ผมว่าหมดแล้ว
แต่เหตุที่หมดจะมองได้ไหม
ว่ามาจาก โควิด

วงไอดอลมันเกิดมาเพื่ออยู่ในตลาด niche อยู่แล้วไง มันก็แค่กลับไปที่เดิมอะ

เป็นเรื่องปกติของวงการบันเทิงอยู่แล้ว คลื่นลูกใหม่มันก็ซัดคลื่นลูกเก่า

วงไอดอลในบ้านเราติดภาพแนวเกาหลีหรือเกิร์ลกรุ๊ปฝรั่งมากกว่า (ซึ่งเกาหลีก็ได้แรงบันดาลใจมาอีกที) และเพลงเองก็ทันสมัยกว่ามากๆ (เรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่เหมือนกันในฝั่งญี่ปุ่น เพราะตอนนี้แม้แต่ตัวท็อปอย่างโนกิฯก็เริ่มตีตัวออกห่างจากอากิพีแล้ว ล่าสุดในโปรไฟล์โซเชียลก็ลบชื่ออากิพีออกจาก Info ของวงแล้ว)

พวกที่ดังขึ้นมาแทนส่วนมากก็จะเป็นวงไทยที่ดัดแปลงจากเกาฯมาหน่อยๆให้มีเอกลักษณ์มา ไม่ก็มีพื้นที่สื่อเป็นของตัวเองมากพอจะดังได้ กลับกัน BNK ไม่เคยลงทุนในส่วนนี้เลย มีเพลงเป็นของตัวเองแต่โดนข้อจำกัดด้วยสัญญาเลยไม่สามารถเลิกใช้เพลงของ 48 ได้ (ไม่งั้นก็ไม่ใช่ 48G แล้วแหละ)

ตอนนี้ที่แบกวงอยู่ก็เลยเป็นเมมมากกว่า โชคดีที่ว่าหน้าใหม่ๆก็ยังพอดึงดูดคนได้อยู่ ไม่งั้นอาจจะเลิกไปนานแล้ว

ถ้าหมายถึงความแมสหมดมาซักพักแล้ว

ทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยแฟนเฉพาะกลุ่มที่เหนียวแน่น แต่ก็คงอยู่ได้อีกหลายปีเพราะแฟนๆเปย์หนัก

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ปกติของวงไอดอลครับ มีเกิดมีดับไป ไม่่าวงจะดังแค่ไหนก็ต้องมีวันลง

หมดนะ ถ้าถามคนไม่ตามแบบผมคือเงียบมาก น่าจะรู้จักกันเฉพาะกลุ่มจริงๆเด๋วนี้

ถ้าหมายถึงแมส หมดนานละ

ตอนนี้เป็นยุคสเตเบิลละ

คืออยู่ได้เรื่อยๆ วงไหนมา วงไหนไป ไม่สน

48th ก็รันไปเรื่อยๆ ไปเรียงๆไม่หวือหวา

นึกถึงสโมสรฟุตบอล แฟนบอลก็เชียร์อยู่

ผู้เล่นเดิมย้าย รีไทร์ ก็มีผู้เล่นใหม่เข้ามา

โมเดลมันดีตรงที่ มันสามารถสร้างรายได้จากแฟนคลับโดยตรง

กิจกรรมเยอะ (เหมือนแฟนบอลที่ซื้อตั๋วมาดู)

ในเมื่อยังมีตรงนี้ วงก็อยู่ได้

อยู่มา 7 ปี ก็เกินความคาดหมายไปไกลแล้วครับ


ช่วงแรกๆ คนเก็งกันว่า 2 ปี ก็ยุบวงแล้ว

ไม่หมดครับเพราะมีนีญ่าอยู่ เธอไม่มีวันหายไป

ผมว่าโควิดแค่ส่วนเสริมครับ

สาเหตุหลักๆที่มีผลเยอะกว่านั้นมีอีก 2-3 ข้อ
1. ค่ายบริหารแบบสามล้อถูกหวย
ตอนกระแสคุกกี้มา ก็ขายงานแบบกะฟันหัวแตก ค่าจ้างออกงานทั้งแบบยูนิต 6 คน กับเต็มชุดเซมฯ 16 คนคือแพงระยับมาก เอาจริงๆคืองานเดี่ยวด้วย
แต่ระยะเวลาโชว์น้อย ข้อจำกัดเยอะ ห้ามทำนู่นนี่เต็มไปหมด
ด้านงานหลักของวง (ซิงเกิล, เธียเตอร์, อีเวนท์อื่นๆ) ก็สุกเอาเผากิน คุณภาพไม่ได้พัฒนาตามรายได้ที่อู้ฟู่ในตอนนั้นเลย

2. โอตะปสด.
สืบเนื่องจากข้อ 1 ออกงานนอกแต่ละที ไม่วายมีเรื่องได้ตลอดจากโอตะปสด.
โอชิตัวเองแอร์ไทม์น้อย
โอชิตัวเองโดนแซวโดนหยอกอะไรไม่เข้าหู
โอชิตัวเองโดนนู่นนี่
พร้อมโถมคนอื่น โถมผู้จัดหมด
ตอนนั้นในแวดวง Agency เขาพูดกันเลยว่า BNK คนเริ่มไม่อยากจ้าง เพราะไม่อยากโดนโถม

3. การให้โอกาส/พัฒนาศักยภาพน้องแต่ละคน
จริงๆวงการบันเทิงไทยเนี่ยเปิดกว้างมากๆนะ โดยเฉพาะคนที่มีสกิลวาไรตี้ดีคือไปต่อได้ง่ายมาก
แล้วสถานะของไอดอลในวงการบันเทิงไทยก็ไม่ได้โดนมองเป็นชนชั้นล่างสุดของห่วงโซ่แบบญี่ปุ่น
แต่ค่ายก็ทั้งกันท่า (เรียกค่าตัวแพงจากข้อ 1) ทั้งไม่พัฒนาศักยภาพน้องๆทั้งร้อง/เต้น/สกิลวาไรตี้
หลายๆคนผ่านไป 5 ปีจนแกรดนี่แทบไม่เห็นการพัฒนาด้านสกิลเลย

ตัวเองไม่รู้จัก = หมดยุค



มันหมดมาตั้งแต่หลังคุ้กกี้แล้ว

แต่ตลาด niche ไม่ใช่ไม่รวย

โหวตกันทีหลักล้าน

หมดยุคแมส แต่วงก็อยู่ได้เรื่อยๆแหละ ซีดี โหวตนู้นนี่นั่นอย่างบ่อย

ไม่ได้ตาม ถามต่อในนี้ CGM จะขึ้นแซงได้ไหม น้องแต่ละคนดูน่ารักจริงๆ

หมดแล้วครับ หมดมาซักพักละ

ตัวแม่เหล็กก็แกรดกันหมดแล้ว รุ่น1แกรดว่าพังแล้ว เจอรุ่น2แกรดไปอีก พังกว่าเดิมอีก เพราะ2รุ่นนี้คือตัวดึงให้คนมาสนเบงเคเลย แถมเพลงก็ไม่มีอะไรเลยตั้งแต่หมดคุกกี้มา

แล้วก็เมมก็ขยันมีดราม่าด้วย คนจะเลิกตามก็ไม่แปลก

ผมรู้จักเพราะภรรยาผมชอบเนี่ยแหละ หลังๆเบาลงเยอะครับ อฟช จะเอาแต่เงิน


ส่วนตัวผมตามไม่กี่คนเพราะชอบเสียง มายยู แพนด้า ชอบเสียง 2 คนนี้

ถ้าตอบแค่ว่าหมด ไม่หมด ก็ต้องตอบเลยว่าหมด