คิดว่าอีก 10 ปีจากนี้ถ้าท่านซื้อรถไฟฟ้า
ตีว่ารถจีน
หรือ Tesla ก็ตามแต่ คิดว่ารถเราจะตกรุ่นขนาดไหนครับ
ชาร์จช้า ???
วิ่งไกลขึ้น???
แรงขึ้น???
ทนขึ้น????
ถูกขึ้น???


ถ้าเทียบกับรถน้ำมันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว กับรถน้ำมันวันนี้ จะก้าวมากกว่าหลายเท่ามั้ยครับ

ชาร์ท10นาทีเต็มวิ่งได้1000โลที่ความเร็ว120ได้เมื่อไรก็เมื่อนั้นแหละจั๊บ

พัดลมที่บ้านเกิดมาก็เห็น40กว่าปียังใช้ได้อยู่

รถผมว่ามอเตอร์คงใช้ได้ปรกติ แต่แบตคงเสือมวิ่งได้น้อยลงเหมือนมือถือที่ใช้งานได้ระยะเวลาน้อยลง

เดาล้วนๆ ผมก็ใช้รถไฟฟ้าจีนอยู่2คันไม่เคยกังวลเรื่องพวกนี้

เดาเอา คงเปรียบเทียบเหมือนไอโฟนละมั่ง

มีตัวใหม่ๆมาเรื่อยๆ

คนก็เบื่อตัวเก่า แม้จะไม่แตกต่างกันมาก

แต่ก็ขายไปเอาใหม่อยู่ดี

รถไฟฟ้า=มือถือ
ซื้อวันนี้ปีหน้ามันก็มีสเปคใหม่กว่าเผลอๆครึ่งปีอีก
รุ่นเก่าก็ลดแลกแจกแถมสารพัด
10ปีนี่เป็นรุ่นโบราณแบตต้องมาโมแบตรุ่นใหม่ใส่เพิ่มแล้วมั้งแบตรุ่นเก่าไม่ผลิตมาขาย

เทคโนโลยี จะก้าวกระโดด ทุกๆ 5 ปี

ผมว่าไปไวกว่ารถน้ำมันเยอะ
ราคาตกเเบบยับๆในทุกๆปี

ไม่สังเกตุหรอ ทำไมลดราคากันรัวๆ มันมีเห็นผล เพราะมันเสื่อมไว

อยากให้รถไฟฟ้า เปลี่ยนแบตได้แบบมือถือที่สถานีเปลี่ยน
เปิดฝา ถอดออก จ่ายเงิน เปิดตู้แบต ดึงมาเสียบ ปิดฝา
ขับต่อได้เลย 4-5 นาทีจบ
แทนการใช้ปลั๊กไฟเสียบแช่ 30-50 นาที
อันนั้นก้าวกระโดดแน่นอน

รถน้ำมันอายุเกิน 10 ปี ก็ยังมีกำลังซื้อรองรับอยู่ แต่รถไฟฟ้าอายุ 10 ปี ผมยังมองไม่ออกว่ามีคนต้องการซื้อไหม เพราะเทคโนโลยีมันไปไวกว่ารถน้ำมัน ซึ่งรถไฟฟ้าอีก 10 ปีข้างหน้า มันว้าวกว่าตอนนี้แน่นอน อีกอย่างเทคโนโลยีที่ตกรุ่นราคาไม่ถูกเลย เทียบกับกรณี PC รุ่นเก่าๆได้เลย อะไหล่บางตัวแพงกว่ารุ่นใหม่อีกแต่ประสิทธิภาพห่วยกว่า

มองอีกมุมนะครับ
โดยแท้จริง รถที่เราใช้กันมาอย่างยาวนาน มันถูก"ดอง"และขายในสิ่งที่มีอยู่และพัฒนาแบบเรื่อยๆมากกว่า
แต่ใช่มันจะเกิดจากความตั้งใจทั้งหมดนะ มันเกิดจากการ"สูงสุด"แล้วของเครื่องยนต์สันดาปต่างหาก
จนกระทั่ง ต้องเอาไฟฟ้าเข้ามาผสมเรียกมันว่า"ไฮบริด"
ทำไมต้องเป็นแบบนั้น
1 โรงงานตัวถังแบบโมโนค๊อก ปั๊มชิ้นเหล็กแล้วประกอบเป็นโครงสร้าง ถูกสร้างขึ้นและลงทุนไว้แล้ว
2 เครื่องยนต์ เรื่องนี้สำคัญ เพราะมันเต็มไปด้วยชิ้นส่วนประกอบที่หลากหลาย เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมที่หล่อเลี้ยงอีกหลายๆ องค์กร ที่เกี่ยวข้อง
3 ชิ้นส่วนอะไหล่ ที่ยังทำเงิน เพราะ อายุของเครื่อยนต์สันดาปต้องปรับปรุงในช่วงเวลาในการใช้งาน

เหล่าค่ายรถสันดาปจึงเดินเข้าสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบได้ยากมาก ทางออกของพวกเขาคือ
คงสภาพเครื่องยนต์ไว้ แต่ปรับเปลี่ยน เชื้อเพลิงที่ถูกลง คำตอบคือ ไฮดรอเจน

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ การปรับเปลี่ยนรุ่น รูปแบบรถสันดาปจึงต้องไปแบบช้าๆ เติมโน่นนิด เปลี่ยนหน่อย
เราจะรู้กันด้วยปกติด้วยซ้ำ ว่าทุกๆ 2-3 ปี จะมี ไมเนอร์เชนจ์
ใช้เครื่องยนต์เดิม เปลี่ยนกันชน เพิ่มอะไรสักนิดหน่อย ให้เรารู้สึกได้ว่า
เฮ้...นายซื้อรถยนต์รุ่นใหม่นะ

-------
เมื่อ ยุคของพลังงานไฟฟ้าถูกกระหน่ำด้วย เทสลา และค่ารถไฟฟ้าจากประเทศจีน
ที่ไม่ได้มีโอกาศเติบโตด้วยแพลตฟอร์มของรถยนต์สันดาป
จีนจึงไม่รีรอที่จะทะลุช่องว่างของการเอาชนะ อุตสาหกรรมรถยนต์แบบเดิม ด้วย รถยนต์พลังไฟฟ้า

การเพิ่งเริ่มต้นด้วยเทคโนโลยี่รถไฟฟ้า ระบบต่างๆที่เป็นความขัดแย้งแบบเกิดขึ้นได้ไม่ง่ายนัก ในรถสันดาปที่พลังการขับคลื่อน
ต้องอาศัยเครื่องยนต์ เช่น แทรคชั่นคอนโทรล แน่นอนรถสันดาปก็มีครับ แต่กับรถไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์ในการขับเคลื่อน มันควบคุมโดย
คอนโทรลเลอร์ที่ไปในทิศทางเดียวกันได้ดีกว่าและประหยัดต้นทุนกว่า เป็นต้น
เมื่อรถไฟฟ้าเริ่มต้นมันดูจะได้รัปความนิยม และความเสถียรก็ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่าลืมว่า รถไฟฟ้าใช้เวลาไม่ถึง 15 ปี นับตั้งแต่มันเกิดขึ้นมาสู่
"ตลาด" จริงๆ
นับแบบอายุ มันก็ยังเพิ่งเริ่ม และยังมีทิศทางที่จะพัฒนาไปได้อีกโดยเรายังคาดการไม่ถูกว่ามันจะไปไกลได้เพียงไหน

เพียงเท่านั้นยังดูจะเบาไปด้วยซ้ำ
เมื่อ เทสลาใช้ระบบ ปั๊มตัวถัง 3 ชิ้นหลักเพื่อประกอบเป็นรถยนต์ มันลดเวลา ทุน และทรัพยากร อย่างมาก
จากที่แค่มอเตอร์ แบตเตอรี่ ชิ้นส่วนก็น้อยอยู่แล้ว ยังมีตัวถังที่ผลิตได้ถูก เร็ว ดี ตามมาอีก

เทคโนโลยี่แบตเตอรี่ ก็กำลังเดินไปสู่การพัฒนาที่ ยังเดาไม่ออกด้วยซ้ำว่า มันจะไปจบตรงไหน
ว่ากันว่า 1-2 ปีที่จะถึงนี้ Solid Stage Bettery กำลังจะมาแบบจริงๆจังๆ โดยค่ายญี่ปุ่น (จีนก็มีนะ ก็แข่งกันนั่นละ)

ถ้าถามว่า มันจะตกรุ่นเร็วไหม?
ส่วนตัวคิดว่า
เร็ว และเร็วมากด้วย
แต่..สิ่งที่รถไฟฟ้าที่ขายปี 2024 นี้มันจะห่วยกว่าแบบหน้ามือหลังมือไหม? คิดว่าไม่ขนาดนั้น
ทำไมผมคิดว่าเร็ว

1 แฟลตฟอร์ม GiGA press ถูกใช้ในหลายค่ายแล้ว กลายเป็นโมเดลของรถไฟฟ้า
2 แบตเตอรี่จะพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้อีก อาจจะเล็กลง ให้พลังงานมากขึ้น ชาร์จเร็วขึ้น หรือ....บลาๆๆๆ
3 อ้างถึงข้อ 1 เมื่อใช้การปั๊มตัวถัง ประกอบมอเตอร์เข้าไป ใส่ระบบควบคุมให้สมบูรณ์ นั่นหมายความว่า....
ตัวถังจะสร้างให้สวย แตกต่าง นั่งได้ 2 -4 -7 -11 คน ได้ทั้งหมด
สั้นๆ คือ แบตพร้อม มอเตอร์มี ตัวถังครบ รอแค่"กระดอง"

ลองดู Mi ที่เปิดตัวรถของพวกเขา เขากล้าที่จะขายในราคา(ที่บอกสังคมโลกว่า)ขาดทุน
พร้อมๆกับก็ ทำ ของแต่งเพิ่มเติม (gadget) เตรียมออกขายแทบจะทั้งคัน คือเปลี่ยนได้ทุกชิ้น
โมเดลเดียวกับ เทสลาที่ขายรถ แต่สามารถขายระบบการขับขี่ต่างหากได้


อายุรุ่นของรถสันดาปอาจจะมี 5-7 ปีในยุคก่อน มาถึงตอนนี้ 3-5 ปี
แต่รถไฟฟ้า อาจจะมีทุกปี เหมือนไอโฟน
เป็นความเห็นส่วนตัวที่ใช้รถไฟฟ้า และนั่งมองอุตสาหกรรมนี้ด้วยความสนใจ

เดี๋ยวนี้ขั้นทดสอบ ชาร์จแบต 10 นาที วิ่งได้ 300-400 กิโลเมตร แล้วนะ เหลือแค่ขายจริงเท่านั้น

10 นาที ก็แค่เข้าห้องน้ำ/ซื้อกาแฟ

ที่สงสัยคือพวกรถรุ่นที่ขายไปแล้ว พอถึงเวลาเปลี่ยนมาใช้แบตรุ่นใหม่ได้มั้ย

ถ้าจะเอาแบบคนขับสามารถถอดแบตสลับเองได้ เกรงว่าลูกนึงจะวิ่งได้แค่ 20 โลอะดิ

แบตมันโคตรจะหนัก มันจะสลับง่ายๆได้ยังไง

ตอนนี้ราคา รถไฟฟ้ามือสอง แทบไม่มีราคาเลย ส่วนนึงก็มากจากความกังวลในเรื่องความเสถียรของตลาดรถไฟฟ้านี่แหละครับ

มันต้องมีศูนย์เปลี่ยนแบตเตอรี่แบบยกชุดทั้งมือหนึ่งมือสองหรือแม้กระทั่งเช่าแบตรายปีเกิดขึ้นบ้างล่ะ

แต่ตลกอยู่อย่างคือพวกที่อคติกับรถไฟฟ้าขั้นสุด แบบได้ยินคนพูดถึงรถไฟฟ้าไม่ได้ต้องหัวฟัดหัวเหวี่ยงสรรหาคำมาเนิฟคนใช้รถไฟฟ้าต่างๆนาๆ ปัญหาของคนใช้รถไฟฟ้าคือคนที่ไม่ได้ใช้รถไฟฟ้าจริงๆนั้นแหละ