ต่อให้คุณเป็นคนเปิดกว้างรับฟัง พออยู่ไปนานๆมันจะเปลี่ยนเป็นความหมั่นไส้ ไม่ชอบขี้หน้าได้หรือเปล่า

ถ้าคนๆนั้นมักจะมาถกเถียงแบบขัดคุณเรื่อยๆ เห็นต่างคุณบ่อยๆ

แน่นอน


แล้วยิ่งเปนพวกที่พอเวลาผ่านไป พรูฟว่าเราถูกทุกรื่อง แต่พวกโง่ๆก้ยังขยันมาเถียงรอบหน้า

เค้าจะเกลียดผมมากกว่า ผมไม่ค่อยเกลียดเวลาโดนขัดเท่าไร ถ้าเหตุผลพอนะ

ยื่งกว่าไม่ชอบขี้หน้าครับ แน่นอน

เป็นผมผมจะเถียงอย่างเดียวครับ ไม่กล้าถก

เห็นท่าไม่ดี รีบเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องหมี เรื่องเด็กn

บรรยากาศดีขึ้นทันที

มันจะมีคนประเภทนึง แบบที่เห็นต่างกับเราทุกเรื่อง บอกซ้ายแม่งก็จะต้องว่าขวา บอกขาวแม่งก็จะต้องว่าดำ แย้งทุกสิ่งอย่างแบบอะไรที่ออกจากปากเรานี่ไม่มีถูก ต้องขัดแม่งทุกเรื่องจนกูจะเงาอยู่แล้ว โดยเฉพาะพวกที่จะต้องเปิดประโยคว่า ไม่ๆๆๆ
ถ้าประเภทนี้ผมปล่อยเป็นอากาศไปเลย ไม่เถียงไม่อะไรด้วย อธิบายไปก็เท่านั้นเค้าอคติเราอะ
อันนี้แน่นอนว่าเหม็นขี้หน้า

แต่ถ้าเป็นพวกแย้งด้วยเหตุผล คือมีเหตุผลมาแย้งจริงๆนะ แค่อาจจะบังเอิญคิดต่างกันหลายเรื่องไปหน่อย
ประเภทนี้ผมคุยได้ แต่จะไม่เถียงเอาชนะว่าความเห็นใครคือความจริงแท้ที่สุด ใครถูกใครผิด มันเสียเวลาชีวิตผม จะแค่บอกความคิดผมเฉยๆ จะแย้งก็แย้งไป ผมก็ฟังมุมมองของเค้าแล้วก็จบ แยกย้าย อย่างงี้ไม่เกลียดกัน

ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คน​ ผมชอบเขามากเพราะเก่งกว่าผมทุกอย่างกับฉลาดสุดๆ​ เราชอบอะไรคล้ายๆกันเลยไปด้วยกันบ่อย​ นานๆเข้าก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลย​ แฟนมีทั้งคู่แต่เวลาส่วนใหญ่พวกผมจะอยู่ด้วยกัน​ มันคู่เกย์ปะวะ​ 555​ แต่พอเริ่มถกอะไรจริงจังสุดท้ายแนวคิดเราจะเปิดไปคนละขั้วเลย​ ปกติผมแทบไม่ขัดอะไรเขาเลยนะ​ แต่ทางนั้นจะค่อยขัดผมอยู่เรื่อย​ แม้แต่ความเห็นตอนดูรายการทีวียังเอามาถกกับผมอย่างดุเดือด​ ไปดูคอนด้วยกันยังเถียงกันจนกลับกันกลางคอน​ เป็นงี้ตั้งแต่วัยรุ่นจนขึ้นเลข3ผมเลยคิดว่าได้เวลาแยกย้าย​ แต่ไม่ได้เกลียดอะไรเขานะ​ ยังเป็นเพื่อนที่ผมรักและคิดถึงอยู่เสมอ​ ที่แยกไปเพราะแนวคิดตอนนั้นมันไปกันยากแล้ว​ เพื่อนผมฉลาดและเก่งรอบด้าน​ แต่บางเรื่องถ้าปรับได้จะสมบูรณ์แบบเลย​ ส่วนเพื่อนก็มองเห็นจุดเพี้ยนของผมมากมาย​ มันเลยเถียงกันขัดกันบ่อยๆ​ บทบาทในกลุ่มยังทับไลน์กันอีก​ สุดท้ายแยกกันอยู่จะสบายใจกว่า​ ตอนแยกกันแล้วคนอื่นก็มาหาผมปกติ​ มีแต่เพื่อนคนนี้แหละไม่มา​ เพราะก่อนแยกตัวคือทะเลาะกันทุกวัน​ แต่ผมก็ไม่ได้ไปแบบโกรธเคืองอะไรกันนะ​ เพื่อนแค่ผิดหวังที่ผมไม่อยู่กับเขาต่อเพราะเราผ่านเรื่องราวมาด้วยกันเยอะ​ ผมก็เสียดายเะราะเพื่อนคนนี้เจ๋งสุดตั้งแต่ผมคบคนมาในเรื่องความลาด​ ไม่รู้มันไปเข้าขั้วกับพวกสมองทึบแบบผมได้ไง​ 555​ แต่ผมก็ยกของให้เขาหมดพวกงานที่ทำของสะสมที่มี​ คือยกให่หมดเลยเพื่องยืนยันว่ากุไม่ได้โกรธมึงเลยนะ​ ฮา​ ตอนนี้ถ้ามีเวลาก็อยากไปดูเขาอยู่ว่าทำอะไรอยู่​ ติดแค่ผมก็ไม่ว่างเช่นกันมันเลยอยู่ใครอยู่มันดีกว่า​

จริง โคตรเซงเลยคนที่ติดคำว่า ไม่ๆๆๆ มันจะไม่ทุกอย่างอย่างเดียว ถึงจะผิดแค่สิบเปอร์เซ็น ก็จะไม่ๆๆๆ อยู่นั่นแหละ อธิบายมาใหม่ก็เกือบจะเหมือนแล้ว

พูดแบบนี้แปลว่าคุณรับฟัง แต่คุณก็รู้ตัวเองเช่นกันว่า จะไม่เปลี่ยนแปลงตามคำแย้งใช่ไหมครับ แม้ว่ามันจะเป็นคำแย้งที่มีเหตุผลสุดๆ

ใช่ครับ
เรื่องบางเรื่องมันไม่ใช่ข้อเท็จจริงแต่มันคือความคิดเห็น ซึ่งพอเป็นความคิดเห็นมันมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้คนคิดต่างกัน การเลี้ยงดู การศึกษา ประสบการณ์ชีวิต ฯลฯ
อย่างถ้าถามว่าจากกทม.ไปลำปางขับรถไปทางไหนดีที่สุด ความเห็นผมคือผมไปทางพิจิตร พิษณุโลก ออกอุตรดิตถ์ ไปทางแพร่
อีกฝ่ายแย้งว่าไม่สิไปทางกำแพงเพชร ตากสิ ขับสาย 1 ไปยาวๆ จะต้องไปอ้อมทำไม แต่ผมรู้สึกว่าผมขับไปทางอุตรดิตถ์รถน้อยกว่า เค้าแย้งต่อว่ามันอ้อม ผมบอกว่าอ้อมนิดหน่อย แต่ทำเวลาได้ดีขึ้น
หรืออย่างเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งแบบคุยกันว่าเวลาต้มมาม่าใส่ไข่ ใส่ไข่ก่อนใส่เส้น หรือใส่เส้นก่อนใส่ไข่
อย่างเงี้ย เถียงให้ตายก็ไม่จบ ไม่ใช่เรื่องของโง่ไม่โง่ ฉลาดไม่ฉลาด แต่เป็นเรื่องของความคิดเห็นตามประสบการณ์ของคน ซึ่งผมก็คิดว่าคนขับรถไปลำปางด้วยสาย 1 หรือคนต้มมาม่าแบบใส่ไข่ก่อนเค้าก็มีเหตุผลสุดๆแน่นอน
แต่มันก็เป็นเหตุผลตามประสบการณ์เค้าครับ เป็นเหตุผลที่เกิดขึ้นจากคอนดิชั่นของเขา ไม่ใช่ของผม ผมรับฟังได้ คิดตามได้ เข้าใจได้ว่าในมุมของเขามันเป็นแบบนี้ มันสมเหตุสมผลนะ ไม่มีอะไรแย้ง ก็เปิดโลกเปิดมุมมองให้ผม บางทีถ้าผมเป็นเขาผมก็อาจจะคิดแบบนี้เหมือนกัน แค่สำหรับในเงื่อนไขของผม ผมไม่ซื้อ ก็แค่นั้นเอง
เขาไม่ได้ผิดอะไร และไม่มีเหตุผลจะต้องเถียงกันเพื่อบอกว่าเค้าคิดผิดด้วย