[วิเคราะห์] ทิศทาง LFC + ผู้จัดการทีม + นักเตะย้ายเข้าออก
พอดีอากาศร้อนๆเลยวิเคราะห์เล่นๆ บวกกับอารมณเบื่อหลังจากเมื่อคืนโดนคาบ้านอีกรอบ ยังดีที่ อาร์เซน่อล ช่วยมาฮีลใจให้หน่อย
แน่นอนว่าทิศทางหรือเส้นทางการลุ้นแชมป์ของ ลิเวอร์พูล ที่เคยอยู่ในอันดับลุ้นแชมป์มาแทบทุกปี ฤดูกาลหน้าแฟนบอลคงต้องทำใจไว้ก่อน เพราะผจก.ทีมคนใหม่คงไม่อาจเสกแชมป์ให้ได้ หรือดีไม่ดีอาจเปลี่ยนถ่ายไปยุกตกต่ำอีกครั้งก็เป็นได้
แต่ยังเชื่อว่าการบริหารของ FSG คงไม่ทำให้ทีมตกต่ำอะไรมากมาย แค่อาจจะไม่ใช่ทีมแคนดิเดตลุ้นแชมป์เหมือนที่เคยก็เท่านั้น
ส่วน ผจก.ทีมคนใหม่ มองดูยังไงก็น่าจะไปลงเอยที่ รูเบน อโมริม อย่างแน่นอน เพราะคิดว่า FSG คงไม่หันไปใช้บริการผจก.ทีมรุ่นเก่า(ดูจากนโยบายการทำทีม) ที่เน้นบริหารจัดการในระยะยาว
ถ้าจะไปสโคปที่ผจก.ทีมยุคใหม่ ก็จะมี เดแซร์บี้ , โธมัส แฟรงค์ , ชาบี้ อลอนโซ่ ซึ่งในรายหลังเจ้าตัวปฏิเสธไปแล้วว่ายังไม่ถึงเวลา แถมยังสนุกกับการทำทีมชุดนี้ที่เพิ่งจะสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ในรอบ 120 ปี !!
ซึ่ง รูเบน อโมริม มีอะไรคล้ายๆ อลอนโซ่ ในบางส่วน คือตัวเขาย้ายจาก สปอร์ติ้ง บราก้า มากุมบังเหียน ลิสบอน พร้อมสถาปนา เถลิงแชมป์เหนือสองทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เบนฟิก้า และ ปอร์โต้ ที่มักจะผูกขาด แชมป์ภายในประเทศ
ส่วนในการให้สัมภาษณ์ของตัวเขา ไม่ได้ออกมาปฏิเสธเสียงแข็งเหมือน อลอนโซ่ ที่ประกาศอยู่ต่ออย่างชัดเจน ผมมองว่าตัวเขาให้เกียรติต้นสังกัด อย่างน้อยก็คว้าแชมป์สั่งลาลีกภายในประเทศอีกปีก่อนย้าย และถือเป็นบททดสอบหน้าใหม่ในฐานะกุนซือในการมาดวลกึ๋น กุนซือระดับอ๋องตัวเป้งอย่าง "เป็ป กวาดิโอลาร์"
ในส่วนของนักเตะขาเข้า-ขาออก มองว่าที่ไม่อยู่แน่นอนน่าจะเป็น "ควีวีน เคลเลเฮอร์" เพราะตัวเขาดูจะเก่งเกินไปสำหรับการเป็นมือสองของทีมใดก็ตาม แถม กลาสโกว์ เซลติก ยักษ์ใหญ่ของวงการลูกหนัง สกอตแลนด์ กำลังจ้องตาเป็นมัน
ส่วนที่มีโอกาสสูงก็น่าจะเป็น "โม ซาล่าห์" เพราะด้วยอายุที่เยอะ แถมแบรนด์ยังดึงดูดเงินจากทีมยักษ์ใหญ่จากซาอุดิอาระเบียได้ ยิ่งประสอดประสานกับนโยบายของ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ด จะเข้ามาทำหน้าที่ใหม่ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายปฎิบัติการฟุตบอล โดยดูทั้งการสรรหาและวิเคราะห์ทีม
สุดท้ายนี้ยังหวังเหลือเกินว่า ลิเวอร์พูล คงจะไม่ตกต่ำไปสู่ยุคมืดอีกครั้ง พร้องทั้งยังไงก็ตามต้องขอบคุณชายที่ชื่อ "เจอร์เก้นส์ คล็อปป์" ที่นำความสุขให้ชาวพลพรรคผองเพื่อน เดอะ ค็อป อีกครั้ง
"ริมรั้วแอนฟิลด์"