ลิงค์ https://www.facebook.com/makasiri.samanukorn

ิคิดเห็นยังไง วานบอก
ส่วนตัวผม ไม่เคยจ่ายยาให้หมาตัวเอง ไม่เคยฉีดยาให้หมาตัวเอง
ผมรู้ว่าผมไม่เก่ง ไม่รู้จริงเท่าสัตวแพทยฺ์
ที่สำคัญคือ เราไม่ก้าวก่ายงานกัน ต่างคนต่างชำนาญในสายของตัวเองครับ

ยิ่งเป็นอินฟลู ต้องคิดให้เยอะๆกว้างๆครับ หลายคนเค้าไม่เก่งพอจะแยกแยะว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้

ดูไม่ได้แล้ว

ผมเข้าใจเจตนาเค้านะ ทุกเคสที่เค้าเอามาวิเคราะห์เค้าก็จะdisclaimerก่อนทุกครั้ง

ว่าวิเคราะห์ในสถานการณ์ไหนบริบทยังไง แต่เคสนี้ก็อาจจะทำให้เข้าใจผิดได้แหละ

เพราะบางทีเวลาแกพูดแกก็รวมๆสลับไปมาว่าก็น่าจะเป็นได้เหมือนกัน เกิดได้เหมือนกัน มีอาการคล้ายกับคนนะอะไรงี้ แต่แกก็จั่วหัวไว้แล้ว

ฟังข้ามๆก็ไม่เห็นมีอะไร เขาก็พูดเป็นระยะว่าหมากับคนต่างกัน วิธีรักษาอาจจะต่าง หรือมีช่วงเวลาไหนที่เขาไปโทษสัตว์แพทย์ก็ช่วยบอกเวลาให้ทีเดี๋ยวไปดูอีกรอบ

ทำไมผมฟังก้ไม่เห็นมีอะไร

ผมว่าเจตนาเค้าคือยกเคสหมามาเทียบกับคนว่าถ้าเป็นคนมีอาการเเบบน้องข้าวสากจะรักษายังไง ไม่ได้บอกว่าเค้ารักษาหมาได้เพราะในคลิปเค้าพูดหลายครั้งว่าไม่รู้ว่ายังงั้นยังงี้ในหมาจะเหมือนคนมั้ย เเต่ถ้าเป็นในคนจะรักษาในเเนวทางนี้

ผมเดาเเบบไม่กดเข้าไปดูเลยว่าคนมีปัญหาคือสัตวเเพทย์เเน่นอน

บางอันไม่ชัวก็เห็นพูดอยุ่ต้องไปถามสัตวแพทย์ มันดราม่าอะไรไม่เข้าใจ

เค้าก็บอกอยู่แล้วถ้าหมาเป็นคน อะไรไม่แน่ใจเค้าก็บอกอยู่ว่าไม่แน่ใจ แล้วก็บอกว่าถ้าเป็นคนจะทำยังไง

คือพวกที่ด่าคือดูไม่จบผมบอกเลย

เอิ่มแล้วหมอแกไม่ใช่อินฟลูนะ แกหมอของจริง ไม่ใช่หมอเกษียณแล้วผันตัวหรือลาออกมาเป็นอินฟลูเหมือนแก่ๆหรือหมอดาราบางคน

วงการแพทย์ไทยมันขี้อิจฉากันอยู่แล้วเหมือนละครหลังข่าวเห้นใครดีเด่นกว่าไม่ได้ เห็นหมอหนุ่มเป็นอาจารย์แพทย์ที่อเมริกาที่ตัวเองเอื้อมไม่ถึงมันก็จองกฐินกันอยู่แล้ว

มีแซะกันเหมือนน้อยใจด้วยสัตวแพทย์ทั้งๆหมอแกก็ไม่ได้ด้อยค่าใครเล้ย ไม่ได้พูดถึงพวก vet ด้วยซ้ำไปร้อนอะไรมาจากไหนนักหนางงมาก

ไม่มั่นใจว่า จขกท ฟังแล้วดราม่าตรงไหน

รบกวนยกนาทีที่ฟังแล้วรู้สึกดราม่ามาที

เหมือนจะไม่ได้ฟังเองจนจบคลิปไหม แค่มาอ่านที่มีคนมาสรุปให้ใต้คลิป

ผมสัตวแพทย์นะ ตอนเข้าไปดูก็ไม่รู้สึกอะไร เอาจริงวงการสัตวแพทย์เป็นวงการที่ดราม่าควีนเหมือนกัน เหมือนถูกฝังให้น้อยเนื้อต่ำใจกันมาตั้งแต่แรก บทจะพราวด์ก็พุ่งสูงปี๊ด บางครั้งก็เข้าข้างตัวเองกันจนขาดสติไปหน่อย

กลับเข้าเรื่อง เคสนี้มีปัญหาได้ง่ายตรงที่ว่าอาจจะทำให้คนเข้าใจผิดได้ครับว่าหมาต้องรักษาแบบคน ดูแบบข้ามๆไม่แน่ใจว่าหมอแกมีคำเตือนรึเปล่าว่าสัตว์กับคนรักษาต่างกัน ถ้าแกไม่มีคำเตือนเยอะๆ มันจะสร้างความเข้าใจผิดได้ง่าย เพราะพื้นฐานคนจำนวนนึงไม่น้อยเชื่อหมอคนมากกว่าหมอหมา(หมอคนเองบางคนก็เข้าใจแบบนี้ด้วย) แค่การรักษาพยาธิเม็ดเลือดด้วยการควบยาสองตัวที่แกว่าก็ผิดละ กลไกการรักษาต่างกันชัดเจน ยาตัวที่เรียกว่า doxy คือยาวิเศษในสัตว์เลย แต่ของคนเอามารักษาโรคผิวหนังง่ายๆ เดี๋ยวจะกลับไปดูใหม่พรุ่งนี้ ถ้ามีตรงไหนเพิ่มเติมจะมา edit อีกที

เม้นท์เพิ่มเติมนะครับ จากที่ไปฟังมา จับเฉพาะจุดที่ไม่เห็นด้วย และ(ส่วนตัว)แล้วมองว่าหมอแกวิเคราะห์ผิดในส่วนของการรักษาสัตว์
1. หมอแกมองว่าเคสมาด้วยอาการแบบนี้น่าจะ sepsisหรือติดเชื้อในกระแสเลือดแน่ๆ แล้วแกก็พยายามมองว่าน่าจะมาจากโรคที่มีเห็บหมัดและยุงเป็นภาหะ เลยคิดว่าเหมาะที่จะให้ ceftriaxone ร่วมกับ doxycyline
- ปกติยาปฏิชีวนะจะมีกลไกการออกฤทธิ์อยู่ 2 แบบคือ ยาที่ออกฤทธิ์แบบ"ยับยั้งเชื้อ" และยาที่ออกฤทธิ์แบบ "ฆ่าเชื้อ" ทางจลศาสตร์การออกฤทธิ์ เราไม่แนะนำการให้ยาสองกลุ่มนี้ร่วมกัน เพราะจะไปลดทอนประสิทธิภาพของยากันหลากหลายแบบ กลับมาเคสนี้ ด้วยความเป็นหมอคนแกอาจจะไม่รู้ว่าการตรวจหมาตัวนี้น่าจะให้ผล + กับโรคพยาธิเม็ดเลือด ดังนั้น ยาที่ออกฤทธิ์จัดการเชื้อหลายตัวจะเป็น doxycycline ผลทีตามมาคือ เราต้องเลือกใช้ยากลุ่มอื่นถ้าจะให้ร่วมกับ doxy หากให้เพื่อหวังผลควบคุมการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนตัวอื่นๆ โดยปัจจุบันมีการทดสอบก็พบว่ายากลุ่มที่ให้ได้แม้จะเป็น "คนละกลุ่ม" ก็มีอยู่ แต่ไม่ใช่ ceftriazone แน่นอน ด้วยความที่มันเป็นยาที่ไม่ได้เป็น broad spectrum การให้ยาตัวนี้โดยไม่รู้ว่าติดเชื้อแทรกซ้อนจริงไหม จะเป็นการให้ที่ได้ผลเสียมากกว่าผลดี
.
2. หมอแกบอกว่าในเคสนี้เป็นแกจะไม่ให้ fluid เนื่องจากมาด้วยอาการที่บ่งชี้ว่าอาจจะมีตับไตวายร่วมด้วย การให้มีแต่ผลเสีย
- เป็นข้อที่ผมเอ๊ะมากที่สุดว่าในคนเค้าจะไม่ให้เหรอ แม้แต่เคสที่ตับไตวาย? เหตุผลที่หมอแกบอกว่าไม่ใเห้เพราะจะไปเพิ่มของเหลวคั่งในปอด และทำให้มีอาการอื่นๆตามมา เป็นแกจะให้กลุ่มเพิ่มความดันแทน อันนี้ไม่รู้เพราะคนต่างจากสัตว์หรือแกผิด อยากได้คนอธิบายเหมือนกัน แต่พูดถึงสัตว์ยังไงก็ต้องให้ หากเรากลัวที่จะให้เกิดภาวะน้ำท่วมปอด หรือภาวะอื่นๆ ให้ monitor เอาครับ เหตุผลคือการที่ตับไตวาย การให้สารน้ำทางเส้นเลือดจะช่วยในการฟื้นตัว เอายา เอาสารอาหารไปให้ส่วนที่อักเสบ หรือเลือดไปเลี้ยงไม่พอพอ รักษาระดับความดันในเลือดได้ (แต่ก็อันนี้งงจริง เพิ่งรู้ว่าคนตับไตวายจะไม่ให้ารน้ำเข้าเส้น)
.
3. เป็นแกจะไม่แทงเส้นที่ขา จะแทงที่เส้นเลือดใหญ่คือที่คอ
- ขอไม่เสริมละกันครับ คิดเอาเองว่าจะเชื่อแกรึเปล่า
.
4. มีค่า enz. ที่บ่งชี้ภาวะตับอ่อนอักเสบ แต่แกตั้งแง่ว่าอาจจะไม่จริง อาจจะแค่ enz. รั่วออกมาจากภาวะอื่น
- อันนี้ก็งงไปอีก ในคนไม่ทราบว่าเค้ามี criteria ยังไง แต่ของสัตว์มีการศึกษามานานและพอจะมี indicator บ่งชี้ภาวะนี้ที่ sensitivity และ specificity สูง ดังนั้น ในยามฉุกเฉิน หน้างาน ร่วมกับอาการต่างๆ ตัวที่หมอตรวจเชื้อได้แน่นอนว่าใช่ ซึ่งการรักษาก็เป็นการ supportive อยู่แล้ว ไม่เข้าใจว่าจะมาตั้งแง่เรื่องนี้เพื่ออะไร นอกจากไม่รู้แล้วพูดออกมาเฉยๆ
.
5. แกบอกว่าตับอ่อนส่วนหใญ่เกิดจากการติดเชื้อ ดังนั้นต้องหาเชื้อที่เป็นต้นเหตุให้ได้
- อันนี้ก็เป็นการพูดในแง่ของคน ซ่งเข้าใจได้ แต่จะบอกว่าผิด เพราะในสัตว์>50% คือไม่ทราบต้นเหตุ หมายความว่า สัตว์อาจจะเกิดจากหลายปัจจัยเสี่ยงร่วมกัน เช่น อาหาร การมีปัญหาเรื่องเลือด การติดเชื้อมักจะเป็นการติดเชื้อแทรกซ้อน ดังนั้น เป้าของการรักษาตับอ่อนโดยมาก คือการประคองอาการ ไม่ใช่การหาตัวเชื้อว่าตัวไหน แต่เป็นการคุมอาการอื่นโดยรอบทั้งหมด ร่วมกับการรักษาอาการติดเชื้อแบบกว้างไปก่อน นอกจากจะมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการให้ยานั้นไม่ได้ผล แต่ไม่สามารถทพได้โดยทันที และ " สารน้ำ"สำคัญมากในการรักษา
6. แกบอกว่าน้ำตาลสูงไม่มีทางเกิดขึ้นเองได้ ต้องเป็นเบาหวานเท่านั้น และควรให้ insulin ทันที
.
- อันนี้ก็งงเช่นกัน ภาวะน้ำตาลสูงกว่าปกติสามารถเกิดขึ้นได้ในภาวะ shock เนื่องจากสมองสั่งการให้ร่างกายตอบสนองและหลั่งสารกลุ่มนึงเพื่อตอบสนองภาวะนี้ ซึ่งร่วมไปถึงการกระตุ้นให้มีการผลิตกลูโคสหรือน้ำตาลมากขึ้น เราจึงมักจะจเอในสัตว์ว่า น้ำตาลในตัวที่ shock สูงกว่าปกติ (ยกเว้นกลุ่มที่ช็อคเพราะขาดน้ำตาล) แต่ตัวเลขเท่าไรห่เราถึงจะกลัวว่าเป็นเบาหวานตะหาก แต่ตัวนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นเบาหวานนั่นแหละ เพราะอ้วนมาก และตับอ่อนเหนี่ยวนำให้เป็นเบาหวานเนื่องจากตับอ่อนไม่สามารถผลิด insulin ได้ ส่วนการรักษาในภางะฉุกเฉินต้องอยู่ที่หน้างาน แต่ไม่ใช่ทุกเคสเบาหวานจะให้ insulin ทันที
.
7. การอึมีเลือดปน (melena) แกคาดว่าเกิดจากภาวะติดเชื้อแน่ๆ
- จริงๆเคสนี้อย่าไปคิดเยอะ แค่เป็นตับอ่อนอักเสบก็ทำให้เกิดได้ทุกอย่างแล้ว เคสนี้คือน้้ำย่อยที่รั่วออกมาเยอะมันกัดไปทั่วอยู่แล้ว ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องการติดเชื้อเลย
.
8. มีไข้เพราะภาวะ DIC
- อันนี้ไหลไปเรื่อย เอาจริงๆคือภาวะเยอะขนาดนี้มีไข้ก็ไม่แปลก มันแยกไม่ได้แล้ว

โดยสรุปคือมีหลายประเด็นที่ผมดูแล้วอยากจะพูดถึง
1. ส่วนตัวไม่ดราม่าครับ ผมเข้าใจที่แกอยากวิเคราะห์ แต่คลิปนี้อาจทำให้ดราม่าได้ง่ายเฉยๆ
2. แกไม่ชี้นำ แต่พอพูดไปเรื่อยๆ ฟังไปเรื่อยๆมันสามารถทำให้คนกลุ่มนึงเชื่อว่าแกพูดถูก และหมอหมารักษาผดเพราะอะไร? เพราะว่าแกพูดด้วยความมั่นใจฟังแล้วคิดว่ามันรอดได้ถ้ารักษาแบบแก แต่ประเด็นคือเคสนี้มันตาย มันเลยจะเกิดความรู้สึกอีกแบบ
3. ความรู้เรื่องการรักษา(สัตว์)มีน้อยครับ บางคำพูดมั่นใจว่าถูกแต่ผิด รวมไปถึงในแง่ของหมอคน ผมยังไม่มั่นใจว่าแกพูดถูกเลยในบางประเด็น จริงๆ เห็นแกพูดผมก็กลัวละว่าแกพูดผิดแล้วทำให้คนเข้าใจผิดรึเปล่า
4. ความไม่รู้ของอก่ ทำให้แกตั้งเป้าไปที่เรื่องการติดเชื้อและไม่ให้ความสำคัญโรคอย่างตับอ่อนอักเสบ แค่นี้ถ้าแกรักษาหมาจริง หมาแกตายแน่นอนครับ
5. ผมข้ามไปว่าหมอเคสนี้รักษาดีหรือถูกรึเปล่านะ เพราะอาจจะรักษาดีหรือไม่ดีจริงๆก็ได้ แต่ของมุ่งไปที่คนพูดคือหมอคนนี้ว่าพูดถูกมั๊ย หรือมีผลอะไรได้บ้างในสิ่งที่พูด รวมถึงความน่าเชื่อถือจากหมอคนนี้

เค้าก็พูดเปิดหัวมาชัดเจนอยู่ถ้าเกิดขึ้นในคนหรือมันแปลเป็นอย่างอื่น

ไปอ่านข้างล่างนะ สัตวแพทย์เค้ามาตอบเองละครับ ซึ่งเห็นด้วยกับเค้าในหลายเรื่อง
คนอื่นยังไงแล้วแต่เค้า
สำหรับผมแล้ว ผมไม่ค่อยไปยุ่งในวิชาชีพอื่น แม้แต่ในแพทย์ด้วยกัน ผมยังไม่อยากไปยุ่งให้ความเห็นข้ามเฉพาะทางซักเท่าไหร่ มันคือ "กติกามารยาท" หนะครับ
ต่อให้พูดซ้ำแล้วซ้ำอีกในคลิปว่า ความเห็นแกไม่ใช่หมอสัตวแพทย์ก็เถอะ หลายคนกรองได้หลายคนกรองไม่ด้หรอก กลไกการวิเคราะห์มันแตกต่างกัน

ทำไมผมจะไม่รู้ว่าแกเป็นหมอจริงๆ ผมชื่นชมแกด้วยซ้ำ ตอนแกออกมาต้านหมอดื้อจุฬาเรื่องวัคซีนทำให้เกิดก้อนขาวๆอะ ยังเคยแชร์คลิปแกอยู่เลยด้วยซ้ำ และนั่นคืองานที่แกทำ คือ ออกมาช่วยชี้แจงสังคมในงานที่แกถนัด
แต่รอบนี้ ผมไม่ค่อยเห็นด้วย ที่ไปยุ่งวงการอื่นเค้า แล้วตัวเองมีผู้ติดตาม + ภาพลักษณ์น่าเชื่อถืออยู่แล้ว
พูดไม่ถูกหมด คนหน้างานเค้าทำงานลำบากเปล่าๆ อย่าไปยุ่งเรื่องเนื้องานคนอื่น เจตนาผมมีแค่นี้

การให้ความเห็นทางวิชาการ โดยอินฟลู มันชี้นำสังคมได้เยอะมากครับ ประเทศนี้เลยมีอินฟลูความงามเพียบไง ทั้งๆที่เรียนไม่จบหมอ ความรู้ก็ฟังเค้าเล่ามาต่อๆ แต่ชี้นำได้เพราะผู้ติดตามเยอะครับ

ขอบคุณที่มาชี้แจงในหลายๆประเด็นครับ