ตอนสมัครมีให้ใส่รหัสบัตรด้านหลังด้วย มีแสกนใบหน้าอีก กลัวมิจฉาชีพมาก เห็นข่าวแล้วระแวงกลัวโดนดูดเงินหมดบัญชี ใครมีความรู้มั่ง

มิจฉาชีพ มันสามารถใช้ช่องโหว่อะไรจากแอพนี้ ไปแฮคข้อมูล หรือ ดูดเงินจากบัญชีธนาคารเราได้ไหม แต่เอาจริง

ทุกวันนี้ คอลเซเตอร์ มันก็มีข้อมูลเราเยอะมากอะ อย่าง พ่อ แม่ ผมเป็นข้าราชการนี่มันโทรมามีข้อมูลหมดเลย

เป๋าตังดีกว่าหมดทุกด้าน

ตัวแอปมันไม่ได้แย่นะ ผมว่าดีเลยแหละ มันเชื่อมต่อกับแอปอื่นๆ คือใช้แอปเดียวครบเลย เครดิตบูโร ทะเบียนรถ ไรงี้

ต่อให้ไม่ลงทะเบียน แอพทางรัฐ

ข้อมูลที่มีกับหน่วยงานราชการ ผมว่า มิจฉาชีพมันก็รู้ครับ

ดังนั้น ไม่ต้องกลัวเรื่องนี้เลย ในความคิดผม

ปลอดภัย เพราะ ข้อมูลหลุดตั้งแต่หมอพร้อม ไม่มีอะไรให้หลุดแล้ว

ปลอดภัยกรณีไม่โดนแฮกคับ

เข้าใจว่าใส่หลังบัตรเพื่อยิงไป ver กับ DOPA ว่าบัตร ปชช นี้ valid ไหมครับ เป็นการทำ eKYC ถ้าปกติยิงเสร็จก็ทิ้งครับไม่ได้เก็บเลขหลังบัตรไว้


ส่วนข้อมูล ไม่ต้องกังวลแอพนี้หรอกครับ แอพอื่นมันรั่วไปเยอะละ

ถ้าเป็นแอพของรัฐ ผมว่ามันก็ต้องรับผิดชอบระดับนึงนะ ถ้ามันหลุดแบบหมอพร้อม

ผมว่าก็ไม่มีแอพไหนไม่หลุดอะ เป๋าตังก็หลุดได้ เพราะเจ้าหน้าที่เอาไปขายเอง

อย่าถามว่าปลอดภัยไหม ต้องถามว่าเหลือที่ไหนที่ยังปลอดภัยอยู่บ้างดีกว่า

ต้องถาม 9arm เจาะได้ไหม

ถ้ามิจฉาชีพเช็ค บช ผม เค้าอาจจะสงสารจนต้องโอนเพิ่มให้ก็ได้นะ

จริงๆมันก็ได้อยู่นะครับคิดว่า ไหนๆมันก็พ่วงกับระบบของรัฐหลายอันมาก ถ้าพังจริงๆคิดว่าคงมาจากเวปอื่นพังแล้วสาวมาถึงตัวทางรัฐมากกว่า (แต่เดาๆว่าในเชิง ComSec น่าจะยากอยู่มั้ง)

hacker พร้อมเจาะแต่จะเอาอะไร

คนไทยมี Digital Literacy ต่ำพอเข้าใจได้
แต่เราผ่านการยืนยันตัวตนกันมานานแล้ว ยังไม่เข้าใจหลักการยืนยันตัวตนกันเลย
อาจจะต้องปูพื้นฐานเรื่องพวกนี้ให้กับประชาชนตั้งแต่เด็ก


หลักในการทำธุรกรรมดิจิทัล ต้องให้ยืนยันตัวตนเพื่อระบุได้ว่าธุรกรรมนั้นๆกระทำได้โดยใคร

ซึ่งในประเทศไทยผู้ที่ถือข้อมูลทะเบียนราษฏ์คือ กรมการปกครอง
กรมการปกครอง สามารถบอกได้ว่าเราเป็นใคร เขามีข้อมูลเราอยู่แล้ว


ต่อมาบริการใดๆที่ต้องให้ลงชื่อ หรือยืนยันตัวตน
เพื่อที่จะตอบสนองได้ถูกต้อง ประชาชนตัวแจ้งว่าตัวเองเป็นใคร
จากสิ่งที่จะมีแค่คนที่ถือบัตรประชาชนเท่านั้นที่รู้

เช่น เลขประจำตัวประชาชน ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด และรหัสหลังบัตร
การยืนยันตัวแบบนี้สามารถระบุตัวตนได้แล้ว เรียกว่า IAL 1
แต่การยืนยันตัวตนแบบนี้ ยังมีความไม่ปลอดภัยอยู่ ถ้าหากมีการขโมยบัตรประชาชนไป

จึงต้องตรวจควบคู่กับชีวมาตร เช่น ใบหน้า ลายนิ้วมือ เพื่อยืนยันว่า คนที่ทำธุรกรรมกับเจ้าของเข้ามูลเป็นคนๆเดียวกัน
การยืนยันนี้เป็นการยืนยันตัวตนขั้นสูงสุด IAL 2 ซึ่งถูกบังคับใช้ในกฎข้อบังคับของธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าหากใครกระทำการใดๆที่ยุ่งเกี่ยวกับการเงิน
ต้องทำการประมวลผล e-KYC หรือการพิสูจน์ให้ทราบว่าลูกค้าเป็นใครเพื่อป้องกันการฟอกเงิน


จากคำถามที่ถามว่าเราให้ข้อมูลไปทำไม
1. เพื่อบอกกับคอมพิวเตอร์หรือระบบว่าเราเป็นใคร มีตัวตนจริงในทะเบียนราษฎ์หรือไม่ ป้องกันการทำธุรกรรมจากหุ่นยนต์
2. เพื่อลงชื่อรับสิทธิ์หรือสวัสดิการที่ส่งตรง ในกระบวนการภาครัฐ การเบิกเงินมาทำโครงการใดๆ เมื่อจ่ายถึงใคร เขาผู้นั้นต้องเซ็นชื่อเบิกเงินไป เราจึงต้องยืนยันตัวตนว่าเราเบิกเงินนั้นไปใช้

----

ระบบใดๆเกิดจากกระประมวลผลของคอมพิวเตอร์
ลองนึกสภาพว่าเราต้องการดู ยิดเงินในบัญชีของเรา

ระบบถามเราว่าเราเป็นใคร เราไม่ตอบไม่บอก ไม่ให้
แล้วระบบใดๆบนโลกจะ ตรัสรู้ได้อย่างไร ว่าลูกค้าที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นใคร แล้วจะไปหยิบข้อมูลอะไรให้

ถ้าไม่ต้องการยืนยันตัวตน โดยสามารถให้ข้อมูลคนอื่นได้ ก็ไม่ถูกต้องเพราะระบบนั้นจะไม่มีความปลอดภัยเลย ความเป็นส่วนตัวถูกขโมยโดยใครก็ได้ ซึ่งไม่ต้องยืนยันตัวตนมาเอาไป

แอพมันไม่ได้เกี่ยวกับอะไรที่ทำให้เอาเงินออกไปได้นี่ครับ
มันมีข้อมูล แต่ข้อมูลพวกนี้รัฐก็มีอยู่แล้ว แล้วเอาจริงก็หลุดไปเยอะแล้ว
แค่เตือนตัวเองและคนรู้จักว่า เวลามีโทรศัพท์มาอ้างนั่นนี่ ต่อให้บอกข้อมูลถูกต้องทุกอย่าง ก็อย่าไปเชื่อ
บอกเดี๋ยวติดต่อกลับไปเอง

ที่พลาดกันเพราะเชื่อข้อมูลที่พวกมิจมันเอามาบอก เลยคิดว่าเป็นของจริง