โพสนึงใน FB เล่า ทำ Lasik มีแต่เท่าทุนกับผลเสีย จริงไหม?



อ่านทียาวมาก ส่วนใหญ่จะเล่าถึงผลเสียของการแก้ไขสายตาด้วย Lasik

คนใน SS ที่เคยทำคิดว่าไงครับ? หลังจากอ่านแล้ว คือเขาเป็น rare case
หรือว่ามันเป็นจริงๆดังที่เขาโพสที่ไม่แย่ลง ก็เท่าทุน(ไม่รบกวนการมองเห็น)

สรุปมันอันตรายจริงไหม แล้วทำไมคนส่วนใหญ่ถึงว่า ไม่น่ากลัวขนาดนั้น

สรุปให้ง่ายๆนะครับ

จริงๆการทำ Lasik หรือ Relex เพื่อแก้ปัญหาสายตา หรือความสะดวกสบายที่จะได้ไม่ต้องใส่แว่นเนี่ย ก็เป็นการรักษาคนไข้แบบนึง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว

แต่ปัญหาหลายๆอย่างที่คนทั่วไป (หรือเจ้าของโพสท์ที่เป็นแพทย์ศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ) ไม่ได้นึกถึงกัน คือการผ่าตัดทุกอย่างมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือ complication ได้เสมอ ซึ่งในประเทศไทยการทำ Lasik หรือ Relex อย่างที่ทราบกันคือมันมีเรื่องของธุรกิจมายุ่งด้วยเยอะ ยิง ad ขายของกันกระหน่ำทั้งในเฟสหรือ social media อื่นๆ โดยการโฆษณาส่วนมากก้จะเอาแต่ข้อดี หรือรีวิวดีๆมาให้เราเชื่อถือ แต่ในเรื่องของเคสที่เกิดภาวะแทรกซ้อน จะไม่พูดถึงเลย (หรือถ้าเกิดขึ้นจริง ในไทยถือว่าการรายงาน complication ถือว่าน้อย ด้วยนิสัยคนไทยที่มีความอายเวลาเสียเงินไปทำสิ่งพวกนี้แล้วแย่ลง โดยไม่บอกใคร หรือรวมทั้งแพทย์หรือโรงพยาบาลที่ทำการผ่าตัดก็ไม่ได้รายงานจำนวนเคสที่เกิดภาวะแทรกซ้อนตามจริง เหมือนที่ต่างประเทศเค้าทำ) ทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อไปอีกว่าพวกนี้ทำแล้วดีแน่ๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก

โดยตามจริงแล้วพวกภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้ก่อนผ่าทางแพทย์หรือ รพ.ที่ผ่าตัดเค้าจะแจ้งให้อยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะคร่าวๆหรือแบบละเอียด แต่คนส่วนใหญ่ที่มีความตั้งใจจะไปทำตอนนั้นอาจจะไม่ได้สนใจอะไรมากแล้ว

ความสำคัญของภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเวลาทำหัตถการพวกนี้คือ มันแก้ไขไม่ได้ด้วยแว่นครับ นั่นหมายถึงมันจะเป็นภาพที่เราจะมองเห็นไปอีกตลอดชีวิต หรือบางคนก็จะปวดตา / สู้แสงไม่ได้ / ขับรถกลางคืนไม่ได้ / ภาพเบลอมากกว่าเดิม / เห็นภาพซ้อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้บางทีก็ดีขึ้นมาบางส่วนเมื่อเวลาผ่านไป แต่หลายๆคนก็ไม่ดีขึ้น แล้วต้องทนอยู่กับมันไปทั้งชีวิต

อย่างแพทย์เจ้าของโพสที่ทำงานเป็นหมอผ่าตัดทางเดินปัสสาวะช่วงแรกก็มีปัญหาจนทำการผ่าตัดไม่ได้ และมีปัญหาเวลาตรวจคนไข้ รวมถึงชีวิตประจำวันที่ลูกมาอยู่ต่อหน้าตัวเองแต่ก็มองไม่เห็นหน้าลูก ได้แค่ยื่นมือไปสัมผัสเพื่อให้รู้ว่าลูกอยู่ข้างหน้าจริงๆ แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นมาบ้างจนสามารถผ่าตัดได้และใช้ชีวิตประจำวันได้ แต่ก็ไม่ดีเท่าเดิมอยู่ดี

สิ่งที่หมอคนนี้ต้องการสื่อคืออยากให้ทุกคนได้ศึกษาถึงภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นได้อย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจไปทำ Lasik หรือ Relex ครับ ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ดีและปลอดภัย 100% สำหรับทุกคน ถ้าคิดแล้วว่าคุ้มค่าหรือพร้อมรับมือเวลาเกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ได้ ก็ทำได้ตามปกติครับ

ตอบยากเลยครับ คนรอบตัวผมที่ทำมา ตอน 4-5 ปีแรก คือพูดเป็นเสียงเดียวกัน เหมือนได้เกิดใหม่

ตอนนี้ผ่านมา 8 ปี ทุกคนบ่น คือสายตาคนเราเปลี่ยนแปลงตามเวลา และตามวิธีการใช้งาน ตอนนี้ 5 ใน 8 คนต้องกลับมาใส่แว่น ไม่ใส่ตลอด ก็ใส่ตอนอ่านหนังสือ เพราะสายตามันเปลี่ยนแล้ว แต่ที่เสียไปเลยตั้งแต่ปีแรกที่ทำคือ ขับรถตอนกลางคืนไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียว หมอบอกว่ามีโอกาสขับไม่ได้บ้าง แต่เอาจริงๆไม่ใช่เลยครับ 8 คนบ้านผมที่ทำมา ไม่มีใครขับได้เลยแม้แต่คนเดียว

ลองนึกสภาพตอนนี้ครับ แว่นก็ต้องกลับมาใส่ กลางคืนก็ขับรถไม่ได้ มันไม่ได้เกิดขึ้นใน 4-5 ปีครับ อันนี้คือ 8 ปีขึ้นไปแล้ว ผมยังนึกโทษเวรโทษกรรมเลย กระจกตาย้วย ทำ Relex ไม่ได้ มาวันนี้กลางคืน คือผมเป็นเดียวในบ้านที่ต้องคอยขับรถรับส่งคนในบ้านช่วงเวลากลางคืน

เพื่อนผมทำมาจะสองปีละครับ มันบอกนี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่มันเสียเงินมา

ส่วนมากที่ไม่ทำกันคือราคามันสูงมากกว่า เรื่องผลข้างเคียงก็ฟังหูไว้หู

ไม่ได้เข้าไปอ่านนะ คนใกล้ตัวทำกันเยอะเหมือนเกิดใหม่เขาว่างี้กันหมด

แฟนผมหมอบอกทำไม่ได้ เพราะตาอ่อนแอไรสักอย่าง


ผมว่าเคสนั้นหมอวิเคราะห์ไม่ดีอยากจะทำเอาเงินหรือเปล่า เพราะจริงๆมันต้องเช็คก่อนนะว่าทำได้ไหม ถ้าทำไม่ได้แล้วฝืนทำมันมีโอกาสเกิดอันตรายต่อดวงตา

ยังไม่ได้อ่านนะครับ แต่สำหรับผม ทำมาแล้ว 8 ปี
ย้อนเวลากลับไปก็จะทำอยู่ดี มันทำให้ผมได้เห็นโลกใบใหม่

ผมทำมา 8 ปีละ ปัจจุบันก็ยังดีอยู่

เป็นการจ่ายเงิน ที่รู้สึกคุ้มค่าที่สุดในชีวิตละ

นึกภาพว่าแต่ก่อนดู youtube 360
แล้วเปลี่ยนมาดู 4k ละกันครับ

แต่มันเปลี่ยนตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ youtube นะ


ปล ไม่ได้เข้าไปดูใน fb ที่แจ้งมานะครับ

เลสิคแบบไหนอ่ะ ทั่วไป femto relax smile icl แบบดั้งเดิมราคาจะถูกสุดแต่ความเสี่ยงcomplicationก็สูงตาม ปกติก่อนทำหมอตาน่าจะต้องบอก complication ต่างๆ พวก แสงจ้าตอนกลางคืน บางคนไม่เป็น บางคนเป็นนิดเหน่อย บางคนเห็นเป็นวงดวงอาทิตย์ขับรถไม่ได้ ขึ้นกับตัวบุคคลอ่ะอันนี้ ส่วนพวกตาแห้ง มองใกล้ไม่ชัดต้องปรับโฟกัสบ่อยๆ อันนี้ปกติ หยอดน้ำตาเทียม พัดสายตาบ่อยๆ อย่าเล่นหน้าจอเยอะ ก็ช่วยได้ เรื่องพวกนี้ขึ้นกับสภาพตาแต่ละคน บางคนความหนากระจกตาบาง แต่ฝืนทำเลสิคแทน icl ความเสี่ยงก็สูงตาม

เลสิกเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับผม เหมือนเกิดใหม่ครับ

หลักๆ คือเจ้าของโพสตอนจะไปทำ เขามองแต่ข้อดีของมัน คนส่วนใหญ่บอกว่าดี ทำให้ไม่ได้ตระหนักถึงภาวะแทรกซ้อน เลยต้องการจะเตือนคนที่จะทำว่ามันเกิดภาวะแทรกซ้อนได้นะให้คิดให้ดีก่อนไปทำเพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับดวงตา (ของเจ้าของโพสคือเห็นภาพซ้อนหลายเดือนกว่าจะดีขึ้น)

ผมสั้น+เอียง ทำเสร็จเหมือนได้ตาใหม่ โคตรกำไร

คนใกล้ตัว เค้ามีแต่บอกว่าดีมาก ๆ รู้งี้ทำนานแล้ว

ตอบยากเลยครับ คนรอบตัวผมที่ทำมา ตอน 4-5 ปีแรก คือพูดเป็นเสียงเดียวกัน เหมือนได้เกิดใหม่

ตอนนี้ผ่านมา 8 ปี ทุกคนบ่น คือสายตาคนเราเปลี่ยนแปลงตามเวลา และตามวิธีการใช้งาน ตอนนี้ 5 ใน 8 คนต้องกลับมาใส่แว่น ไม่ใส่ตลอด ก็ใส่ตอนอ่านหนังสือ เพราะสายตามันเปลี่ยนแล้ว แต่ที่เสียไปเลยตั้งแต่ปีแรกที่ทำคือ ขับรถตอนกลางคืนไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียว หมอบอกว่ามีโอกาสขับไม่ได้บ้าง แต่เอาจริงๆไม่ใช่เลยครับ 8 คนบ้านผมที่ทำมา ไม่มีใครขับได้เลยแม้แต่คนเดียว

ลองนึกสภาพตอนนี้ครับ แว่นก็ต้องกลับมาใส่ กลางคืนก็ขับรถไม่ได้ มันไม่ได้เกิดขึ้นใน 4-5 ปีครับ อันนี้คือ 8 ปีขึ้นไปแล้ว ผมยังนึกโทษเวรโทษกรรมเลย กระจกตาย้วย ทำ Relex ไม่ได้ มาวันนี้กลางคืน คือผมเป็นเดียวในบ้านที่ต้องคอยขับรถรับส่งคนในบ้านช่วงเวลากลางคืน

อยากทราบความเห็นจักษุแพทย์เหมือนกันครับ
ผมได้ยินแต่หมอสาขาอื่นบอกว่าเป็นหัตการที่คนทั่วไป หรือหมอสาขาอื่นที่ไม่ใช่จักษุแพทย์ทำกัน
แต่จักษุแพทย์จริงๆไม่ทำกัน
อันนี้คือ รพ ที่ผมอยู่ และเคยผ่านมานะ แต่ไม่รู้ที่อื่นๆเป็นยังไง
เพราะผมก็ไม่ทราบรายละเอียดหรือภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวจริงๆ

ผมทำมาเดือนตุลาปี62 ปัจจุบันก็สั้นขึ้นบ้างนิดหน่อย มันเป็นอะไรที่เปลี่ยนชีวิตมากเลยนะครับ ไม่ต้องใส่แว่นหรือคอนแทกเลนส์ ทำกิจกรรมเล่นกีฬาขับรถ ทำอะไรสะดวกขึ้นมากเลยครับ

สายตาหรือครับ

ตอนนี้มีปัญหาสายตายาว ตามอายุแหล่ะ อ่านมือถือยืดสุดแขนล่ะ
รำคาญเวลาใส่แว่นมาก พอใส่แล้วมองไกลเบลอ ใกล้ชัด
พอถอดแว่น ใกล้เบลอ ไกลชัด เซงมาก

ถามหน่อยครับถ้าทำแล้วมันจะกลับมาสั้น หรือ ยาวอีกมั้ย
หรือว่าต้องทำเรื่อย ๆ

พอมีที่แนะนำมั้ยครับ อยากไปทำเหมือนกัน