หลายความเห็นเยอะไปหมด
เอาเป็นว่า คนที่ไม่เคยมาอยู่ ไม่เข้าใจหรอก
ผมอยู่และทำงานให้ทั้งกลุ่มมุสลิม และไทยพุทธ
มีแฟนเป็นคนมุสลิมท้องที่ 3จังหวัดด้วย

ผมคนเหนือ เชียงใหม่เลย

คนมุสลิมส่วนใหญ่ที่นี่ไม่ได้โหดร้ายเท่าคนไทยพุทธแบบเรานะ
ความหัวร้อนน้อยกว่าด้วย ไม่ได้อยากแบ่งแยกดินแดนอะไรเลย

เรื่องศาสนา ยอมรับเลยว่าเคร่ง แต่เขาเคร่งในเรื่องศาสนา ไม่ใช่เรื่องหัวรุนแรง ก่อการร้าย แบ่งดินแดนไรครับ

มันมีเรื่องผลประโยชน์ ทั้งภาครัฐและเอกชนเยอะ ไม่ขอลงรายละเอียด
คนที่ร่ำรวยในพื้นที่ ส่วนหญ่ เป็นคนไทยพุทธนะครับ

ผมเข้าใจมากๆ พอได้มาอยู่ เอื้อประโยชน์ ทั้งการจัดจ้างพิเศษ กฎหมายต่างๆ การได้รับการยกเว้น หรือเอาเพื่อตำแหน่ง
ศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เรื่องของความเชื่อ เราสามารถเอามาใช้เป็นเครื่องมือได้เลยครัย
ไม่ขอพูดเยอะ เอาเป็นว่า คิดกันไปไกล มีข้อมูลทั้งใช่และไม่ใช่

ผมมีคอนเนคชั่น ทั้งคนระดับล่าง จนถึงทำงานให้คนที่มีอำนาจในพื้นที่ บริษัทระดับท็อปของพื้นที่ รายได้หลายพันล้าน หลายเจ้าไปเจอมาทั้ง3จังหวัด
เขาไม่คิดจะย้ายออกจากที่นี่ด้วย เอาตรงๆ บางที่ที่ผมไป เพราะเขาอยู่ที่นี่ถึงร่ำรวย ใช้ประโยชน์จากช่องทาง
ถ้าไปทำที่อื่น ความสามารถไม่ได้เก่งเลย

คนพื้นที่ มุสลิมที่นี่ เขาอยากให้เอาทหารออกไปจากพื้นที่ด้วยซ้ำครับ และเด็กรุ่นใหญ่เลือกก้าวไกลกันหมด เอาง่ายๆแค่นี้ก็รู้แล้ว

ผมไม่เทาเลยคับ ขาวสะอาด ขาวแบบที่ถ้าไม่ใช่ 3จังหวัด
จะต้องแข่งกัน เพราะ 3จังหวัด ถึงมีเงื่อนไขพิเศษ รองรับ
เพราะความไม่สงบ เลยได้กันเต็มๆ

คุณไปอยู่นู่นพูดยาวีได้ไหมครับ

พูดยังไม่เก่งคับ แต่ฟังออก
คับ แฟนผมคน 3จังหวัด
อยู่มาสักพักแล้ว ให้เขาสอนครับ

มีครับ ที่เจ้าหน้าที่เราระบุตัวคนร้ายได้จากการชี้นำของชาวบ้าน และเราลงมือจัดการไปก็เยอะครับ

แต่ส่วนใหญ่ชาวบ้านเขาก็ไม่ได้อยากจะยุ่งเรื่องนี้ เพราะมันอันตราย ถ้าโจรรู้ว่าใครชี้นำก็อาจจะกลับมาฆ่าได้ และมันก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่จะทำได้อย่างเด็ดขาดอยู่ดี

ท่านต้องเข้าใจก่อนว่ากลุ่มแบ่งแยก ส่วนน้อย ที่ว่านั้น แม้จะน้อย แต่มันก็ไม่ได้น้อยขนาดจัดการได้ง่าย ๆ ปราบทีเดียวหมดได้แบบพวกแก๊งค์ค้ายาเสพติดแบบนั้น

หากนับจำนวนจริง ๆ อาจระบุได้ไม่เป๊ะ แต่คาดการณ์พวกกลุ่มแบ่งแยก+แนวร่วมในพื้นที่ แม้จะมีแค่ไม่ถึง 5% ของคนในพื้นที่ แต่มันก็เยอะหลักหมื่นอยู่ดีครับ (ในสมัยที่ผมไปอยู่)

ซึ่งคนเหล่านี้ปะปนอยู่ร่วมกันกับชาวบ้านทั่วไปเลยครับ ใช้ชีวิตตามวิถีชาวบ้านปกติ ตอนเช้ากรีดยาง ตอนบ่ายออกมาวางระเบิด พอตอนค่ำก็กลับบ้านไปนอนดูละครแรงเงา สามีตีตรา กันสบายใจ

และเขาไม่ได้กระทำซ้ำบ่อย เมื่อนายA ลงมือแล้ว ก็อาจจะใช้ชีวิตปกติไปอีกเป็นปี ๆ โดยไม่ลงมืออะไรเลย ผลัดเปลี่ยนคนอื่น นายB นายC มาทำแทน ซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับนายA เลย

มันจึงเป็นการยากที่จะระบุตัวได้ นอกจากจะจับได้ซึ่งหน้า หรือมีหลักฐานมากพอที่จะจับกุม

และอีกอย่างคือคนในพื้นที่จำนวนมากเอง ก็ไม่ได้อยากจะให้ความร่วมมือ เพราะบางทีก็เป็นลูกเป็นหลาน หรือญาติ เพื่อนของตัวเอง

ครอบครัวชาวบ้านจำนวนมาก มักจะมีลูกเยอะ มีลูกกัน4-5คน และ1ในนั้นคือแนวร่วม แม้คนในครอบครัวจะะรู้ แต่ก็คงไม่ชี้ตัวให้ทางการมาจับลูกของตัวเองอยู่แล้ว

เขาก็ได้แต่ค่อย ๆ กล่อมให้กลับใจ ให้เลิกเป็นโจรกันมากกว่า ให้คน ๆ นั้นรู้ได้ด้วยตัวเอง

บางคน เรารู้ว่าเขาอาจจะเป็นแนวร่วมก็จริง แต่ถ้าเขายังไม่ได้ลงมือทำอะไร เราก็ไม่สามารถจะไปทำอะไรได้ ทำได้แค่คอยจับตามอง

หากทางเจ้าหน้าที่ไปทำอะไรรุนแรง ไปฆ่าเขาตาย มันจะยิ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับญาติพี่น้องของเขา จากปกติไม่ใช่แนวร่วม ก็อาจจะกลายเป็นผันตัวไปเป็นแนวร่วมเพื่อล้างแค้นให้พี่น้องตัวเอง

มันเหมือนกับไฮดรา ถ้าตัดไป1 ก็จะงอกมาอีก 2-3-4 ได้ ดังนั้นเราต้องปล่อยให้เขาเหี่ยวตายไปเอง หรือกลับใจได้เองดีกว่า

ทุกวันนี้ทางกองทัพก็ใช้วิธีนี้แหละครับ ยื้อไปเรื่อย ๆ แข่งความอดทน และเราจะไม่มีทางแพ้ เพราะทหารสามารถสลับเปลี่ยนกันมาได้เรื่อย ๆ ไม่มีหมด

แต่พวกกลุ่มแบ่งแยก และแนวร่วม นับวันจะยิ่งลดน้อยลง เมื่อพวกแกนนำตัวตึงที่อุดมการณ์แรง ๆ เขาแก่ตายไปเอง เด็กรุ่นใหม่ ๆ เขาจะรู้ดีว่าควรใช้ชีวิตแบบไหนดีกว่า ด้วยสังคมยุคปัจจุบันที่ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของโลกเข้าถึงได้ง่าย มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้คนเหล่านี้ตาสว่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆ

คนเรายังไงก็ต้องอยากใช้ชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย มากกว่าจะไปใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อนตามป่าเขา เพื่ออุดมการณ์ เพื่อใครก็ไม่รู้ที่ไม่รู้ว่ามีตัวตนหรือเปล่า

จากสมัยก่อน มีก่อเหตุถี่มาก แทบจะรายวัน เป็นพื้นที่สีแดงแบบขั้นสูงสุด

มาช่วงหลายปีหลัง การก่อเหตุลดความถี่ลงไปมาก แต่อาจจะเปลี่ยนวิธีเป็นก่อเหตุน้อยครั้งแต่เน้นความรุนแรงมาก ๆ ให้มันมีอิมแพคมาก ๆ เพื่อแสดงตัวว่ายังอยู่นะ ยังไม่ได้ล้มหายดับสูญไป

ช่วงไหนที่การป้องกันเริ่มหย่อนยานก็จะมีเหตุมาต่อเนื่องถี่ ๆ แต่ช่วงไหนที่เจ้าหน้าที่เข้ม ก็จะเงียบสงบ วนเป็นลูปไปแบบนี้


หากจะใช้วิธีที่หลายท่านบอกว่าให้ใช้กำลังรุนแรงจัดการขั้นเด็ดขาดไปเลย ในความเป็นจริงมันไม่จบหรอกครับ

จริงอยู่ว่าสามารถใช้กำลังทหารบุกตีหมู่บ้านที่(คาดว่า)จะมีแนวร่วมเยอะ ๆ ได้

แต่หลังจากนั้นล่ะ ? ชาวบ้านที่เหลือจะทำอย่างไร ทหารก็จะต้องลงไปประจำพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์อีกนาน เพราะกลุ่มโจรอาจจะกลับมาตีคืนเมื่อไหร่ก็ได้ เราต้องเสียงบประมาณไปอีกเท่าไหร่ ?

หากจะให้ทหาร ตำรวจ เข้าประจำควบคุมสถานการณ์ในทุกหมู่บ้านเลย จะต้องใช้กำลังพลเยอะมาก และงบประเทศมหาศาลจะต้องหมดไปเพิ่มอีกมากกับเรื่องนี้ ซึ่งมันไม่คุ้มหรอกครับ

เราจึงเลือกใช้ยุทธวิธีแบบนี้ ยื้อไปเรื่อย ๆ วัดความอดทน รอให้คนตาสว่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วปัญหามันจะหมดไปเองครับในอนาคต

อาจจะใช้เวลานานหน่อย 20-30ปี แต่มันคือทางที่ดีที่สุดและใช้งบประมาณน้อยที่สุดแล้วครับ

ส่วนเรื่องอายุราชการคูณ2นั้น ถูกต้องครับในสมัยผมไปอยู่นะ แต่ในยุคปัจจุบันนี้ผมไม่แน่ใจว่าได้ทั้งหมดแบบนี้แล้วหรือเปล่านะครับ

.