จากสถานการณ์ล่าสุด ความเป็นไปได้ในการติดอันดับ top 4
ตีตั๋วไป UCL ฤดูกาล 24/25 ของ Manutd คงริบหรี่แล้ว

ความเป็นไปได้ที่ยังมีโอกาส จากการกำหนดชะตาตัวเองคงเหลือเพียง
สมมุติ (จริงๆอาจะไม่จำเป็นต้องสมมุติ) ไม่ได้ไป UCL
แล้ว...

1.ได้แชมป์ FA แล้วได้ไปต่อ
2.ไม่ได้แชมป์ แต่ก็ยังได้ไปต่อ

ส่วนนี้จะยังไม่พูดกันถึงกรณีแกโดนปลดนะครับ
กรณีที่หาก ten Hag ได้ไปต่อจริงๆ ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตาม

ทีมจะเข้าสู่ summer ด้วยโค้ชที่เหลือสัญญาที่เหลือเพียง 1 ปี
เป็นสถานการณ์ที่ยากจะวางแผน ทั้งฝ่ายบอร์ด และ ฝ่ายโค้ช
รวมถึงนักเตะที่จะย้ายเข้ามาด้วย (โค้ชจะได้สัญญาใหม่ไหมก็ไม่รู้ จะวางอนาคตตัวเองยังไง)

เพราะต้องยอมรับว่า ด้วยผลงานภาพรวมทุกมิติของ ten Hag ตลอด 2 ปี
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานปีล่าสุด 23/24
ไม่ใช่ผลงานที่ดึงดูดให้ยื่นสัญญาใหม่เลย

มองกันในฐานะแฟนบอล
ไม่ว่าจะอยู่ต่อเหลือสัญญาปีเดียว หรือ พลิกโผ คือ มีการต่อสัญญา
ก็คงไม่ใช่เรื่องชวนมีความหวังเท่าไหร่สำหรับแฟนๆผีที่สูญเสียความเชื่อมั่นในตัวแกไปแล้ว

ที่ผ่านมาหลัง Post-Fergie
ทีมไม่เคยลงตลาด summer ด้วยการมี ผจก. สัญญาปีเดียวเลย

2 คนที่ได้ต่อสัญญามี Mourinho กับ Solskjaer
เพราะสามารถสร้างความเชื่อมั่นด้วยการมีพัฒนาการ
ในตารางคะแนนในปีที่ 2 ของการคุมทีม
(ได้ที่รองแชมป์ในปีที่ได้สัญญาใหม่ หรือ มีตั๋ว UCL ในมือ)

ต่างจาก ten Hag ที่โอกาสหลุดรถไฟ CL ขบวน 24/25
ที่เป็นเหมือนตั๋วตัดเกรดอนาคต โค้ชของทีมใหญ่หลายๆทีมในยุคนี้

(หาก)Manutd กับ ten Hag ไปต่อด้วยกันในปี 24/25
ก็คงเป็นอะไรที่ ครึ่งๆ กลางๆ จากทั้งวิกฤตศรัทธาแฟนบอล
ทั้งความเชื่อมั่นจากผู้ให้เงินลงทุน คือ บอร์ด

มองในมุมของเจ้าของเงิน ที่ลงทุนให้ ตีถ้วนๆว่า 400m euro ใน 2 ฤดูกาล
จน FFP มาเคาะประตูบ้านว่าถึงเวลาต้องจัดการตัวเองแล้วนะ
แต่ตัวผู้เล่นที่ซื้อมาประสบความสำเร็จ เก็บเกี่ยวดอกผลได้น้อยมาก
มีแค่ไม่กี่คนที่ถึงตอนนี้ สามารถเป็นกำลังหลักให้ทีม หรือ คาดหวังให้เป็นตัวหลักในปีหน้าได้

หลายคนที่ดึงมา ฟอร์มไม่เข้าเป้า, บาดเจ็บ, โรยราเหมือนหมดสภาพ
จะเหลือความเชื่อมั่นจากผู้ลงเงิน ลงทุนให้สักเท่าไหร่

ในแง่ของความหวัง คงมีไม่มากในซัมเมอร์ที่จะถึงถ้า ten Hag ยังได้ไปต่อ
( มันอาจจะดีก็ได้ อยู่ๆ ปีหน้า ten Hag อาจจะเสกฟอร์มอย่างเยี่ยม
แต่ถามว่ามองจากปัจจุบัน ใครจะกล้าหวังแบบนั้นสักกี่คน )

ปล.ตั้งกระทู้ถกกัน หลังเกมที่ชนะ
เอาแบบไม่สาดอารมณ์ ไม่หัวร้อน นี่แหละครับ
ถ้าตั้งหลังแพ้จะเป็นสนามอารมณ์ one way ไป

Summer นี้ แมนยูงบเท่าไหร่ครับ
ค่าเหนื่อยน่าจะเคลียร์ได้เยอะอยุ่นะ

จากข่าวขีดกันไว้ราวๆ net spend 100-150m

+- ขายออก ในมุมผม ได้ถึง 50m ก็สุดๆแล้วครับ
จากประวัติที่ผ่านมา ที่คาดกันว่า ตัวนั้น ตัวนี้ จะได้ราคานี้ ราคานั้น
ผลออกมามัก ขายไม่ออก หมดสัญญา ปล่อยยืม หรือ ขายแบบต่ำกว่า 8 หลัก

ค่าเหนื่อย Varane + Martial
ที่ทีมคงไม่ในออพชั่นต่อ ก็คงลดไปได้เกือบครึ่งล้าน / สัปดาห์

คนที่มีโอกาสออกอย่าง Casemiro, Eriksen
ถ้า 4 คนนี้ไปก็ลดไปหลักล้านเลยครับ

เอาแบบไม่สาดโคลน ก็ต้องให้ความเห็นใจแกด้วยเรื่องใช้งบ แกอาจมีหน้าที่แค่จิ้มนักเตะที่อยากได้(ตรงนี้รับเรื่องผลงานไป) ส่วนเรื่องใช้เงินมากเกินไปเพื่อซื้ออันนี้ให้แกรับเต็มมันก็อาจไม่ถูกนัก เพราะทีมงานที่ต่อรองจ่ายเงินก็คือคนเดิมๆกับที่เคยซื้อเฟร็ดในมูลค่าเกินจนไม่มีเงินเหลือไปซื้อตัวอื่น ตามข้อมูลจากปากมูริญโญ่

ผลงานซีซั่นนี้มันน่าผิดหวังจริงๆแกก็ต้องรับเหมือนกัน ปัจจัยนักเตะเจ็บเยอะก็เป็นส่วนนึง แต่ตัวสำรองทดแทนตัวจริงไม่ได้อันนี้แกก็ต้องรับอีกเรื่องวางแผนซื้อตัว ซึ่งมันก็ไปพ่วงกับเรื่องใช้งบกับบางตัวมากเกินจนซื้อตัวอื่นๆไม่ได้อีก

เรื่องแพงไม่ ถือว่าแบ่งคนละมือกับฝ่ายซื้อ
เข้าใจได้ครับ

แต่หลายเคส อย่าง แอนโทนี่ ที่แกยืนยันยังไงจะเอา
ทั้งที่ราคาแกก็คงรู้ว่าจะทำให้เหลือเงินน้อยลงไปกระทบตำแหน่งอื่น

เอาที่รับรู้จากข่าว คือ เทน ฮ้าก ได้สิทธิ์แทบทั้งหมด
ในการจิ้มตัว ยกเว้นตัวที่ซื้อ เดยอง ไม่ได้แล้วบอร์ดเสนอ คาเซมิโร่

ทั้งนี้ ต่อให้ราคาเหลือแค่ 50m Antony ก็ยังแพง และเป็นดีลที่ไม่เวิร์คใน 2 ปีที่ผ่านมา อาจจะรวมเมาท์เข้าไปด้วย ครับ

จากสิ่งที่ผ่านมา 2 ปี
มันจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นกับการจะลงทุนต่อก็คงเป็นเรื่องเข้าใจได้ครับ เพราะนักเตะที่แกจิ้ม ไม่ว่าจะราคาไหนก็อาจจะต้องบอกว่าแพง เพราะมันใช้งานแทบไม่ได้เลยหลายๆตัว มาลาเซียงี้ พวกที่ยืมมางี้

ผมมองไม่เห็นหนทางที่จะไปต่อนะถ้าไม่เชื่อใจกันอะ
สู้ปลดตอนนี้ดีกว่าปลดกลางฤดูหรือต้นฤดู
แถมต้องมาเซ็นตัวที่มีโอกาสเป็นDeadwood เพิ่ม เพราะมีแต่ฮากที่ใช้เป็น
ซึ่งไอตัวที่เซ็นมาแล้วมีแววเป็นdeadwood อย่าง แอนโธนี มาลาเซีย เมาท์(?) อีก

ถ้าความคิดผมคือเริ่มใหม่เลย เอาคนใหม่เข้ามา ในหน้าที่แค่หัวหน้าผู้ฝึกสอน
นักเตะอยากได้แบบไหนรีเควสให้พวก Dof - Technical director จัดการ
และก็ให้พวกข้างบนกำหนดทิศทางให้ชัดเจนไปเลย ว่าเราจะเล่นรูปแบบไหน
เปลี่ยนโค้ชมันจะได้ไม่ต้องมาคอยโละพวกตัวเฉพาะทาง

เรื่องขุมกำลังผมมองว่ามันไม่ได้แย่ขนาดนั้น คือถ้าโค้ชไม่บ้าจี้ใช้แผนไม่ดูนักเตะ
เช่นให้พวกซีเนียร์ใกล้โรยราวิ่งควายอย่างเดียว
คิดสภาพอันเช่ สั่งให้โมดริช โครส ไปวิ่งควาย แบบแมนยูทั้งฤดูกาล
สภาพก็เละแบบนี้แหละ เพราะคุณใช้นักเตะไม่ถูกจุด
ขุมกำลังชุดนี้มันก็ยังเล่นได้ ดูจากนัดล่าสุด ถึงแม้จะเจอแค่เชฟฟิลยังวัดอะไรไม่ได้

way นี้ก็ถือว่าเป็นอีกทางออกที่น่าสนนะครับ

เข้าใจได้อยู่ว่า ตำแหน่งบริหารต่างๆหลายจุดก็ยังไม่ลงตัว
การจะหาโค้ชในอุดมคติมาทดแทน
กับช่วงเวลาที่ทีมยังอาจจะไม่ตัดสินใจเลยด้วยซ้ำว่าจะเอาไง

บางที ถ้าต้องเปลี่ยนโค้ช
คนต่อไป อาจจะหวังผลแค่ระยะสั้น เปลี่ยนผ่านก็เป็นได้
เพราะในมุมของ top coach ก็คงคิดหนักเหมือนกันที่จะเข้ามา
ในตอนที่สิ่งต่างๆ ในทีมมันยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ (ณ summer นี้)

เรื่องตัวตำแหน่งบริหารนี่ผมก็เข้าใจนะ เพราะยังต้องรอแดนทำสวน ไหนจะลูกมืออื่นๆ
แต่ภาพจากข่าวที่Willcox เข้ามาAudit ETH และแผนการเล่นนัดล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลง
ไอข่าวที่ว่าWillcox บอกให้เล่นแบบ possession นี่มันก็ดูมีมูลขึ้นมาเลย
ซึ่งเป็นอีกนัยว่า ETH มันจะเล่นดีๆมันก็เล่นได้แต่อีโก้ค้ำคอจะเล่นแบบนั้น

ถึงตรงนี้ผมว่าธงของทีมมันก็ชัดเจนละว่าเราจะไปในแนวpossession
ซึ่งผมว่าเราก็ควรจะเริ่มมองหาคนที่มีจุดเด่นแบบที่ทีมต้องการ ทั้งโค้ชและนักเตะ
เข้าใจว่าทุกอย่างมันไม่ได้สามารถทำได้รวดเร็ว
แต่ผมก็มองไม่เห็นข้อดีของการที่ทีมเราชักช้า เพราะการที่ฤดูกาลหน้าทิศทางทีมมันยังไม่ชัดเจน
โอกาสจะไม่ได้ UCL สูง ซึ่งมันมีผลกับทีมแน่ๆถ้าไม่ได้ 2ปีติด
รายได้หดหาย ร้างเกมในระดับสูง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ดี

จริงๆผมอยากให้มองทีมอย่างพวกมาดริด บาเยินนะ
ถ้าทีมรู้สึกว่ามีการบริหารไม่ถูกไม่ควร จัดการทันที โค้ชทำทีมไม่ได้ตามเป้าบิน
ไม่เหมือนแมนยูที่ปล่อยให้ดินพอกหางหมู แก้ปัญหาชักช้า ต้องมาคอยให้เวลาให้ความเห็นใจ
ไอปรัชญา United way บ้าบอเนี่ยโยนทิ้งไปได้แล้ว

อีกเรื่องผมอยากให้แฟนแมนยูด้วยกันเลิกตามหาNext Fergie ที่จะคุมระดับ6-10ปี+ได้แล้ว
โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว เราๆท่านๆยังไม่มีใครทำงานบริษัทเดียวตั้งแต่เริ่มเลย (ยกเว้นราชการ)
การเปลี่ยนโค้ชทุก3-4ปีมันเป็นเรื่องปกติของฟุตบอลแล้ว
หรือพวกทีมใหญ่ตามด้านบนผลงานไม่เข้าเป้าก็บินแล้ว

คิดว่า ในช่วงของการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง โละคนเก่า เติมคนใหม่ ตามระบบการเล่นที่วางเอาไว้นี้
โค้ชที่เข้ามาก็อาจจะใช้เพื่อปรับทีมให้เข้ากับแผน ซึ่งอาจจะไม่ต้องมือเก๋า อาจจะไม่ต้องวาดฝันว่าจะไปถึงฝั่งโดยไว

หลังผ่านไปสัก 2 ปี ทีมเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง และมีทรงที่น่าไว้ใจแล้ว
ก็หาโค้ชใหม่ที่เก่งกว่ามาปั้นให้เป็นแชมป์อีกครั้ง ช่วงนี้ น่าจะพอมีสง่าราศีให้โค้ชมือดีสนใจบ้างแล้วก็ได้

โค้ชใหม่?

eth หมดแล้ว ไม่สมควรได้ไปต่อแล้ว ถึงเเม้นจะเอาถ้วยfaมา เป็นฉากๆ เทคติคของคุณมันไม่ใช่ตกยุคแต่มันใช้ไมได้กับทีมนี้ สัญณาณเตือนมาตั้งแต่ พรีซีซั่น ข้าจะทำ ทรานซิชั่นฟุตที่ดีที่สุดในโลก แต่ตัวผู้เล่น มันคือบอลไดเรค ทั้งนั้น โดนต้อนถลุงตลอด8เดือน ไม่คิดจะพัฒนาเนื้อในแทคติคใดๆ (ถ้าอ้างตัวเจ็บ มันไม่ใช่อะ ทีมคือ11คน ระบบดีทุกอย่างมันก็ดีเอง 8เดือนนะที่โดนถลุง)


- ตลาดซื้อขายปีแรก สอบตก ปีแรก เสียเวลากับfdj ไป3เดือน จนสุดท้ายไป แพนิคบาย ทั้งคาเซ,และแอนโทนี่ ยิ่งคนหลัง ค่าตัวปัจจุบันในเว็บกลางคือ 25m
-ตลาดซื้อขายปีที่สอง mm7 55-60m ??????? เรทราคานี้ กองกลางระดับtop มีมากมายจริงๆในตลาด
-กองหลังที่ถวิลหา แกงค์ไอจอนเมอร์เทอร์ ขายไม่ออก เลยซื้อไม่ได้ ให้สอบผ่านตัวเดียวคือฮอยลุน คือายุน้อย อนาคต


สุดท้าย ความหวังสุดท้ายของ สโมสรนี้คือ sjr และ ineos เพราะเป็นการปฎิวัติสโมสรแบบ100% ไม่มีท่อน้ำเลี้ยงหุ่นเชิดใดๆ ตั้งแต่หมดยุคsaf ที่ชอบที่สุดคือการวางแนวทางการเล่นนี่แหละ มันคือ เมนเบต้าเลย สำหระบฟุตบอลสมัยนี้ ในระยะยาวไม่ใช่มือปืนรับจ้าง.

อีกอย่าง ครั้นจะบอกว่า เปลี่ยนดิ หาโค้ชเก่งๆมา ผมก็ลืมไปเลย ethนี่ ทำ อาแจค ทั้ง2เวอชั่น ยุคfdj กับ ยุคพวกอัลวาเรส เป้นเต้ยของ อิดิวิซี่เลยนะ เรื่องเทคติคอะ อารมณ์แบบ แมนซิอะ ที่นั้นทั้งสองภาค มันฉีกและดูแตกต่างกับทีมอื่นลิบลับ ยิ่งในucl โคตรอันตราย


ถึงได้เครียดมาก ถ้าจะหาโค้ชใหม่ ใครดี ที่มันเก่ง แต่จะแตกแบบนี้ไหม? มันยากมากๆ ข้อนี้

ได้ไปต่อก็ ห เต็มทนแล้วครับ

ผลงานกากหมาขนาดนี้

มันควรโดนปลด ถ้าไม่ปลดแสดงว่าบอร์ดก็หวังไม่ได้เหมือนเดิม

แม้นักเตะจะเจ็บเยอะ แต่ตัวที่ลงไปก็ดีกว่า บางทีมที่เจอกันอีก

ซื้อนักเตะก็กาก แทคติดก็กากอีก ปีก่อนแทคติคไปได้ มันมาพลิกจะทรานซิชัน แล้วบ้าทำทั้งปี ทั้งที่เห็นว่าเล่นแล้วกาก พื้นที่ระหว่าง หลังกับกลาง โล่งอย่างกับทุ่งนา

ไหนจะให้ไอ้แรชลงตลอด แมคโทอีก

เห้อ ปวดจิตกว่าน้ายิ้ม พูดตรงๆ ห จัดๆ

ฟลิก

ค่าชดเชยเพราะต้องไล่ คุ้มไหม ไม่คุ้มก็ไม่ไล่

ผมไม่แน่ใจนะว่าจะมาแนวเดียวกับกับซาบี้หรือป่าว คือผมมองว่าทั้งคู่ทำได้ดีในเรื่องของการดันชุดเยาวชนและให้โอกาสมากขึ้นแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ศักยภาพนักเตะด้วยผมว่าคงต้องผสมผสานค่อยเป็นค่อยไป แต่ถ้าแนวทางการเล่นเริ่มเปลี่ยนหลังจากที่วิลคอกซ์ให้เปลี่ยนรูปแบบการเล่นหากนัดที่เหลือทำได้ดีผมก็ยังอยากให้ทำทีมต่อนะ ขอประเมินหลังจากนี้จนถึงนัดชิงเอฟเอ ถ้ายังเป็นแบบเดิมคงต้องปลดแต่ถ้าปรับแล้วดีขึ้นคิดว่าคงให้โอกาสจนครบสัญญา แต่เรื่องการซื้อตัวนักเตะคงต้องให้บอร์ดวางแผนไปพร้อมกับคัดเลือกผู้จัดการทีมคนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางที่จะให้ทีมเล่น