ไม่ได้เหมารวมทั้งหมดทุกคนนะฮะ แต่จากที่ผมเห็นส่วนใหญ่คนรุ่นใหม่ที่ยังอายุไม่เยอะมาก โดยเฉลี่ยจะยอมรับและเข้าใจความแตกต่างของตัวบุคคลได้มากกว่าคนที่มีอายุหน่อย ทั้งเรื่องบุคคลิกภาพ เพศ ศาสนา เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นฮะ

การศึกษาที่ไม่ได้ถูกครอบโดยรัฐเพียงอย่างเดียว +วัฒนธรรมไทยเปิดกว้างพอสมควร

คนรุ่นเก่า ประสบการณ์เยอะแต่โลกแคบ

คนรุ่นใหม่ ประสบการณ์น้อยแต่โลกกว้าง

อนาคตคนรุ่นเราก็จะโลกแคบ ตามไม่ทันโลกเหมือนคนรุ่นหลังนั้นแหละ

อนาคตโลกเราอาจจะวกกลับมาเป็นไม่เห็นด้วยกับความแตกต่างก็ได้ครับ อาจจะด้วยเหตุผลบางอย่างเช่น มนุษย์ใกล้สูญพันธ์ อัตราเกิดแบบน้อยลงมากๆ ถึงตอนนั้นรัฐบาลต่างๆอาจมีกฏหมายแปลกๆออกมา

คนรุ่นใหม่มี WWW.
คนรุ่นเก่ามีแค่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย

ตัวแปรหลักผมว่า อินเตอรฺเน็ตครับ +การเดินทางไปไหนมาไหนที่สะดวกง่ายขึ้น ทำให้คนมีความรู้ข้อมูล ประสบการณ์ ไม่เหมือนเมื่อก่อนครับ โลกมันเชื่อมกันมากขึ้น

มันก็ปกตินะ มันเป็นเรื่องที่สังคมหล่อหลอมกันมา
คนที่เค้าโตมาจากสมัยที่ยังมีทาส สมัยคนดำยังไม่มีสิทธิ ผู้หญิงไม่มีสิทธิ เพศที่สามไม่มีสิทธิ เค้าก็ซึมซับมาแบบนั้น คนที่โตมาในยุคถัดๆมาที่ค่อยๆเปิด ก็ซึมซับตามยุคสมัยของตัวเอง

อย่างสิทธิสตรี ตะวันตกอาจจะว่าเอเชีย อิสลามล้าหลัง แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าในอดีต ผู้หญิงตะวันตกก็เคยไม่มีสิทธิ

เห็นใน fb ยุค 70 ผู้หญิงไปวิ่งมาราธอนยังโดนต่อต้าน ทั้งที่ตอนนั้น อเมริกาไปได้ถึงดวงจันทร์แล้ว

อะไรที่เจอบ่อยๆ จะชินไปเอง
อารมแบบคุณเจอคนดำ ครี้งแรกคงแปลกตา แต่ถ้าเจอทุกวันก็ชินตาไปเอง

สมัยก่อนก็มีพวกฮิปปี้แหวกสังคมมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

แค่สมัยนี้คนมันรวมกลุ่มกันง่ายแค่มีอินเตอร์เน็ต มันเลยมีอิทธิพลมากกว่าเดิม

อินเตอร์​เน็ต​

อินเตอร์เน็ท
มันช่วยเปิดโลกให้กว้างขึ้น แล้วสำหรับวัยกำลังโตกำลังเรียนรู้ เค้าได้เห็นได้รู้จักความหลากหลายจากทุกมุมโลกอะ ถ้าเทียบกับสมัยผมเด็กๆการได้รู้จักโลกคือต้องพาตัวเองไป สมัยนี้ไม่ต้อง นั่งอยู่กับบ้านไถมือถือก็รู้แล้ววัยรุ่นเมกาคิดไง โลกกำลังสนใจอะไร
แล้วอย่างเด็กผู้ชายที่สงสัยเรื่องเพศตัวเองงี้ สมัยผมถ้าโตมาในชุมชนที่ไม่มีกะเทยเลย มันก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร คิดว่าแปลกแยก ผิดปกติ ไม่กล้ายอมรับตัวเอง แต่ตอนนี้มันมีที่ทางให้เค้าอยู่ในโซเชียลแล้วอะ มันก็เรียนรู้+ยอมรับอะไรๆง่ายขึ้นเยอะ ง่ายกว่ามาเห็นมาเจอตอนอายุ 30-40 ป่านนั้นมันฝังหัวไปหมดแล้ว

คนส่วนใหญ่ ไม่อยากโดนสังคมรุมประณาม หรือ โดนขับออกจากกลุ่ม คนก็เลยไหลๆไปตามกระแสสังคม

ถ้ามันไม่ทำให้ชีวิตมีปัญหาก็ปล่อยผ่านไป

ส่วนตัวผมว่าไม่ต่างกันเท่าไหร่นะ เมื่อไหร่ที่มีคำเรียกในเชิงลบ พวกสลิ่ม ส้ม แดง มันก็คือยังยึดติดอ่ะ

ผมไม่ได้มองคนที่ฝั่ง อายุ แต่มองที่เจตนา การกระทำ คุณแก้ตัวไม่ได้หรอกถ้าคุณทำสิ่งที่ผิดเพื่อสิ่งที่ถูก เพราะสุดท้ายแล้วมันก็เริ่มด้วยความผิด

บริบทต่างกัน ไม่ใช่ว่า เจ๋งกว่า ฉลาดกว่า อะไรแบบนี้หรอก

ส่วนตัว มองว่า แต่ละยุค คนมันไม่เหมือนกัน เทียบกันยาก

แต่แปลก ถ้าไม่นับเรื่องการเมือง มุมมองสังคม

ผมมองว่า คุณภาพคน ไม่ได้ดีเท่าเมื่อก่อน

มุมมอง ค่านิยม มันก็ตามยุคสมัยครับ ตอนเราแก่ ผมว่าเราก็อาจจะเป็นเหมือนรุ่นคนแก่ปัจจุบันก็ได้ เราอาจจะมีขอบเขตแต่ละอย่างไม่เท่ากัน ในแต่ละยุคสมัย เด็กรุ่นใหม่ในอีก 30 ปีข้างหน้าอาจจะนิยมทำอะไรที่ตอนนั้นเราไม่โอเคก็ได้ครับ