เครื่องบินโจมตีหลัก + เครื่องบินขับไล่ของไทย จะเหลือประจำการเพียง 3 จุด เท่านั้น

นครสวรรค์ F-16 MLU 1 ฝูง (คุมภาคตะวันตก / เหนือ)

สุราษฎร์ธานี Gripen 1 ฝูง (คุมภาคใต้)

นครราชสีมา ++รอจัดซื้อ++ 1 ฝูง (คุมอีสาน / ตะวันออก)
คือตอนนี้ที่โคราช ก็มี F-16 ประจำการอยู่ แต่เก่ามากแล้ว รอปลดประจำการอีก 5-6 ปี
ถ้าจัดซื้อรุ่นใหม่มาไม่ทัน จะทำให้การป้องกันทางอากาศฝั่งอีสาน น่าเป็นห่วงมาก

เพราะปกติการจัดซื้อรุ่นใหม่ กว่าจะได้เครื่องบินครบทั้งฝูง อาจใช้เวลาถึง 10 ปี

ทางกองทัพก็ยอมรับว่า เราเริ่มจัดซื้อล่าช้ากว่าแผนที่เตรียมไว้
เพราะปัญหาเรื่องโควิด พอกองทัพจะใช้งบส่วนนี้ ก็ห่วงเรื่องโควิด อยากให้ใช้แก้ปัญหาเรื่องนั้นก่อน

มีเครื่องบินโจมตีเบาคอยสนับสนุน ที่

นครสวรรค์ 1 ฝูง (T50-TH จากเกาหลีใต้ เพิ่งซื้อ ใช้ได้อีกหลายสิบปี มีรอส่งมอบ 2 ลำสุดท้าย กลางปีนี้)

อุดรธานี 1 ฝูง (อัลฟ่า เจ็ท ของเยอรมนี อัปเกรดแล้ว แต่เครื่องเดิม ๆ เก่ามากแล้ว 30 ปี)

อุบลราชธานี 1 ฝูง (F5 TH ของเมกา อัปเกรดแล้ว แต่เครื่องเดิม ๆ ก็เก่ามากแล้ว 30 ปี+)

เชียงใหม่ 1 ฝูง (รอส่งมอบภายในปี 67 รุ่น AT6-TH จำนวน 8 ลำ)


และเป็นที่น่าสังเกตว่า เครื่องบินโจมตีหลักของไทย ถูกลดขนาดจำนวน / ฝูงลงด้วย
ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณ

ลดขนาดของฝูงลงด้วย เหลือประมาณ 12-14 ลำ/ฝูง เมื่อก่อนเคยมี 16-18 ลำ/ฝูง



ด้วยขนาด และพื้นที่ของประเทศไทย รวมทั้งศักยภาพด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ของประเทศเพื่อนบ้าน

ในอนาคตไทยควรเพิ่มจำนวนฝูงบินรบหรือไม่ หรือ เพิ่มขนาดของฝูงให้ใหญ่ขึ้นหรือไม่ ?

เชียร์ของฝั่ง กริปเพ่น ละกันครับ จะได้ไม่ซ้ำค่าอเมริกันกับรัสเซีย

ถ้าพม่าล้ำเข้ามาอีก จะบินขึ้นทันมั้ย

ผมว่าอนาคตคงไม่มีใครขับเครื่องบินยิงปิ้วๆกันเเล้วล่ะ

เมืองไทยก็เป็นเมืองขึ้นจีน+ฝรั่งไปแล้วประมาณนึง ถ้าไทยโดนผมว่าเดี๋ยวมีคนมาช่วยเอง

ลดค่าไฟดีกว่าครับ

ไปเน้นพวกโดรนดีกว่ามั้ย ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย

แม้แต่สงครามเต็มรูปแบบอย่างรัสเซียยูเครน ยังไม่เห็นการสู้รบกลางอากาศเลย เป็นรูปแบบอากาศสู่พื้น พื้นสู่อากาศมากกว่า

แล้วอาเซียนจะเอาเครื่องบินรบมายิงกันนี่แทบเป็นไปไม่ได้ มีแค่พอประคองก็พอละ

เอาโดรนดีกว่า แล้วก็ทำไมไม่ทำเอง หรือให้ ผู้ประกอบการไทยทำ จะได้ซื้อภายในประเทศ

รู้ๆ กันอยู่ครับ ว่านัยยะมันคืออะไร

อยากได้กริฟเฟ่น เห็นเขาว่าจะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ด้วยนิ

ต่อยอดในระยะยาว

ไปเน้น UAV ลาดตระเวนบ่อยๆเอา คุ้มกว่า

เอาจริงๆ ที่จะจัดซื้อรอบนี้คือเอามา ฝูง102 ที่จะเริ่มทยอยปลดประจำการ แล้วอีก4-5ปีปลด 211 ซึ่งมันเกือบๆ30 ลำเลย แต่มาดูราคาที่คาดว่าจะเสนอช่วงกลางเดือนนี้
F16 70/72 ราคารวมอาวุธและระบบช่วยเหลือ อยู่ที่ลำละ 115-120ล้านเหรียญ

กริเพนE/F ราคารวมอาวุธ ระบบช่วยเหลือ การถ่ายทอดเทโนโลยี รวมถึงแพ็คเกจอาวุธ อยู่ที่ลำละ 110 ล้านเหรียญ

จะเห็นได้ว่าราคาไล่ๆกัน แต่การซ่อมบำรุงต่อชั่วโมงบินกริเพนถูกกว่ามาก กริเพนนี่ชั่วโมงบินละประมาณ 8-9หมื่นบาท แต่เอฟ16 ตกประมาณ 180,000-200,000บาท

ตัวเลือกอื่นๆอาจจะเป็นKAI ส่ง TA-50 เข้าแข่งแต่ยากจะชนะเพราะมันเครื่องขับไล่เบา ต้องรออีก2-3ปีค่อยไปลุ่นKF21

ส่วนตัวเชียกริเพน เพราะนี่สนามสุดท้ายละกับการยื่นโครงการ ไม่ต้องห่วงเรื่องอะไหล่ที่การันตีให้ 30ปี แถมได้เทคโนโลยีมาต่อยอด บวกกับพวกแพคเก็จอาวุธ และอื่นๆที่จะได้ รวมถึง(ซาบจะเข้ามาจัดการเครื่องยนต์ เรือดำน้ำด้วย อันนี้ได้ข่าวมาแว่วๆยังไม่ชัวนะครับ)

เอามาทำไมครับของไอ้กัน ไปเอาของจีน แล้วขึ้นเงินเดือนพลเอกหญิงในสังกัดของคนที่คุณชอบกราบดีกว่า
ขอแก้เป็นสวีเดน ผมพลาดเอง แต่ก็เป็น EU และจะเข้า NATO

โดรนมันคนละบทบาทกับเครื่องบินขับไล่เลย เครื่องบินขับไล่ใช้รับมือกับเครื่องบินด้วยกัน โดรนใช้จัดการพวกภาคพื้น เอามาแทนกันไม่ได้มีอาวุธก็เหมือนมีปืนไว้ป้องกันตัว มีโจรเข้าบ้านยังไงก็ต้องสู้ไว้ก่อน สู้ไม่ได้ค่อยใช้การทูตเจรจาอีกทีไป ไม่ใช่ให้โจรมาปล้นฉุดเมียฉุดลูกสาวลากไปข่มขืน ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีอาวุธ

กริพเพนมันของสวีเดนครับ

แล้วไปดูของ singpore ประเทศเท่ากล่องนม แต่มี F15 , F16 , F35 รวมๆแล้วเป็น 100 ลำ

เอาจริงๆฝั่งเราเรดาห์มันเห็นอยู่แล้วครับ แต่มันอยู่ที่คนสั่งว่ามันจะให้เอาขึ้นไหม