วินิ มีส่วนร่วมกับการทำประตูโดยตรงไปแล้วถึง 118 ประตู ภายใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ :

2021/22 : 52 เกม, 22 ประตู, 20 แอสซิสต์
2022/23 : 55 เกม, 23 ประตู, 21 แอสซิสต์
2023/24 : 34 เกม, 21 ประตู, 11 แอสซิสต์ (ยังไม่จบ)

พูดได้เต็มปากว่า วินิ ไม่เหลือความเป็นดาวรุ่งแล้ว ณ ตอนนี้ เขาอยู่ในระดับซูเปอร์สตาร์ประจำทีมอย่างเต็มตัว

วินิ ผู้ซึ่งทำ 2 ประตู และคว้า POTM ในเกม #UCL รอบรองชนะเลิศเลกแรก ที่ อลิอันซ์ อารีนา ได้ศึกษาการเล่นของ คริสเตียโน่, คาริม และ โรนัลโด้ นาซาริโอ้ จากการดูวีดิโอเป็นประจำ นักเตะเหล่านี้คือต้นแบบสำหรับ วินิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่เขาต้องขยับเข้ากลางมากขึ้น

ย้อนกลับไปในช่วงฤดูกาล 2020/21 เป็นสิง่ที่แสดงให้เห็นว่า น้องแกทำงานหนักมากแค่ไหนเพื่อที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของโลก, วินิ ตัดสินใจทำงานฝึกซ้อมตามแบบอย่างของ คริสเตียโน่ เพื่อพัฒนาทั้งด้านร่างกายและเทคนิค วินิ ได้ติดตั้งเครื่องออกกำลังกายและอุปกรณ์ออกกำลังกายคุณภาพสูงไว้ที่บ้านของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Elliptical machine (เครื่อง เดิน/วิ่ง วงรี), Bosu balance (ลูกบอลโยคะฝึกสมดุล), เครื่องวิ่งสายพาน เป็นต้น

วินิ ให้ความสำคัญกับการพัฒนากล้ามเนื้อส่วนบนของร่างกายเพื่อใช้ในการเบียดปะทะระหว่างเกมและบริเวณขา, นับตั้งแต่ย้ายมา เรอัล มาดริด ในปี 2018 วินิ เป็นนักเตะที่มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่อุปสรรคในตอนนั้นคือร่างกายของเขาที่ดูจะบอบบางเกินไปสำหรับ ลาลีกา และลีกยุโรป วินิ ตั้งมั่นว่าจะพัฒนาร่างกายเพื่อที่จะก้าวขึ้นไปสู่อีกระดับ

วินิ ได้ว่าจ้าง คุณ ติอาโก โลโบ (นักกายภาพบำบัด) หลังได้รับบาดเจ็บในเกมกับ อาแจ็กซ์ เมื่อปี 2020 วินิ ได้ใช้เวลาระหว่างช่วง Covid-19 ที่ ลาลีกา หยุดการแข่งขันชั่วคราว เป็นโอกาสในการพัฒนาด้านกายภาพ เป้าหมายของเขาคือการลดน้ำหนักลงและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เขาทำงานอย่างหนักในทุกๆวันเพื่อให้ได้กล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้นตามเป้าที่วางไว้

วินิ ในเดือน พฤศจิกายน 2020 : "ผมฝึกที่สโมสร 2 ชั่วโมง และฝึกต่อที่บ้านอีก 5-6 ชั่วโมง ต่อวัน"

วินิ ทำงานต่อเนื่องจนมาถึงวันที่ 50 ของการทำงานตามตารางที่วางไว้, ในที่สุดการทำงานของเขามันก็เห็นผล ไขมันเขาลดลงเป็นอย่างมาก และได้มวลกล้ามเนื้อเข้ามาแทนซึ่งเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกาย

เขาได้กลายเป็นตัวเลือกแรกของ ซีดาน ในตำแหน่งปีกซ้าย, ซีดาน

นอกจากนี้ วินิ ยังมีเชฟส่วนตัวที่ช่วงจัดตารางการกินอาหารให้เขา เพื่อช่วยให้การกินของเขาสอดคล้องกับการออกกำลังกาย, แม้ วินิ จะไม่ได้มีร่างกายแบบ คริสเตียโน่ แต่เขาก็เลือกที่จะให้เชฟจัดการเรื่องอาหารการกินเหมือนกับของ คริสเตียโน่
- อกไก่, สลัดผัก, ไข่ สำหรับมื้อกลางวัน
- เนื้อสัตว์ต่างๆ, ปลา (เช่น ทูน่า) และ ผักต่างๆ สำหรับมื้อเย็น

วินิ ทำแบบนี้นับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่าการทำงานหนักของเขามันเริ่มออกดอกออกผลให้เห็นกันแล้วในหลายๆฤดูกาลที่ผ่านมา วินิ ได้ก้าวขึ้นมาเป็น ซูเปอร์สตาร์ ของ เรอัล มาดริด อีกทั้งยังได้สืบทอดหมายเลข 7 ของ คริสเตียโน่ อีกด้วย...

และนี่เป็นอีกสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าแม้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้จากทีมไปแล้วแต่มรดกของเขายังอยู่กับ เรอัล มาดริด เสมอในแง่ของแรงบันดาลใจ เป็นแบบอย่าง ให้กับผู้เล่นดาวรุ่งอายุน้อยอีกหลายๆคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ วินิซิอุส จูเนียร์


ยาวหน่อย แต่ดีมาก สำหรับ ผม เวเนซิอุส จูเนียร์ ในวัยๆเดียวกัน คือนักเตะ อันดับ 2 ของโลก รองจากบับเป้

วินิซอุส คือนักเตะประเภท แมทวินเน้อ เลย แม้จะบ่นเยอะ แม้จะชอบเถียงกรรมการ แต่คือนักเตะประเภทที่ อย่าให้มีโอกาสแม้แต่ครั้งเดียว แกพร้อมจะลงโทษทันที ตอนนี้สะสมพลัฃแมทวินเน้อไปเรื่อยๆ เดียวจะโหดขึ้น

วินัยแกมาแบบ CR7 เลย นี่คือซึ่งที่ดาวรุ่งอังกฤษ รักษาไว้ไม่เคยได้ แบบโรนัลโด้เคยพูดหรือนักเตะรุ่นก่อนๆเคยพูดไว้ ว่าดังไว แล้วไม่ได้สนใจเรื่องฟุตบอลเลย

สู้ต่อไปเบอร์ 7 ที่เหมาะสมต่อจาก CR7 (แม้จะไม่เห็นด้วยตอนแรกก็ตาม คิดว่ากดดันฟอมจะตก)

เครดิต : Real madrid thailand fanclub

เก่งจริงๆตัวนี้ แต่แปลกนิดนึงผมรู้สึกว่าออร่าสตาร์แกไม่พุ่งเลยอะ ในชุดตัวอื่นๆยังดูมีความเป็นดารามากกว่าอีกมั้ง


ปล. ผมอาจจะคิดไปเอง

น่าจะคิดไปเองคับยอดติดตามยอดไลน์ในโซเชี่ยวอะไรพวกนี้อุสเเซงอื่นไปเยอะ

โอเค ถ้างั้นก็ยืนยันว่าผมอคติไปเองแล้วจริงๆ เพราะผมชอบมองไปทางบัลเบเด้กับจู๊ดมากกว่า แม่งเท่ชิหาย

ปกติคนมาใส่เบอร์7ออกทะเลทุกคน มีมันเนี่ยล่ะดูจะมีทรงสุดล่ะไม่ได้บอกน่ะว่าจะเก่งเท่าโด้ เเต่ฟอมมันมีมาตฐานติดต่อกัน2-3ปีล่ะ ยิ่งปีนี้ถ้าไม่เจ็บผมว่ายิงขึ้นเลข3แน่เสียดายเจ็บไปช่วงนึง

เล่นดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ส่วนตัวทำไมรู้สึกมันไม่มีออร่า

จู้ดงี้ บัลเบเด้ งี้ยังดูมีออร่ากว่าอีกอะ

ฤดูกาลหน้า

คอมโบกับ เดวี่ส์ฝั่งซ้าย
+ กับเป้ จู๊ด ตรงกลาง

ผมคิดนะ ว่าค่าตัวอาซาเป็นราคาปั้นอุสไป

คุ้มมาก

ทั้ง โรดี้โก้ อุส เบียวโด้ทุกคน

แต่ยังดีที่เบียวแบบ ทุ่มเทมุ่งมั่น วินัย ไม่แอคอาทเบียวในสนาม

ค่าตัวอุสไม่ใช่ถูกๆน่ะ 55

ไปเช็คดู 35-40 ล้านยูโร ประมาณ 30 ล้านปอนด์+ ครับ

ถือว่าเป็นต้นทุน(วินิ) + ค่าปั้น(อาซา)ไปครับ

ค่าตัวอาซาร์ เชลซีได้ชดใช้ด้วยการเสียรือดิเกอร์ไปฟรีๆครับ

ไม่เคยเห็นมาดริดยุคไหนที่ขาดตัวเก่งๆเลย

เก่าไปใหม่มาตลอด

แต่อย่าให้ออกลูกบ่นนะ

ส่ายหัวกันหมดอ่ะ

นึกว่าราวๆเมนดี๊ซะอีก