รวบ “นิค หอยชนะ” ขายคลิปโป๊หาเงินซื้อยาเสพเจอมากกว่าแสนคลิป
สืบนครบาล รวบ “นิค หอยชนะ” ขายคลิปโป๊ รายได้ดี อ้างตกงานช่วงโควิด เอาเงินซื้อยาเสพ อึ้งตรวจพบคลิปลามก อนาจาร มากกว่า 100,000 คลิป
วันที่ 30 เม.ย.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สัญญลักษ์ สังขะภักดี สว.กก.สส.3ฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา 114
ร่วมกันจับกุมตัว นายอณิกวิชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคารชื่อบัญชี นายอณิกวิชญ์ ใช้ในการโอนเงินค่าเข้าร่วมกลุ่ม ยาไอซ์ 12 ถุง หนักชั่งรวมถุง 8.04 กรัม ยาบ้า 2 เม็ด ยาอี 6.5 เม็ด
ข้อหานําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและ ข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้, เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก, ครอบครองสื่อลามกอนาจารเพื่อแสวงหาประโยนช์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) , (ยาบ้า) และ (ยาอี) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) , (ยาบ้า) และ (ยาอี) โดยผิดกฎหมาย
สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก กก.สส.3 บก.สส.บช.น. สืบสวนพบ ผู้กระทำผิดขายคลิป สื่ออนาจารลามกเด็ก ให้แก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก เยาวชน และสังคมไทย
โดยเมื่อวันที่ 26 เม.ย.67 เวลาประมาณ 17.30 น. สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บช.น.ทำการสืบสวนกรณี การโฆษณา/ประกาศขายสื่อ ลามกอนาจาร/นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ได้พบว่ามีการโพสต์สื่อลามกพร้อมทั้งประกาศขายสื่อลามกอนาจารผ่านแพลตฟอร์ม VK
https://vk.com/club212843922
ซึ่งใช้บัญชี VK ชื่อว่า “ไทยนะคะ” มีผู้ติดตาม 25,100 คน มีข้อความโฆษณาดังนี้ “ดูคลิปเต็มในกลุ่มแอดไลน์มา ID : nickytime123 300 บาท ดูได้ทุกคลิป อัปเดตเรื่อยๆ คลิปเยอะมาก 700+” คลิปในกลุ่ม เป็นกรณีการโฆษณา/ประกาศขายสื่อลามกอนาจาร/นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จึงสืบสวนดำเนินการ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนให้สายลับแฝงตัวสืบสวนและเพิ่มเพื่อนผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ไอดี “nickytime123” พบว่าเป็นผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อว่า “ชนะชนะ” จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงส่งข้อความเพื่อสอบถามรายละเอียดในการเข้ากลุ่มไลน์ที่มีสื่อลามก อนาจาร
ต่อมาผู้ใช้บัญชีไลน์ “ชนะชนะ” แจ้งว่า “สนใจเข้ากลุ่มดูคลิป 300 บาท (ตลอดชีพ) ชื่อบัญชีชื่อ นายอณิกวิชญ์ สายลับจึงโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเลขบัญชีดังกล่าว 300 บาท เพื่อทำการเข้ากลุ่มคลิป และส่งสลิปการโอนเงินให้ผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อว่า “ชนะชนะ” เพื่อยืนยันหลักฐานการโอนเงิน
ภายหลังผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อว่า “ชนะชนะ” จึงเชิญสายลับเข้ากลุ่มไลน์ชื่อว่า “ชนะ” ปรากฏสมาชิกในกลุ่มจำนวน 461 บัญชี และ ผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อว่า “ชนะชนะ” แจ้งว่าคลิปอยู่ในโน้ตของกลุ่มต่อมาสายลับจึงตรวจสอบโน้ต (Notes) ของกลุ่มไลน์ชื่อว่า “ชนะ” พบว่ามีคลิปสื่อลามกอนาจารของผู้หญิงกับผู้ชาย สัญชาติไทยและสัญชาติอื่น จำนวนมาก อีกทั้งยังปรากฏภาพและคลิปสื่อลามกอนาจารของเด็กหญิงอีกด้วย
จากการสืบสวนเพิ่มเติมทราบว่าผู้ที่ดำเนินการในการจำหน่ายสื่อลามกอนาจารดังกล่าวคือ นายอณิกวิชญ์ ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่ง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร จึงทำการขอหมายค้นบ้านเพื่อหาพยานหลักฐาน เอาผิด นายอณิกวิชญ์
จนวันที่ 29 เม.ย.67 เวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา ขออนุมัติหมายค้น ศาลอาญาที่ 404 /2567 เข้าค้นคอนโด ตามที่อยู่ดังกล่าว ซึ่งได้พยานหลักฐานดังกล่าวข้างต้นมาดำเนินคดีกับนายอณิกวิชญ์
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมทั้งให้การเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้ขายสื่อลามกอนาจารดังกล่าว เนื่องจากตนเองได้ตกงานช่วงสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ ไม่มีอาชีพ จึงหาช่องทางหาเงิน และเห็นช่องทางในการผู้ขายสื่อลามกอนาจารผ่านสื่อโซเชียลและได้รับผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง
จึงใช้เป็นวิธีในการหาเงินแทนงานประจำที่ได้ตกงานไป โดยรายได้ที่ได้รับจะนำมาจ่ายค่าคอนโด ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และซื้อยาเสพติดมาเสพ จากการเข้าทำการตรวจค้นจับกุมตามอำนาจของหมายค้นศาลอาญา พบ คลิปวิดีโอที่เกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารจำนวนมากกว่า 100,000 คลิป ที่เก็บไว้ใน CPU 1 เครื่อง , เอ็กซ์เทอร์นัลฮาร์ดดิสก์ 3 ลูก (ลูกละ 8 เทราไบต์) และ เอ็กซ์เทอร์นัล อีก 4 อัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงบันทึกจับกุมและนำผู้ต้องหาส่ง สน.ดินแดง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มาข่าว
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_8209155?utm_source=msn_news&utm_medium=footer_click