เปิดใจ “อิ๋ว เสาวลักษณ์” จากนักร้องดาวรุ่ง มีบ้าน 2 หลังมีเงินกว่า 10 ล้าน เดินสายร้องเพลงออกทีวี ทั่วประเทศ กลับกลายเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีแม้กระทั่งที่ซุกหัวนอน

จากกรณีที่มีผู้ใช้บัญชีติ๊กต๊อกชื่อ “pramotpanket” ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอหญิงเร่ร่อนวัยกลางคน โชว์เสียงร้องอันไพเราะราวกับนักร้องมืออาชีพ ทำให้ผู้ชมต่างรู้สึกทึ่งและประทับใจ ต่อมาชาวโซเชียล พยายามสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมจนพบว่า หญิงคนนี้คือ “อิ๋ว เสาวลักษณ์” อดีตนักร้องที่เคยมีชื่อเสียง

ในวงการเพลงลูกทุ่ง ใช้ชื่อในวงการว่า “เอ สะเลเต” เธอเคยร้องเพลงตามคาเฟ่และงานต่างๆ ในพื้นที่อำเภอสีคิ้วและจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงเคยเข้าร่วมการประกวดร้องเพลงในรายการโทรทัศน์ชื่อดัง “ไมค์ทองคำ” ด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุที่มากขึ้นและสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ทำให้เธอต้องแยกวงและห่างหายไปจากวงการเพลงหลายปี จนกลายเป็นหญิงเร่ร่อนที่เห็นในคลิปวิดีโอดังกล่าว

ล่าสุด วันที่ 2 มิ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับ “อิ๋ว เสาวลักษณ์” ซึ่งปัจจุบันไปพักอาศัยอยู่กับนางเสนาะ ชอบสุข อายุ 46 ปี เพื่อนบ้านที่รู้จักกัน เมื่อไปถึงบ้านดังกล่าว ได้พูดคุยกับ อิ๋ว เสาวลักษณ์ ซึ่งกำลังรู้สึกตื่นเต้นกับกระแสข่าวในโซเชียล ที่มีการพูดถึงเธออย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้



นางเสนาะฯ เล่าให้ฟังว่า รู้จักอิ๋วมานานแล้ว ตั้งแต่ช่วงที่เธอกำลังรุ่ง หลังจากนั้นก็หายหน้าหายตาไป ก่อนที่จะมาพบอีกครั้งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเห็นเป็นคนเร่ร่อน ไปนอนอยู่หน้าห้องน้ำในตลาดสดอำเภอสีคิ้ว จำได้จึงได้ชวนเธอมาพักอยู่ที่บ้านด้วยกัน เพราะรู้สึกสงสาร ที่จากคนเคยมีชีวิตที่ดี ต้องมาเป็นคนเร่ร่อนเช่นนี้

ด้านนายเทวัญ ชัยจันทึก อายุ 37 ปี หลานชายของอิ๋ว เล่าว่า เมื่อ 31 ปีที่แล้ว เคยอยู่ร่วมวงดนตรีกับอิ๋ว และเดินสายร้องเพลงไปทั่วประเทศ ก่อนที่อิ๋วจะถูกนายห้างชวนไปออกอัลบั้มที่กรุงเทพฯ ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ติดตามผลงาน ทราบว่าอิ๋วได้พบกับนักร้องดังมากมาย มีเอกราช สุวรรณภูมิ ช่วยแต่งเพลงให้ และเล่นมิวสิควิดีโอให้ ก็รู้สึกดีใจไปด้วย แต่หลังจากนั้นไม่ได้เจอกันอีกเลย มาพบอีกครั้ง ก็ตอนที่เริ่มติดยาเสพติด และเสียคนไปแล้ว

ขณะที่ “อิ๋ว เสาวลักษณ์” หรือน.ส.เสาวลักษณ์ แกมขุนทด อายุ 46 ปี เล่าให้ฟังถึงเส้นทางชีวิตเธอว่า เธอเป็นคนที่ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ตอนอายุ 15 ปีจบชั้น ม.3 ได้ไปดูวงดนตรี “หนึ่งนคร” ของแสนรัก เมืองโคราช ซึ่งเป็นวงดนตรีดังของเมืองโคราช ที่มาเล่นอยู่ที่วัดหลวงปู่โต อ.สีคิ้ว (วัดสรพงษ์)



ทำให้เกิดความประทับใจ และได้สมัครเข้าไปเป็นแดนเซอร์ที่วงตั้งแต่นั้นมา ระหว่างที่เป็นแดนเซอร์ ก็ฝึกหัดร้องเพลง กับนักร้องในวง จนสามารถไต่เต้าขึ้นไปเป็นนักร้องนำได้สำเร็จ และเดินสายไปร้องเพลงทั่วประเทศอยู่กับวงหนึ่งนคร เป็นเวลา 7 ปี กระทั่งนายห้างศิริพงศ์ ปรีดาพงศ์ แห่งค่ายเพลงช้างเผือก

ชักชวนไปออกอัลบั้มเพลงที่กรุงเทพ โดยใช้ชื่อในวงการว่า “เอ สะเลเต” ออกอัลบั้มแรกชื่อ “คนนี้ใช่เลย” มีทั้งหมด 11 เพลง แต่เพลงที่สร้างชื่อเสียงคือเพลง “รถติด” โดยออกอัลบั้มช่วงเดียวกับ ตั๊กแตน ชลดา นักร้องสาวโคราชเช่นเดียวกันออกอัลบั้ม “หนาวแสงนีออน”

โดยเธอได้เดินสายร้องเพลงในเวทีคอนเสิร์ตต่างๆ ทั่วประเทศ และออกทีวีหลายช่อง นอกจากนี้ยังมีผู้จัดการส่วนตัว ดูแลเรื่องคิวงาน และเงินรายได้ จนมีเงินนับสิบล้านบาท ซื้อบ้านหลังใหญ่ 2 หลังอยู่ที่ ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ระหว่างที่เธอกำลังรุ่งกับค่ายเพลงดังกล่าว ก็เริ่มหลงแสงสี

เที่ยวกลางคืน จนกระทั่งไปเกี่ยวข้องกับสุรา และยาเสพติด ส่งผลให้ร่างกายเริ่มอิดโรย หน้าตา ทรุดโทรม งานคอนเสิร์ตหดหาย ทำให้นายห้างไม่ต่อสัญญา ก่อนจะหันมาใช้ชีวิตเป็นนักร้องตามร้านอาหาร และรับจ้างร้องเพลงให้กับวงดนตรีอิเล็กโทนตามงานต่างๆ ซึ่งเงินที่ได้มาก็หมดไปกับการเที่ยวเตร่ ดื่มสุรา และเสพยาเสพติด



ขณะเดียวกันก็ได้ขายบ้านทั้ง 2 หลังออกไปในราคาหลังละ 2 แสนบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาประเมิน 3-4 ล้านบาท และนำเงินเหล่านั้นไปใช้กิน ใช้เที่ยวจนหมดตัว ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 4 ปี สุดท้ายเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ญาติต้องพาเธอไปบำบัดอาการทางจิต ที่โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์

เมื่อออกจากโรงพยาบาลมา ก็กลายเป็นคนเร่ร่อน อยู่ในตลาดสดสีคิ้ว จนกระทั่งมีคนไปพบ นอนอยู่หน้าห้องน้ำในตลาด และพาเธอมาอยู่ด้วยในปัจจุบัน ซึ่งเธอบอกว่า ที่เป็นคนเร่ร่อนเช่นนี้ ก็เพราะเป็นคนชอบใช้ชีวิตอิสระ อยากไปไหนก็ไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมายอะไร

แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบร้องเพลง เวลามีงานที่ไหน เธอก็มักจะชอบไปร้อง เต้น อยู่หน้าเวทีเป็นประจำ บางครั้งคนเห็นและจำได้ ก็จะให้ทิปพอได้เงินไปซื้ออาหารประทังชีวิต ซึ่งเธอก็คิดถึงชีวิตในช่วงเป็นนักร้องเช่นกัน ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปร้องเพลงบนเวทีคอนเสิร์ตอีกสักครั้ง




https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_8265853

ควรสงสารใช่ไหม

ไม่ควรสักนิด

มีคอมเม้นอย่าซ้ำเติมคนที่ผิดพลาดไหมคับมู้นี้

นี่คือทำลายชีวิตตัวเองด้วยมือตัวเองทั้งนั้น

ขายบ้านทั้ง 2 หลังออกไปในราคาหลังละ 2 แสนบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาประเมิน 3-4 ล้านบาท



กูล่ะงง

ถ้าไปโพสในเฟส

จะมีพวกขี้สงสาร.jpg เพียบ

เอาแค่ยืนระยะยังทำไม่ได้เลย

เหอๆ เที่ยวกลางคืน

แล้วก็ยาเสพติด หนักกว่านั้นคือ ขายบ้านหลังละ 2 แสน

ใช้ชีวิตคุ้มแล้วครับ

ขาดความรู้ ขาดจิตสำนึก มีเท่าไหร่ก็หมดได้
แต่จริงๆคนแบบนี้ก็เห็นมีเรื่อยๆ คนที่เก็บเงินไม่เป้น มีเท่าไหร่ต้องใช้จนหมด

อ่านถึง“หลงแสงสี สุรา ยาเสพติด”ก็คือจบละ ที่เหลือคือไม่ใช่ประเด็น

ยถา ตถา ครับ

งั้นเชิญอิสระต่อไปเหอะ

เอาโฉนดไปจำนำ แล้วไม่มีไถ่มากกว่า แถวบ้านนอกเป็นกันเยอะอยากยืมเงินแล้วเอาโฉนดไปวางไว้ให้ก่อน

ผมว่ายาเสพติดล่ะ น่าจะมีส่วนเยอะ

ชอบมากครับ เพลงครึ่งหนึ่งของชีวิตฟังอยู่บ่อย