—————
⚫️ รู้จัก ‘เสี่ยโจ้’ และอาณาจักรของเขา
:
1- “เสี่ยโจ้ ปัตตานี” หรือนายสหชัย อายุ 56 ปี พื้นเพเดิมเป็นชาวเพชรบุรี แต่ย้ายไปทำธุรกิจประมงที่ปัตตานีมานานกว่า 30 ปีแล้ว

2- ตอนแรกเสี่ยโจ้ทำแพปลา จากนั้นพัฒนาไปเป็นเจ้าของโต๊ะพนันฟุตบอลและหวยเถื่อน แล้วหันมาทำธุรกิจค้าไม้และต่อเรือด้วย ใช้เวลาไม่กี่ปีก็กลายเป็นนักธุรกิจผู้มีอิทธิพลทางภาคใต้ตอนล่าง

3- ต่อมาเสี่ยโจ้เห็นช่องทางในการค้าน้ำมันเถื่อนข้ามชาติ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำกำไรอย่างมหาศาล เขาเริ่มต้นจากการเป็นโบรกเกอร์ขายน้ำมันเถื่อนให้เรือประมงกลางทะเลก่อน

4- ต่อมาตำรวจคนหนึ่งชักชวนให้เสี่ยโจ้ซื้อเรือน้ำมันเป็นของตัวเอง แล้วซื้อน้ำมันเถื่อนจากเรือแท็งเกอร์ (เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่) มาขายต่อให้เรือประมงในน่านน้ำลึก

5- จากเรือขนน้ำมันเถื่อน 1 ลำ เสี่ยโจ้พัฒนาธุรกิจมาเป็นกองเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนราว 50 ลำ และขยายขอบข่ายการค้าน้ำมันเถื่อนไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา เวียดนามใต้ อินโดนีเซีย โดยมีตำรวจนายหนึ่งทำหน้าที่ประสานเพื่อเคลียร์เส้นทางให้

6- ต่อมาเสี่ยโจ้เห็นว่าการค้าน้ำมันเถื่อนกับต่างชาติอย่างมาเลเซียกับสิงคโปร์ต้องใช้เงินริงกิตและดอลลาร์สิงคโปร์ในการชำระ จึงเปิดร้านรับแลกเงินตราขึ้นที่หาดใหญ่ด้วย เพื่อให้ธุรกิจของเขาครบวงจร

7- พบว่าเฉพาะปี 2553-2554 เสี่ยโจ้มีรายได้จากการค้าน้ำมันเถื่อนกับประเทศเพื่อนบ้านเดือนละ 200-300 ล้านบาท มีเงินหมุนเวียนในเครือข่ายมากกว่า 1 แสนล้านบาท

—————
⚫️ ถูกจับครั้งแรก เอาผิดไม่ได้
:
8- เสี่ยโจ้ถูกจับครั้งแรกเมื่อปี 2555 โดย กอ.รมน. และดีเอสไอ เขาโดนตั้งข้อหาค้าน้ำมันเถื่อน ค้าไม้เถื่อน ฟอกเงิน และพัวพันกับขบวนการก่อความไม่สงบชายแดนใต้

9- แม้การจับกุมครั้งนั้นจะเอาผิดเสี่ยโจ้ไม่ได้ เพราะหลักฐานสาวไปไม่ถึง จึงจับได้เพียงลูกน้องบางคน แต่เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานเด็ดคือบัญชีส่วยจำนวน 2 เล่ม ที่เสี่ยโจ้จดไว้หมดว่าจ่ายส่วยให้ใครบ้าง พบว่าเขาจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงจำนวนมาก ทั้งตำรวจทางหลวง ตำรวจท้องที่ ตำรวจน้ำ และศุลกากร

—————
⚫️ ถูกจับครั้งที่ 2 การหลบหนีและการกลับมา
:
10- ปี 2557 กอ.รมน.บุกค้นบ้านเสี่ยโจ้อีกครั้ง คราวนี้พบพยานหลักฐานการค้าน้ำมันเถื่อนและการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมาก เสี่ยโจ้โดนตั้งข้อหาหลายคดี

11- เสี่ยโจ้ถูกนำตัวไปฟังคำตัดสินคดีไม้เถื่อนที่ศาลปัตตานี ซึ่งศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 9 เดือน แต่ระหว่างรอฟังคำพิพากษาคดีหวยเถื่อน เสี่ยโจ้หนีจากที่ควบคุมของศาลไปได้อย่างอุกอาจ โดยมีตำรวจนายหนึ่งให้ความช่วยเหลือ จากนั้นเขาหนีไปต่างประเทศ เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ ตำรวจคนดังกล่าวถูกออกจากราชการ

12- แต่อยู่ ๆ ในปี 2560 ก็มีข่าวว่าเสี่ยโจ้กลับมาอยู่บ้านที่ปัตตานีแล้ว พอนักข่าวไปถามตำรวจ ตำรวจอ้างว่าเสี่ยโจ้มามอบตัวแล้ว

13- นักข่าวพบว่าเสี่ยโจ้มีหมายจับค้างเก่าตั้งแต่ปี 2544-2560 รวม 14 คดี แต่เกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้นเมื่อ 7 คดีขาดอายุความเพราะไปติดอยู่ชั้นอัยการ และบางคดีถูกถอนหมายจับ ทำให้เสี่ยโจ้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

—————
⚫️ ถูกจับครั้งที่ 3 และการหายตัวไป
:
14- ปี 2564 เสี่ยโจ้ถูกจับอีกครั้งที่ห้วยขวาง จากหมายจับค้างเก่าคดีไม้เถื่อน และคดีฟอกเงินน้ำมันเถื่อน เสี่ยโจ้ถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ปัตตานี แต่เรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อคดีไม้เถื่อนถูกถอนฟ้องเพียงข้ามคืน ส่วนคดีฟอกเงินอัยการสั่งไม่ฟ้อง

15- อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายคดีที่อยู่ในชั้นศาล แต่ศาลให้เสี่ยโจ้ประกันตัว พอได้รับการประกันตัวก็เกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้นอีกเมื่อเสี่ยโจ้หายตัวไปอย่างลึกลับ ต่อมาทราบว่าเขาหนีไปกบดานอยู่ที่กัมพูชา และยังอยู่ที่นั่นจนถึงปัจจุบัน

—————
⚫️ เรือน้ำมันเถื่อนที่หายไป
:
16- มีนาคม 2567 ตำรวจน้ำจับกุมเรือน้ำมันเถื่อน 5 ลำได้ในอ่าวไทย พบว่า 2 ลำเป็นเรือเปล่า อีก 3 ลำบรรทุกน้ำมันเถื่อน ต่อมาทราบว่า 3 ลำที่มีน้ำมันเป็นเรือของเสี่ยโจ้ ตำรวจนำเรือทั้งหมดมาจอดเก็บไว้ที่ท่าเรือตำรวจน้ำสัตหีบ

17- วันที่ 9 มิถุนายน มีคลื่นลมแรง ตำรวจเกรงว่าเรือจะกระแทกเสียหาย จึงสั่งให้เอาเรือ 3 ลำที่มีน้ำมันไปจอดในอ่าวสัตหีบแทน อยู่ห่างจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำเพียง 100 เมตร ตำรวจสามารถมองเห็นเรือได้ตลอด

18- เช้าตรู่วันที่ 12 มิถุนายน เกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้นอีกครั้ง เมื่อตำรวจพบว่าเรือทั้ง 3 ลำอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว ตำรวจน้ำออกไล่ล่าแต่ไม่พบ

19- พบว่าเรือทั้ง 3 ลำหนีไปทาง จ.ตราด แล้วข้ามฝั่งไปกัมพูชา ประเทศที่เสี่ยโจ้กบดานอยู่

—————
⚫️ เรือที่กลับมา (แต่น้ำมันหายไป)
:
20- วันที่ 16 มิถุนายน เกิดเรื่องมหัศจรรย์เมื่อเรือ 3 ลำนี้ติดต่อขอมอบตัว อ้างว่าถูกตำรวจไทยกดดันอย่างหนัก พอตำรวจน้ำไปรับเรือกลับมาก็พบเรื่องมหัศจรรย์อีก คือน้ำมัน 3 แสนกว่าลิตรที่อยู่บนเรือหายไปแทบทั้งหมด ส่วนลูกเรือที่มีอยู่ 16 คน เหลือกลับมาเพียง 8 คน กับน้องหมา 7 ตัวที่เลี้ยงไว้เฝ้าเรือ

21- คนใกล้ชิดของเสี่ยโจ้บอกสื่อว่า เสี่ยโจ้จ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐเดือนละ 5-10 ล้านบาท เพื่อเปิดทางการค้าน้ำมันเถื่อน และลูกเรือคนหนึ่งบอกสื่อว่า ตอนแรกเจ้าของเรือต้องทุ่มเงินถึง 30 ล้านบาท เพื่อสร้างความมหัศจรรย์ให้เรือ 5 ลำพร้อมน้ำมันหายตัวได้ แต่สุดท้ายตกลงกันได้ที่ลำละล้านกว่าบาท เเละนำเรือ 3 ลำออกไปก่อน

22- ต่อมามีไลน์หลุด เป็นไลน์ที่เสี่ยโจ้แชตคุยกับตำรวจน้ำยศผู้กำกับอักษรย่อ น. ซึ่งทำหน้าที่ “แม่บ้าน” คอยดูแลจัดการแทน “นายใหญ่” โดยทั้งคู่คุยกันหลังเรือ 5 ลำถูกจับเมื่อเดือนมีนาคม

23- ในไลน์เสี่ยโจ้ถามผู้กำกับ น. ว่าจับเรือของตนทำไม ทั้งที่เป็นเรือที่ “ดูแลรายการ” ผ่านผู้กำกับคนนี้ ผู้กำกับควรจะต้องเซฟเขาไว้ ส่วนเรืออีก 2 ลำ เจ้าของเขาก็ดูแลรายการผ่านผู้กำกับเช่นกัน ผู้กำกับตอบว่าตนเป็นตำรวจตัวเล็ก ๆ ผู้บังคับบัญชาสั่งการก็ต้องทำตาม

24- เสี่ยโจ้ต่อว่าผู้กำกับว่า “คนทั้งทะเลที่ทำอาชีพเดียวกับผมเขาก็รู้ว่าพี่เป็นหน้าเสื่อเรื่องนี้ แล้วพี่ยังออกไปจับกันอีก แล้วต่อไปพี่จะทำงานหน้าที่นี้ยังไงครับ” ผู้กำกับคนนี้บอกว่าตนลาออกได้สักพักแล้วเพราะผู้บังคับบัญชาสั่งปลด

25- ตอนนี้มีตำรวจถูกสั่งย้ายแล้ว 4 นาย แต่คนไทยเชื่อว่าเรื่องมหัศจรรย์จะยังไม่หมดแค่นี้

—————
◾️ สรุปและเรียบเรียงจาก: Manager Online, ห้องข่าวภาคเที่ยง ช่อง 7, สำนักข่าวอิศรา, ข่าวช่อง 8, อมรินทร์ทีวี, Thai PBS, PPTV

เสี่ยโจ้ Escobar

เรื่อง"มหัศจรรย์"ที่ชาวบ้านเห็นกันเป็นเรื่อง"ธรรมดา"

Catch me if you can เสี่ยไม่ได้กล่าวไว้

เงินนนเท่านั้นน ทำอะไรก็ได้

ก้อง เต่า ชาวเข็มกลัด ทำไรไม่ได้หรอ

มีหัวข้อให้คุยเล่นกับแม่เพิ่มอีกแล้ว โดนจับทีนึงนั่งฟังแม่เล่าความหลังทีนึง

โดนจับบ่อยไม่พอดันรอดทุกที

รายได้คืออย่างโหด อย่างว่าเงินหมุนเข้าเป๋าเดือนเป้นล้านๆ ล่ะนะ แต่ก็เสี่ยงอย่างที่เห็น เหมือนใน ss วันก่อนมีเล่าเ้รื่องนี้เหมือนกัน

EL ชาโจ้

พี่ไม่เปิดปั้มน้ำมันเองเลยละครับ

แล้วไม่อยากจะคิดว่า

ในไทยจะมีแบบเสี่ยโจ้กี่วงการ

อยุ๋ในกำกับบิ๊กต่อทั้งนั้น

ทำไมล่ะโจ้ ขาดส่งหรือส่งเท่าเดิม

ไทยเราควรเก็บภาษี ให้เยอะขึ้น เพื่อให้ไม่มีส่วย