การที่เราตีตราไปว่าชาวบ้าน ในกรณีทับลาน ต้องขายที่ดินให้นายทุน เหมือนกับที่เราตีตราคนตจว.ไม่พร้อมเลือกตั้งมั้ยครับ

➤➤ คิดเช่นไร

ไม่อยากให้ลองหรอกนะไม่คุ้มจะลองด้วย แต่แค่สิทธิอยุ่อาศัยยังขายกันเลย ขนาดมีแค่ทะเบียนบ้านอย่างเดียวที่เป็นหลักฐาน

มันได้ทั้งสองมุมเลยครับ เพราะจะมองมุมนั้นก็ไม่ผิดเพราะในความเป็นจริง หลายพื้นที่ก็ "เป็นแบบนี้" และอีกมุมหนึ่งก็มีหลายพื้นที่ คนในพื้นที่สามารถอยู่กับป่าปกป้องป่าได้

คำถามคือ มันจะไปมุมไหนหรือทำอย่างไรจะไม่ไปมุมไหน คำตอบคือ "รัฐ" ครับ

ชนชั้นใดเขียนกฎหมาย ก็ย่อมเขียนกฎหมายเอื้อชนชั้นนั้น

เรืื่อง ชาวบ้านขายป่าให้นายทุน โทษชาวบ้านอย่างเดียวไม่ได้แน่นอน

เวลาพูดว่า ชาวบ้านขายที่หรือป่าให้นายทุน

สมการที่หายไปเสมอคือ "เจ้าหน้าที่รัฐ"

ไม่เกี่ยว จริงๆ มันควรตีความว่าได้สิทธิทำกินแล้ว ทำไมชาวบ้านยอมขายให้นายทุน ทำกินเองได้ไม่คุ้มเสีย? มีที่แปลงอื่นอยู่แล้ว ขายก็ไม่เดือดร้อน?

ทุกวันนี้ที่ เกิน 50% ของพื้นที่มีปัญหาน่าจะไม่ได้อยู่กับชาวบ้านอยู่แล้วมั้ง

แต่ใครละที่อำนวยความสะดวกให้คนกลุ้มนั้นเข้ามา

ได้ 50 ขาย 20-30 แถมขายแบบพฤตินัยด้วย เงินหมดก็ไปงอแงขอเพิ่ม
บางเคสก็ขายหมด 50 แต่คนซื้อจ้างอยู่ในที่ตัวเองต่อไปเลย ปีละเท่าไรก็ว่าไป
ส่วนคนที่ไม่ได้ขายก็เยอะกว่า อันนี้แน่อยู่แล้ว ที่เป็นแสนไร่ใครมันจะซื้อหมดได้
กว่าจะกว้านได้หมดก็50-60 ปี

ทำงานทั้งชีวิตพอเกษียนจะไปซื้อที่อยู่ทำเกษตรก็อกๆแก็กๆผมคือนายทุนไหม

ขึ้นอยู่กับว่าเอกสารสิทธิ์ของที่ดินนั้นๆ ซื้อขายได้ตามกฎหมายมั้ย
ถ้าถูกกฎหมาย ไม่มีใครว่าอะไร

ความคิดผม
มันต้องอย่างเอามารวมกัน มันคนละเรื่อง

เรื่องแรกคือ ชาวบ้านตรงนั้นมีสิทธิ์ครอบครองพื้นที่ตรงนั้นมั้ย สมมติว่ามีสิทธิ์
เรื่องสองคือ ชาวบ้านครอบครองที่ตรงนั้นแล้ว ไม่มีสิทธ์ขายต่อ ก็ต้องตามนั้น ปัญหาคือ ทำไมเขาถึงขายได้ คนที่ต้องจัดการคือ รัฐ

ถ้าชาวบ้านอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว ผมโอเคนะที่จะแปลงที่ตรงนั้นเป็นโฉนด เพราะปล่อยต่อไป มันก็ไม่มีสิทธิ์กลายเป็นป่าหรอก

แต่ถ้าแปลงเป็นโฉนดแล้วชาวบ้านจะขายให้นายทุน ผมก็โอเคนะเพราะเป็นสิทธิ์ของเจ้าของที่ดินที่พึงทำได้

สิ่งที่เราควรทำคือการวางผังเมืองที่ดินให้กำหนดขอบเขตที่ชัดเจนดีกว่าว่า ที่ดินที่ติดอุทยาน ควรทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ขอบเขตชัดเจน เพื่อไม่ให้ลุกล้ำป่ามากไปกว่าเดิม รวมไปถึง การประกอบกิจการที่อาจจะเป็นการรบกวนป่า อย่าง โรงงาน หรือ ลานตั้งแคมป์ รีสอร์ตที่อาจจะส่งเสียงรบกวนได้

คนละเรื่องเลยครับ

ผมว่ามันเอาไปเทียบกันไม่ได้นะ 2กรณีนี้มันคนละแบบกัน

แต่ชาวบ้านขายที่ดินทำกินแบบสปก.ให้นายทุน ผมไม่โลกสวย เพราะเห็นมาเยอะ จนเชื่อว่าไม่แปลก ยังไงมันก็มีเคสแน่ ๆ

แต่ใครจะเลือกเชื่อแบบไหน ก็แล้วแต่ประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคนครับ สำหรับผม ก็นั่นแหล่ะ เดี๋ยวที่ดินมันก็มาถึงมือนายทุนในตอนสุดท้ายอยู่ดี

หลักๆ ผมว่ามันควรยึดที่ที่มันเป็นของเค้าจริงๆ ก่อนหมายถึง

ไม่ใช่คนที่มาไม่นานเพราะมันติดอุทยาน

คือถ้าอยู่มานานแล้ว จะขายที่อะไรก็ถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์เค้าแหละ

แต่หลักๆ กลัวว่ามันจะมีสอดไส้ไว้หนะสิ

พูดง่ายๆว่า ขอแค่สมมติคุณตีกรอบไว้ 2 แสนไร่คือจบ ก็คือจบ

ไม่ได้ไส้เพิ่มเป็น 2 แสนนิดๆ แล้วไอที่ที่ลุกเข้าไปคือมีนายทุนมาสร้างต่อ เพราะฮัํวไว้แล้ว

หรือหลักฐานจริงๆว่าอยู่มานานแล้ว (เหมือนอ่านผ่านๆว่าคนอยู่นานแล้วจริงๆจะได้เป็นโฉนด

แต่มีกลุ่มที่ยังเป็นใบอะไรซักอย่างอยู่)

แล้วทำไมต่างจังหวัดพรรคก้าวไกลถึงได้รับเลือกมาก็เยอะล่ะครับ งง ว่ามันเชื่อมโยงกันตรงจุดไหน

แก้ปัญหาที่ต้นตอก่อน คือ ทำให้เกษตรกรขายผลิตได้ราคาแพง

จากนั้นจะแก้ปัญหาได้เกือบทุกอย่าง

ผมฟันธง