบเดียวกันเลย
ถ้างั้นน่าจะไม่เกี่ยวกับโซดาไฟใช่ไหมครับ เห็นข่าวอัพเดทว่าเป็นแก๊สไข่เน่าจากบ่อเกรอะ (เข้ามาทางท่อเยอะขนาดนั้นได้ไง

)
เอาจริงๆปัญหาเรื่องนี้อยู่ตรงน้ำยานี่แหละครับว่ามันคืออะไรกันแน่
คือในบ่อเกรอะมันมีแก๊สไข่เน่าอยู่แล้วจากแบคทีเรีย แต่มันเป็นตัวที่น้ำหนักค่อนข้างเยอะ (หนักกว่าอากาศ) การที่มันจะพุ่งขึ้นบ้านชั้น 2-3 นี่เป็นไปได้ยากนะ
น่าจะเป็นเพราะส่วนผสมระหว่างน้ำยานี่ (ซึ่งผมเดาๆว่าน่าจะเป็นน้ำยาฟอกขาวที่ใช้ซัลเฟอร์) กับ โซดาไฟนี่แหละที่ทำให้เกิดแก๊สไข่เน่า
UserBlue พิมพ์ว่า:
Spoil
ผมดูคลิปไม่ได้ (ไม่มีลำโพง)
แต่สงสัยว่าเคสนี้คือพอมันผสมกันแล้วมันเกิดแก๊สพิษ สูดปุ๊บตายเลยเหรอครับ ไม่สามารถวิ่งออกมานอกบ้านเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ได้เหรอ หรือว่าสูดแล้วสลบแล้วค่อยตาย หรือนอนหลับเลยสูดเข้าไปเต็มๆ
แก๊สพิษจริงๆความร้ายแรงมันอยู่ที่ 2 เรื่องคือ 1. ความเข้มข้นที่ได้รับ 2. ความร้ายแรงของตัวมันเอง
แก๊สไข่เน่าจริงๆถือว่าอันตรายน้อยกว่าแก๊สพิษที่เราได้ๆยินเยอะครับ
ที่เขาใช้ตัววัดคือ LC (Lethal Concentration; ระดับความเข้มข้นที่เป็นอันตรายต่อชีวิต) ซึ่งจะบอกว่าที่คขขเท่าไหร่และใช้เวลากี่นาทีถึงจะเสียชีวิต (ปกติที่เขาใช้หนูไรงี้ทดลองก็นี่แหละ)
แก๊สคลอรีนที่โด่งดังกัน อันนั้นที่ 30 นาทีใช้ความเข้มข้น 400 ppm (part per million, อัตราส่วนต่อล้าน)
แก๊สไข่เน่าจะใช้ที่ 600 ppm ที่เวลาพอๆกัน
ส่วนแก๊สที่นาซีใช้ตอนสงครามโลกที่สังหารหมู่ชาวยิวอย่างไฮโดรเจนไซยาไนด์ อันนั้น 10 นาทีแค่ 100ppm ก็ม่องแล้วครับ
หรือที่เราเห็นข่าวบ่อยๆอย่างคาร์บอนมอนออกไซด์ อันนั้นต้องโดนไประดับ 4000ppm นู่นเลย
จริงๆสิ่งที่ทำให้คนเสียชีวิตกับแก๊สอะไรพวกนี้มากที่สุด เป็นเพราะไม่รู้ว่าโดนมากี่นาทีแล้วและปริมาณเท่าไหร่
อย่างคนมุดในท่อ เขามีกำหนดเวลาต้องขึ้นมากันแล้วครับเพื่อรับอากาศดีเข้าไปเจือจางแก๊สพวกนี้ลง (ปอดคนเรามันเทพอยู่ละ) เพราะว่าพอเวลาผ่านไปเรื่อยๆจมูกชินกับกลิ่นเน่าปุ๊ป ก็ไม่ทราบละว่ารับ dose เข้าไปแรงขนาดไหน
กรณีของอันนี้ผมเดาว่าคงได้กลิ่นนั่นแหละแต่คงคิดว่าเป็นกลิ่นเหม็นธรรมดาแล้วก็ขัดกันต่อไป สุดท้ายพอแก๊สมันเต็มห้องน้ำ จะลุกไปเปิดก็คงไม่มีแรงแล้วก็เป็นอย่างที่เห็น
ทุกครั้งที่บ้านผมจะล้างห้องน้ำ ผมก็เลยเด็ดขาดว่าต้องลากปลั๊กแล้วเสียบพัดลมอัดเข้าไปให้อากาศมันถ่ายเทตลอด