คืองี้เมื่อ2-3 วันก่อนผมอ่ะเปิดไปเจอคลิปของ แม่ค้าออนไลน์/ อินฟู ท่านนึง เค้าก็บ่นๆ เออนี้นะถ้าจะมีแฟนแล้วมีภาระมาด้วย อย่ามีดีกว่า ถ้าจะมีแฟน แล้วแฟนไม่ช่วยซัพพ็อร์ทอะไรเลยก็อย่ามี แม่ค้าท่านนี้เค้าก็ไล่ๆถึงราคาที่ต้องจ่ายสำหรับตัวเค้าในแต่ละเดือน เป็นเงิน 2 หมื่นกว่า ว่าต้องจ่ายอะไรบ้างเพื่อความงาม ก็มีค่าคอลาเจน+อาหารเสริมนู่นนี่นั้น ที่ต้องกินเพื่อความความงาม 555 ตัวคลิปผมก็ไม่คิดอะไรนะ แต่ไปอ่านเม้นท์ อื้อหื้อ ผญ แต่ละคนที่มาตอบเม้น กดถูกใจกดเห็นด้วย คือเสียงใหญ่ก็ไปในทิศทางเดียวกันกับแม่ค้าท่านนี้

ผมพอใจ

คิดว่าผู้หญิงที่ไม่ได้คิดแบบนี้ก็มีครับ ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกแบบที่ตัวเองสะดวกอะ

ผมรออ่าน บิดาแห่งความเท่าเทียม มาเมนต์แล้วกันคับ ปักหมุดแปบ

หาคนที่เข้ากับตัวคุณเถอะครับ แบบนี้มันเหมารวมเกินไป

ถเาผมมีเงินเหลือกินเหลือใช้ผมก้อคงเปแฟนเหมือนกัน ไม่มานั้งคิดเล็กคิดน้อยหลอก

การที่เราให้แล้วเค้ารับ ไม่ได้แปลว่าเค้าเปนคนไม่ดีซะเมื่อไหร่

ปกติผมจะให้เพราะอยากให้หรือตามโอกาสสำคัญ มูลค่าไม่เยอะ เช่น ไม่เกิน 5,000 -10,000 บาท เฉลี่ยต่อปีนะครับ มันก็เป็นความสุขทางใจทั้งจากผู้ให้และคนรับ ส่วนประเภทที่ท่านเห็นมานั่นก็เกินไปถ้าจะต้องจ่ายให้รายเดือนขนาดนั้น

เราก็ต้องหาคนที่เราโอเคอะ คนแบบนี้เขาก็หาคนที่เปย์ให้เขาได้ โดยพอใจกันทั้งคู่ไม่ผิด ผมก็หาคนที่แชร์กันกับผมได้เช่นกัน แฟร์ๆ ไม่เคยไปว่าคนที่เค้าชอบคนเปย์ เค้าพอใจแบบนั้น แต่มันจะผิดตรงที่มาด่าผชที่ไม่เปย์ที่แฟร์กันกับคู่ตัวเองว่ากระจอก ตกเกรด ไร้มาตรฐานนั่นนี่ มีแบบนี้จะมีทำไม อย่างงั้นอย่างงี้ ผมว่าเสือก ไปเอาคู่ตัวเองให้รอดเถอะ

ถ้าไม่ชอบก็อย่าไปยุ่ง
แต่ถ้าอยากลองก็ได้
รู้วิธีได้ผู้หญิงมาแล้วนิ

หาคนที่เข้ากับคุณได้แค่นั้นครับ อันนี้เรื่องจริง คือทุกอย่างมันถูกตัดสินกันได้การพูดคุยกันตั่งแต่แรก ๆ หรือ เดท แรก ๆ แล้ว

อันนี้เป็นเป็นประโยคที่แฟนผมพูดตอนคุยกันใหม่ ๆ ผมถามเขาว่าประมาณว่าชอบใช้ชีวิตยังไง เรื่องกินเรื่องเที่ยว แล้วชอบซื้อของอะไรให้กันไหม เขาก็ตอบว่าไม่ชอบซื้อของแพง ๆ ให้กัน เขาก็ตอบมาแบบนี้



แล้วทุกวันนี้ผมกับเขาก็ใช้ชีวิตแบบนี้กันจริง ๆ คือ เวลาไปเที่ยวก็หารกันหมด หารกันยันค่าน้ำมันเพราะเขาบอกว่ามีความสุขรวมกันก็ต้องหารกัน บางอย่างเวลาไปกินข้าวผมจ่ายไป อีกมื้อเขาก็เลี้ยงคืนเป็นแบบนี้ตลอด

คือในมุมมองผมนะ เราต้องชัดเจนต้องแต่เข้าหา บางคนไม่รู้จะเข้าหายังไงก็อัดเงินเข้าระบบพอได้คบได้เป็นแฟนแล้ว ก็ตัดตรงจุดนั้นไป แล้วผู้หญิงก็มาบ่น ถามว่าตรงนี้ผิดไหม ผมว่าฝ่ายผิดคือผู้ชายมากกว่าเพราะตอนแรกไปทำแบบนั้น เพื่อให้เขาชอบ พอเขาชอบก็เปลี่ยนไป แต่ถ้าตอนแรกเขามาแบบปรกติไม่เปย์ไม่อะไร แล้วไปร้องให้เขาเปย์อันนี้ก็ด่าผู้หญิงไปเถอะว่ามึงเลือกเองจะบ่นทำ K อะไร

สำหรับผมการเปย์มันก็เป็นวิธีหนึ่งในการเข้าหาผู้หญิงแค่นั้น ถ้าเจอคนชอบเปย์ กับ คนชอบรับมันก็ไปด้วยกันได้ แต่หญิงช่วนใหญ่ชอบคนเปย์ทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ทุกคนจะคบกับคนที่เปย์หนัก ๆ

ทีนี้ต้องถามตัวเองว่าถ้าเจอคนแบบนั้นเราจะไปดื้อดึงไปจีบทำไม เพราะสุดท้ายมันก็ไม่เป็นธรรมชาติของตัวเราเองอยู่ดี เอาจริง ๆ ใครไหวเท่าไหร่ก็ไปเท่านั้นละ สำคัญคือต้องคุยกันตั่งแต่เดทแรก ๆ ไปเลยชัดเจนกันไปเลย หนูชอบคนเปย์นะ พี่ไม่ชอบเปย์นะ ก็แยกย้ายแค่นั้น

กำเงินไปตีกะหรี่ดีกว่า ถ้าจะเยอะขนาดนั้น 55555555

ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงคลาสล่างที่ยังปากกัดตีนถึบที่คิดแบบนั้น
ถ้าผู้หญิงมีความรู้ความสามารถเขาจะมีศักดิ์ศรีระดับนึง
เขาจะไม่ให้ผู้ชายเปย์ในสิ่งที่ตัวเองไม่มีปัญญาซื้อ
เพราะมันลดคุณค่าตัวเอง

เรื่องแบบนี้ไม่มีผิดมีถูก ถ้าผมอยากจีบละจ่ายไหว ผมก็เปย์
จ่ายไม่ไหวก็ข้าม ไม่อยากจ่ายก็ข้าม

ถ้าไม่พิการก็ทำมาหากินเองเถอะมารอผู้ชายเลี้ยงแบบนี้ สำหรับผมคือไร้ค่าว่ะ

ผมไม่เอาทำแฟนอะแบบนี้

เขาคิดแบบนี้ ก็ไม่ผิดอะไรนะ เพราะ ความต้องการสเปคผู้ชาย เขาชัดเจน ดีออก รายได้ไม่ถึง ก็อย่าไปจีบเขา


แล้วมีผู้หญิงอีกมากมาย ที่ไม่ได้สนใจเงินทอง มีสเปกแค่ ผู้ชายนิสัยดีๆ ก็พอ...ก็มีเยอะ

แล้วผู้ชาย จะไปแคร์อะไร กับคนที่เขามีสเปคแบบนั้น อ่ะ.....

หาจีบที่ตรงเสปกตัวเองดีกว่าไหม หาเจอคนที่ใช่สำหรับคุณดีกว่า ดีกว่าไปใส่ใจกับคนที่สเปคไม่ตรงกัน

เค้าไม่ได้ผิดหรอกครับ เขาก็ชี้แจงได้ชัดเจนดีนะ ความรักทุกวันนี้มันต้องใช้เงินอะ ส่วนเราคนเปย์มันก็ไม่น่าจะผิดนะถ้าเราจะถามก่อนว่าเปย์แล้วได้ไรมั่ง เปย์แล้วได้แค่จับมือคงไม่ไหว หรือถ้าเปย์แล้วได้ทุกอย่างพอหมดตังเปย์ผมก็คงแยกย้ายกัน