สัปดาห์นี้ดูบอลแล้วเห็นค่อนข้างชัดเลยว่า นักเตะหลายคนเริ่มออกอาการล้าชัดเจน คือถ้าไม่ใช่ซิตี้ที่คุณภาพทีมสำรองค่อนข้างใกล้เคียงตัวจริงเจอโปรแกรมโหดๆยังไงก็มีปัญหา เพราะถ้าเอาตัวจริงพักคุณภาพจะดร็อปไปชัดเจนเลย

ลองเลื่อนมาดูตารางคะแนน 10 อันดับแรกตอนนี้ต้องบอกว่าใครเจอก็เหนื่อย คือเจอทีมครึ่งบนนี่แพ้ไปก็ยังดูไม่น่าเกลียด เจอพวกครึ่งล่างตารางอย่างฟูลแล่ม เบรนฟอร์ด พาเลซ ก็ไม่ใช่ง่าย

ด้วยสไตล์ฟุตบอลสมัยนี้ใช้กำลังเยอะ ทีมเล็กทีมใหญ่ก็วิ่งใส่กันตลอด ช่วงท้ายฤดูกาลหลายๆทีมเลยเจอกับปัญหาความฟิต ยังไงก็ต้องยอมรับว่าพรีเมียร์ลีกตอนนี้มันโหดจริง

เลยอยากถามคนที่ดูบอลลีกอื่นบ่อยๆ โดยเฉพาะพวกลีกใหญ่ในยุโรป ว่าในลีกตอนนี้มันเข้มข้นเหมือนพรีเมียร์ลีกไหม เพราะย้อนไปสัก 10 ปีก่อน ลีกใหญ่ๆโอกาสที่ทีมใหญ่ ท็อป 1-3 แพ้นี่ถือว่าน้อยมาก แพ้ทีมกลางตารางยังถือว่าล็อคถล่มเลย ถึงจะแพ้รูปเกมก็จะเป็นแบบทีมใหญ่พับสนามบุกแต่พลาดโดนสวนกลับหรือโดนลูกตั้งเตะ สมัยนี้จะชนะแต่ละแมตนี่ยากเย็นเหลือเกิน

สำหรับผมผมถือว่าการดูบอลมันสนุกขึ้นนะ เมื่อก่อนจะดูทีมที่ไม่่ได้เชียร์ก็ต่อเมื่อตั้งใจมาแช่ง หรือเป็นพวกบิ๊กแมตซ์ทีมใหญ่เจอกัน แต่ตอนนี้ถ้าว่างก็จะดูตลอด บอลมันสู้กันสนุกขึ้น ไม่ใช่การพับสนามบุกแบบวันเวย์เหมือนสมัยก่อน

ถ้าอย่างสเปนกับอิตาลีก็ค่อนข้างใช้พละกำลังน้อยกว่านิดหน่อยครับ แต่พวกนั้นจะได้เรื่องของความแพรวพราว เทคนิค ความเขี้ยว ความเจ้าเล่ห์ ทางแทคติคเพิ่มขึ้นมา ซึ่งก็สนุกไปอีกแบบรวมถึงเจอกันมันก็ไม่ใช่ว่าพละกำลังจะชนะได้ทุกครั้งแหละมันผลัดกันแพ้ชนะได้

10 ปีก่อน ทีมแชมป์ลีกอื่นหลายๆปีก็แพ้จำนวนนัดพอๆกับซิตี้ที่ได้แชมป์PL ช่วงนี้อะ ซิตี้ 89-90+บ่อยมากนะ

อย่าลืม ค่าเฉลี่ยทักษะนักเตะอังกฤษมันห่วย มันเลยต้องใช้เรื่องพละกำลังเข้ากลบจุดด้อยตรงนี้ ทีมใหญ่ๆไม่ค่อยเห็นเพราะนักเตะอังกฤษน้อย แต่ทีมครึ่งล่างอะ เห็นชัด

ลองทีมล่างๆอังกฤษอย่างเอฟเวอร์ตัน ลูตัน เชฟฟิล คริสตัลพาเลส ฟอเรส เบิร์นลี่ ไปเล่นลาลีกา เผลอๆต้องวิ่งเพิ่มอีก 1-2 กิโล เพราะเอาบอลคืนมาไม่ได้เพราะเทคนิคห่วยกว่า

เวลาผมดูมาดริด บาร์ซ่า กิโรน่า บางจังหวะคืออึดอัด เพราะสงสัยว่า play นี้เมื่อไรจะเสียบอลสักที

จริงๆก็แย้งหลายรอบละว่า ค่อนข้างจะเข้าใจกันเองว่าพรีเมียร์เข้มข้นที่สุด ทีมเล็กเก่งกว่าเมื่อก่อนแบบนู้นแบบนี้ เพราะไม่มีหลักฐานไหนบ่งชี้ว่าเป็นแบบนั้นเลย พรีเมียร์ลีกยุคสองโค้ชเป๊บคลอปป์ยิ่งชัดว่าทิ้งทีมอื่นเป็นทุ่ง แข่งกันแค่ 1-2 อันดับสามยังคะแนนห่างเป็นสิบแต้ม ปีไหนลิเวอร์กาก แมนซิก็เสือนอนกิน จะมาบอกทีมเล็กยากกว่าสมัยก่อนมันไม่ใช่ขนาดนั้น ผมว่าแค่แทคติกเปลี่ยน มันอาจจะสนุกขึ้น ดูมันส์ดีมากกว่า แต่ภาพรวมลีคมันแกร่งเพราะสองทีมที่ว่ามาในบอลยุโรปช่วงหลายปีมานี้

ลีคอื่นทีมเล็กตบทีมใหญ่บ่อยๆครับ กัลโช่ ลาลีกา เจอทีมท้ายตารางแทบอ้วกทุกปี เมื่อก่อนบอกกัลโช่บอลเกมส์รับ พอไปดูสถิติยิงเยอะสุดในลีคใหญ่ก็บอกว่าทีมเล็กไม่เก่ง พอบอกว่าพรีเมียร์ลีกสูสี ดูคะแนนทิ้งห่างกันเป็นทุ่ง ขณะที่ลีคอื่นมีทีมวนเวียนกันสามสี่ทีม อาจจะไม่ทุกปีนะครับ แต่ก็ยังโดนแฟนพรีเมียร์บ่นใส่ทุกปี แบบนู้นแบบนี้


edit: ลืมประเด็นล้า อันนี้จริงว่าอังกฤษจัดการแย่สุด

พรีเมียร์มันลีคคนดูกันเยอะอวยกันเอง คนที่ดูจริงๆจังๆจะรุ้ว่าลีคอื่นมันไม่หมูมานานแล้ว อิตาลีอย่างเงี้ยเซตบอลกันสนุกกว่าแต่ก่อนเยอะ บอลเยอรมัน ทีมเล็กในบ้านต่อบอลสุ้ไม่กลัว บอลสเปนต่อบอลกันโหดอยุ่ละต่างกันที่คุณภาพนัก้ตะ มีฝรั่งเศสที่พอพุดได้บ้างว่ามันเก่งอยุ่ทีมสองทีม

เยอรมันมันมาก

ส่วนนึงที่ทำให้นักเตะล้าเพราะตารางการแข่งขันดข้าขั้นห่วยเลย

ขอนิยามคำว่า "เข้มข้น" ของ จขกท. ก่อนนะครับ

ถ้า "เข้มข้น" หมายถึง รูปเกม Tactic ผมคิดว่า EPL น่าจะอยู่ลำดับไม่ 2 ก็ 3 อาจจะเป็นรอง บุนเดส หรือ กัลโช่

ถ้า "เข้มข้น" หมายถึง ด้านพละกำลัง ผมคิดว่า EPL น่าจะเป็นลำดับ 1 เวลาแข่งกันแต่ละครั้งใส่กันแทบไม่ยั้ง อีกทั้ง EPL ยังขึ้นชื่อเรื่องการปล่อยเกมไหลต่อเนื่องด้วย กรรมการไม่ค่อยจะหยุดเกมสักเท่าไหร่

ถ้า "เข้มข้น" หมายถึง จำนวนเกมการแข่งขัน EPL ก็จะไม่ต่างจาก ลาลีกา หรือ กัลโช่ สักเท่าไหร่ เพราะมี 20 ทีมเหมือนกัน แต่ถ้าเอาบอลถ้วยมารวมด้วย EPL ก็จะมีจำนวนเกมมากกว่า เพราะมีถึง 2 รายการทั้ง FA Cup และ Carabao Cup ส่วนของ ลาลีกา กัลโช จะมีแค่ โกปา เดอ เร และ โกปา อิตาลี แค่รายการเดียวตามลำดับ ส่วนของบุนเดสจะเบาหน่อยเพราะในลีคมีแค่ 18 ทีม + บอลถ้วยอีก 1 รายการ

ถ้า "เข้มข้น" หมายถึง การจัดการแข่งขัน ผมว่า EPL มาเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องของการยัดเยียดโปรแกรมการแข่งขันให้แต่ละทีมแบบแน่นเอี๊ยดดดด แม้กระทั่งช่วงคริสต์มาส ลากยาวถึงปีใหม่ ก็เห็นจะมีแค่ EPL นี่แหละที่ยังเตะกันอยู่เป็นประเพณีไปเสียแล้ว ในขณะที่ลีคอื่นๆ ต่างพักเบรคหนีหนาวกันหมด ประกอบกับบอลถ้วยที่มี 2 รายการอย่างที่กล่าวไปแล้วด้วยยิ่งเพิ่มโปรแกรมเข้าไปอีก ถ้าเคยได้ยินมาไม่ผิดชาติอื่นๆ เขาจะพยายามจัดโปรแกรมเกื้อหนุนทีมที่ได้ไปเล่นรายการบอลยุโรปอย่างเต็มที่ แต่ EPL นั้นโนสน โนแคร์ บางทีมเตะบอลยุโรปวันพุธเสร็จแล้ววันเสาร์ก็ล่อในบอลลีคต่อไปเลย (ซึ่งอาจจะเป็นทีมเยือนทั้ง 2 เกม)

แต่สำหรับบ้านเราแล้ว EPL ก็น่าจะเป็นลีคอันดับหนึ่งในใจของแฟนบอลส่วนใหญ่ เหตุเพราะการเข้าถึงของลีคนั้นง่ายกว่าลีคอื่น คนที่เป็นแฟนบอลสเปนจะรู้ดีว่าเมื่อก่อนอยากจะดู มาดริด บาร์ซ่า เตะ อาจจะต้องตื่นตี 2 ขึ้นมาดูเลย ก่อนที่ลาลีกา จะปรับเวลาเตะเพื่อขยายตลาดเอเชีย ส่วนแฟนบอลอิตาลีช่วงกัลโช่ มาเนีย กำลังบูมตอนนั้นแฟนๆ ในไทยก็เยอะมากๆ เหมือนกันนะ จนอังกฤษมีการ Re-Branding ลีคของตัวเองเปลี่ยนชื่อจากดิวิชั่น 1 มาเป็นพรีเมียร์ลีค และขยายตลาดมายังบ้านเรามากขึ้นจนได้รับความนิยมในประเทศในบ้านเรา

ปล. ไม่รู้ว่า จขกท. ได้คำตอบจากผมรึเปล่าครับ

ไม่อยากให้เข้าใจผิดว่าเป็นการอวยพรีเมียร์ว่าแข็งแกร่งที่สุดนะครับ เพราะช่วงหลังผมไม่ได้ดูลีกอื่นเลย จะยกตัวอย่างแค่ว่าเมื่อก่อนถ้าไม่ใช่ big 4 แมนยู ปืน หงส์ เชลซี เจอกันผมแทบไม่ดูเลย แต่ตอนนี้อย่างไบร์ตัน เจอนิวผมก็ดูนะเพราะรู้สึกว่าบอลมันสนุกขึ้น

เข้าใจว่าสไตล์ฟุตบอลแต่ละลีกไม่เหมือนกันครับ มีโอกาสผมก็ดูบิ๊กแมตซ์ของลีกอื่นบ้าง แต่ไม่ได้ติดตามบ่อยเท่าพรีเมียร์ เลยสอบถามคนที่ดูลีกอื่นบ่อยๆ เผื่อมีโอกาสจะได้เลือกดูครับ

เรื่องพละกำลัง ผมว่าสมัยนี้เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับบอลสมัยใหม่ แล้วก็ไม่อยากให้มองเรื่องทักษะสักเท่าไรด้วย

ทีมอื่นทีมเล็กของ EPL ก็มีเงินจากค่าลิขสิทธิ์มาซื้อนักเตะดีๆมาสักพักแล้ว

ขอบคุณมากครับ ความเข้มข้นของผมคือดูเอาสนุกแหละครับ เหมือนผู้ชายทั่วไป เป็นคนเตะบอล เล่นเกมบอล เสาร์-อาทิตย์นั่งดูบอล บลัฟกันเรื่องทีมรักกับเพื่อน หรือมีเวลาก็นั่งคุยกับเพื่อนเรื่องฟุตบอลนี่แหละ การดูบอลมันเป็นเหมือนงานอดิเรก ไม่ได้ดูถึงขนาดวิเคราะห์ลงลึกเรื่องแท็คติคมากหรอกครับนอกจากทีมที่เชียร์

จัดตาราง เน้น ตามการถ่ายทอด เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่สนบอลถ้วยอื่น

แถมยัด ลีคคัพ มาเพิ่มอีกถ้วย ด้วย แถมรอบรองถ้วยนี้ เตะเหย้าเยือน อีก

ปีหน้า UCL เตะเพิ่ม 2-4 แมตช์

ไม่รวมทีมชาติ ที่ ปรับมา เป็น เนชั่น ลีก

ไหนจะ สโมสรโลก Format ใหม่ที่เป็นบอลทัวรนาเมนต์

นักเตะตัวหลัก ทีมใหญ่ ชาติใหญ่ ในอังกฤษถ้าลุ้นทุกถ้วยนี่ ไม่มีพักเลย

ถ้าจะทำแบบนี้ ให้เปลี่ยนตัว 7 ตัว ไม่ก็เข้าๆออกๆ ได้แบบ บาสไปเลยเหอะ

เรื่องถ้วยเยอะส่วนตัวผมว่าอ้างไม่ได้ ควรไปโทษทางพรีเมียร์เอา

ถ้วยเยอะ ทีมคุณก็จัดการให้ดีดิ ถ้ามองว่าถ้วยไหนมันเลอะเทอะ ก็เอาดาวรุ่งไปเก็บประสบการณ์เลย พอเข้าลึกๆแล้วจะฝืนเอาตัวจริงลงทำไมอะ เว้นแต่ว่าโลภจะเอาทุกถ้วย ผลมันก็ออกมาตามนั้นอะ ล้า

เข้าใจครับ แต่ก็เป็นเรื่องความรู้สึกเฉยๆครับ น่าจะมันส์ขึ้น ถูกใจเรามากขึ้น เพราะความจริงแล้ว พรีเมียร์ลีกน่าจะเป็นลีคที่คะแนนมีช่องว่างของผู้นำกับทีมตามมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆเลย ดีหน่อยว่าปีนี้ยังมีสามทีมให้ลุ้นแชมป์ ปกติมีแค่สองทีมเองครับช่วง5-6ปีหลัง ลีคอื่นแข่งกันดุเดือดเรื่องคะแนนมากกว่าเยอะ แต่คงไม่ถูกใจคนดูพรีเมียร์หรอก คนคุยด้วยมันน้อยครับ

ที่บอกเจอทีมเล็กไม่ง่าย มันแล้วแต่ว่าเรารู้จักทีมเล็กที่ว่าแค่ไหนอะครับ
คือ เอาจริงๆผมดูเซเรียอาเป็นหลัก ผมไม่รู้จักนักเตะ ฟูแล่ม เบรนฟอร์ด พาเลซ ซักคน และผมก็รู้สึกว่า แมนซิตี้ไปสะดุดเสมอทีมพวกนี้นี่ถือว่าล๊อกถล่มหนัก เกิดขึ้นยากกว่า อินเตอร์แพ้ซาสซูโอโล่หรืออูดิเนเซ่ (หนีตกชั้นอยู่ทั้งคู่) ซะอีก