คบกันมา 13 ปี แต่งงานมา 3 ปี

ภรรยาเงินเดือน 70,000 (คบมาตั้งแต่เค้าเงินเดือน 18,000)
Life style ก็ติดดินเน้นของมือสอง ไม่ชอบแบรนด์เนม

ผมฟรีแลนซ์ ก่อนหน้านี้ รายได้ 3-40,000
ที่ผ่านมา….
ค่าผ่อนบ้านภรรยาจ่าย ซื้อชื่อเค้า
ค่าน้ำไฟ เน็ตบ้าน ผมจ่าย
ค่ากินสลับๆกันจ่าย
ราบรื่นดีครับ

แต่ 1 ปีที่ผ่านมาผมเปลี่ยนสายรับงาน (เปลี่ยนเพราะมีลูก) ทำให้งานน้อยลงมาก

เดือนที่แล้วมาเป็นครั้งแรกที่ขอเงินเค้า
บอกเลยว่า จิตตกมาก แต่ภรรยาเข้าใจ อาจเพราะผมเลี้ยงลูกด้วยและมีพ่อแม่ผมมาช่วย

แต่ผมก็พยายามทำให้เค้าเห็นนะว่าเรากำลังพยายามดื้นรนอยู่ ไม่ได้อยู่ชิลๆ

ความสัมพันก็ยังดีไม่มีปัญหาครับ เพราะคุยเรื่องนี้กันเป็นระยะ

หวานเจี้ยฟ

ส่วนตัวผมว่าไม่มีปัญหานะในวันที่มีตัง วันที่มีปัญหาส่วนมากจะมาในวันที่ไม่มีตังมากกว่า

ช่วยตามสัดส่วน ทำหน้าที่ของเรา ขยันทำงาน

อย่าไปด้อยค่าตัวเองเรื่องเงินครับ มันจะอยู่กันยาก

การที่เค้าเลือกเรามันก็ชัดเจนว่า เงินไม่ใข่ทุกสิ่ง

ตามด้านบน ตอนมีตังไม่มีปัญหาหรอก ตอนกรอบๆกันตกงานกันนี่แหละ ค่อยมาลุ้นเอา

แต่จริงๆช่วงมีงานทำก็แบ่งเก็บเงินลงทุนไปด้วยก็คงพอรอดได้แหละมั้ง เที่ยวน้อยๆหน่อย

อยู่ที่ไลฟ์สไตล์อะแหละ ถ้าเข้ากันได้ ใช้ชีวิตด้วยกันได้ ก็ไม่น่ามีอะไรติด

ต้องถามว่าคุณตกลงคบกันเพราะอะไร

ดูตัวอย่างง่ายๆเลย คุณยุวดีกับโอปป้า เขายังอยู่กันได้เลย

บอกเลย ว่า มีครับ ถ้าเกิดเราต้องออกงานสังคม

ประเด็นคือไม่ใช่ว่าเงินตอนนี้น้อย แค่ท่านต้องมีความคิดห้าวหน้าที่จะมีเงินเยอะ

ติดดิน ไม่ได้แปลว่ากินได้อยู่ได้ แต่ต้องแปลว่า ชีวิตประจำวันใน 1 ปี เขาใช้ชีวิตยังไงด้วยครับ ถ้าเขาใช้ชีวิต เดือนละ 20000 เก็บเข้าพอร์ทหุ้น 80000 ไม่ซื้อไรเลย นอกจากทองและที่ดิน นอนบ้านหลังละ 1-3 ล้าน ขับรถคันละไม่ถึง 2 ล้าน แบรนด์เนม ซื้อบ้าง นานๆทีเป็นของขวัญชีวิต และท่าน 38k แต่มีทุกอย่างแล้ว ไม่มีหนี้สิน มันก็ไปกันได้ แต่ถ้า 1 แสน กินข้างทางได้ แต่มีเวลาก็เลือกช๊อปปิ้งทันที ทุกเดือนต้องได้เที่ยว ตจว นอนโรงแรม 3 ดาว หรือคือละ 2xxx บาทอัพได้โดยไม่ต้องเปรียบเทียบราคาตลอดทริป บางสัปดา เข้าร้านอาหารเย็นดื่มตี้ ตลอดสัปดาห์ได้ ท่านอาจจะลำบาก ครับ แต่ไม่ใช่ให้ท่านถอย แต่ให้ท่านพัฒนารายได้ต่อไปขึ้นมาอีกซัก 20k ก็ไปกันได้สบายละ

ไม่มีปัญหานะหนี้มันเยอะกว่าผมอีก

อยู่ที่ไลฟสไตล

และความเข้าใจของคนสองคน

ถ้าแฟนคุณไลฟสไตลใช้เงินเยอะขึ้น เงินคุณไม่พอใช้

แล้วไม่เกิดบาลานซ์กัน เมื่อนั้นจะเกิดปัญหาตามมา

อีกแง่คือ บุคคลที่ 3 ในรูปแบบใดก็ได้เช่น

สังคมเพื่อน ครอบครัว กรณีอย่างทำไมไม่ซื้อบ้านแพงๆ อยู่

อารมณ์ว่าเงินเดือนตั้งแสน ทำไมอยู่บ้านเท่านี้ ขับรถเท่านี้ ซึ่งถ้าแฟนคุณจัดการได้ก็ดี

ผมว่าอยู่ที่ฝั่งเราทำตัว ถ้าเงินเดือนน้อยกว่าแต่ตั้งใจทำหน้าที่ให้ไดีมีความขวนขวาย
แม้ทำแล้วยังไงแฟนก็ยังได้เงินมากกว่า แต่ผู้หญิงมองเห็นเค้าชอบผู้ชายที่มีความทะเยอทะยาน
มันแสดงถึงความเป็นผู้นำในตัวผู้ชายด้วย อีกอย่างความทะเยอทะยานนั้นจะทำให้ท่านไม่เครียด
ไม่ต้องคิดว่าเงินเดือนแต่ละคนเท่าไหร่ เพราะเราพยายามให้ดีที่สุดแล้ว

แค่ไม่เป็นภาระเค้าพอ อีกอันที่อยากแนะนำก็คือถ้าบางโอกาส เค้าอยากกินนุ้นนี้แล้วเค้าเต็มใจจะเลี้ยง นานๆทียอมเค้าไปเถอะ เราไปชดเชยส่วนอื่นเอา

ภรรยาผมก็เงินเดือนมากกว่าผม1เท่า แต่งงานมา12ปีลูก2คนไม่มีปัญหาอะไรครับ
คนละกระเป๋าใช้ใครใช้มันแต่จะมีฝากเงินเข้าบัญชีกองกลางของลูกเท่าๆกันทุกๆเดือนครับ
เอามาจ่ายค่าประกันลูก ค่าเทอมลูก ค่าโน้นนี่ที่เกี่ยวกับลูกเฉยๆ

ผมเคยถามรุ่นพี่ที่เมียรวยกว่าเยอะ
เขาบอกว่าสำคัญคืออย่างไปคิดเยอะ ให้คิดเสียว่าผู้หญิงอยากอยู่ด้วยเพราะเขาอยากอยู่
เวลาออกงานเขาไม่สนใจเลยว่าใครจะคิดเรื่องผู้หญิงรวยกว่ารึเปล่า แกโม้ก่อนเลยเมียรวยเลี้ยงผมได้
แต่ความจริงคือตัวพี่เขาเอกก็ทำงานมีรายได้ของตัวเอง