จริง เพราะผมดูจากผลประโยชน์อื่นด้วย

เช่น เครดิต บริการ โอกาส ช่องทางในอนาคต

จริงครับ ถ้าราคามันไม่หนีกันมาก ผมก็ซื้อจากคนที่ผมไว้ใจนั้นล่ะครับ แต่ถ้าราคามันต่างกันมาก ก็ขอต่อรองก่อน ให้มันลดได้นิดนึงก็ยังดี

จริงครึ่ง ปลอมครึ่ง

คือไอ้ที่มีเจ้าอื่นถูกกว่าอาจจะจริงได้ ตามที่เมนต์บนๆบอกนั่นแหละ การเลือกมันมีหลายปัจจัยนอกจากราคา

แต่ไอ้คำว่า"เห็นว่าซื้อขายกันมานาน" อันเนี้ยอ่ะปลอม..ไอ้ความนานมันต้องมีปัจจัยมากกว่านั้น ไม่ใช่สักแต่นานเฉยๆ

เช่น เจ้าเราให้เครดิตนานกว่าเจ้าอื่น บริการหลังการขายดีกว่า ติดต่อง่ายกว่า ต่อรองเรื่องอื่นๆสะดวกกว่า บลาๆๆๆ

ลองมีแค่ซื้อขายกันมานาน แต่แพงกว่าคนอื่น แถมบริการไม่ได้ดีกว่า เค้าก็หนีไปลองเจ้าใหม่อยู่ดี

ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าการพูด/เจรจาต่างๆ มันเป็นPracticeที่จะต้องมานั่งท่องกันว่า"พูดแบบนี้ = คิดแบบนี้"ด้วย
มันควรจะต้องใช้ไหวพริบพิจารณา มอง"แบบไม่น้ำเต็มแก้ว"ตามสถานการณ์หรือเปล่าครับ?

ยกตัวอย่างแค่คำพูดนี้ของท่าน สำหรับตัวผม ยังมีทั้งจริงและไม่จริงเลย
บ่อยครั้งที่ผมได้รับการเสนอราคาแบบตัดราคาจากซัพพลายเออร์อื่นหรือหน้าใหม่ ผมก็บอกซัพพลายเออร์เจ้าเดิมผมตรงๆ ว่าผมได้ราคานี้มา กลับไปแมตซ์ราคาให้ผมด้วย...เชื่อถือไม่ได้หรือเปล่า?
หรือลูกค้าที่ผมเสนองาน บอกว่าเคยได้ราคานี้ หรือได้ราคานั้น แต่สนใจบริการผม...เชื่อถือไม่ได้หรือเปล่า?

ทุกอย่างมันอาจจะจริงหรือไม่จริง เชื่อถือได้หรือไม่ได้ก็ได้ทั้งนั้น อยู่ที่สถานการณ์ ณ ขณะนั้นๆมั๊ย



เพิ่มเติม : ในมุมของธุรกิจ คุณมีCost Structureของคุณ ต้องการกำไรขั้นต่ำสุดเท่าไหร่ นั่นคือเรื่องภายในของคุณ มั่นใจว่าราคานี้ขายได้เมื่อเทียบกับคุณภาพ ก็ขาย ไม่เห็นต้องสนใจอะไรเยอะ
การทำธุรกิจ แล้วมานั่งจ้องแต่คนนั้นพูดอย่างนั้น คนนี้พูดแบบนี้...โคตรไร้สาระครับ

ย้ายไปส่งคนอื่นหมายความว่ายังไงครับ ?
จริงๆ มันต้องดูสินค้าประกอบ ถึงจะรู้ว่า เค้าพูดจริงรึเปล่า

การบอกว่า มีเจ้าอื่นถูกกว่า ส่วนตัวผมจะไม่พูดมั่วซั่ว ผมต้องมี supplier ที่ถูกกว่าจริงๆ ผมถึงจะพูดไป
แต่การที่ supplier ไม่ลด แต่ยังซื้ออยู่ นั่นหมายถึงบางทีเป็นคู่ค้ามานาน ก็ไม่อยากเปลี่ยน

แต่ถ้าวันนึง ต้องลด cost ขึ้นมา ก็จะเริ่มไปสั่ง supplier เจ้าใหม่ คู่ค้าต้องไว้ทีหลัง

ทั้งนี้ สินค้าก็ต้องเหมือนกัน 100% แต่ถ้าเป็นอย่างอื่น เช่น เมล็ดกาแฟ ราคาเท่ากันแต่แทนกันยาก ก็เปลี่ยนไม่ได้

เขาให้โอกาสคุณ

ต้องดูตามบริบทครับ
คำถามคือมาบอกแบบนี้ทำไม?

เห็นด้วยครับ อย่างเช่นกับน้องคนเดิมที่ไปซ้ำบ่อยๆ ก็เพราะบริการหลังการขายนี่แหล่ะ

เรื่องจริง คนที่จะทำธุรกิจยาวๆ เขาไม่ได้ดูราคาถูกที่สุด(ราคาก็มีส่วนสำคัญ) ดูคุณภาพของและการบริการด้วย

ผมไม่เคยเลือกเจ้าที่ถูกที่สุดเลย สักครั้ง ส่วนใหญ่ผมเลือกเจ้าที่

ยืนยันว่า จะไม่เปลี่ยน condition มากกว่า หลายครั้งราคาแพงสุด ด้วยซ้ำ

ถ้าราคาอยู่ในงบ เอาเจ้าที่รู้มือกัน ดีกว่าไปเสี่ยงกับใครไม่รู้ แล้วมานั่งปวดหัวทีหลัง

ราคาถูกกว่าแต่ บริการแย่ หรือหลังบ้านห่วย เขาก็ไม่เลือกกันเยอะครับ
พวกเจ้าใหม่ๆที่เพิ่งเปิดธุรกิจมีเยอะที่มาบิดราคาน้อยกว่าพวก
แต่คุณภาพก็อาจจะลดหลั่นมาตามราคา

อย่างในมุมผมเปิด Production House มีหลายๆครั้งที่ต้องเลือก Freelance / Outsource มารับงาน

ในพาร์ทคนจ้างหลายๆครั้ง ถูกไว้ก่อนสำหรับสายงานนี้ไม่ได้ดีเสมอไปจริงๆอ่ะครับ (เอาจริงๆแพงแล้วไม่ดีก็เยอะ) แต่มันจะมีเคสแบบว่าเรายอมใช้ outsource ที่แพงกว่าบางเจ้าเพราะคุมคุณภาพง่าย สม่ำเสมอ ตรงต่อเวลา บางทีเจ้าถูกๆเค้ารับงานเยอะเพราะงานถูกต่อให้ดี บางทีก็มีดีเลย์ มีงานตกคุณภาพ ซึ่งบางทีมันกระทบถึงเราด้วย

หรืออย่างในมุมคนที่มาจ้างผม ผมพูดตรงๆเลยว่าผมคิดแพงกว่าหลายเจ้าเพราะส่วนนึงคือบ.ผมเล็ก cost เยอะ แต่ผมเองก็มั่นใจว่าคนในบ.มีเครดิตดีไม่แพ้คนในวงการแน่นอน มันก็ทีลค.ยอมจ่ายครับ หลายๆครั้งก็เจอคำพูดแบบท่านเลย คนอื่นถูกกว่าแต่พี่ไม่เอาแล้วมากดราคา ผมยอมเท่าที่ยอมไหวครับเพราะยังไงผมมี based profit อยู่แล้วที่ต้องการ ถ้าไหวก็ทำครับ หรือบางทีเราเข้ามาทำธุรกิตบางอย่างใหม่ๆ ถ้ามันโดนกดแต่ได้ connection เปิดไปทำอย่างอื่นเพิ่ม ผมก็ยอมนะ มันแล้วแต่ดุลพินิจ

ถ้าซื้อขายกันมานาน ราคาสูงกว่านิดหน่อย ผมก็เลือกที่เดิม ผมไม่เสี่ยงเอาที่ใหม่



แต่ถ้าวันนึงบริการแย่ลง ก็จะหาโอกาสไปลองเจ้าใหม่ จากลอทเล็กๆ ถ้าเขาทำได้ดีพอ ก็ย้ายเจ้าเลย

จริงแล้วก็ไม่จริงด้วย
เพราะราคาถูกกว่า บางทีก็ไม่ครบ/ไม่ใช่ที่อยากได้ ก็เลยมาเลือกเรา
เขาพูดเผื่อเราจะลดให้ หรือแถมอะไรให้

ผมมักจะตอบว่า จะไม่ทำให้ผิดหวังที่เลือกของเรา แค่นั้นแหละ